ปฏิเสธไม่ได้ว่ารายการเรียลลิตี้โชว์ที่ฮิตมากในบ้านเราตอนนี้คือ Academy Fantasia หรือ AF ที่เพิ่งได้แชมป์คนล่าสุดเป็นหนุ่มนักเรียนนอกอย่าง “นัท-ณัฐ ศักดาทร (V1)” ที่ชนะมาโดยผลโหวตจากคนทั้งประเทศ นัทบอกว่าคนที่ชนะไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่เก่งเสมอไป เพราะเพื่อนๆ อีกหลายคนก็ร้องเพลงเก่ง กว่านัทอีก แต่อาจจะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้นัทได้เป็นเดอะวินเนอร์แทนคนอื่นในครั้งนี้ "ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ก็ไม่รีรอรีบตามไปพูดคุยกับว่าที่นักร้องคนใหม่เรื่องรถยนต์กันเลย
หนุ่มนัทบอกว่าเรื่องรถยนต์นั้นไม่ค่อยมีความรู้มากนักเพราะเพิ่งหัดขับรถตอนที่กลับมาจากเมืองนอกเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนรถคันแรกที่หัดขับก็คือโตโยต้า ราฟ 4 สีน้ำเงินเป็นรถของที่บ้านแต่ไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถ
"ทุกวันนี้นัทยังขับคันเดิมอยู่ครับ แต่ยังไม่คล่องเท่าไหร่เพราะยังไม่คุ้นกับถนนเมืองไทย บางทีถอยไปเกยฟุตบาธนอกจากนี้ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอะไรเพราะผมจะพยายามมีสติอยู่ตลอดเวลาและอยากให้ทุกคนที่ขับรถพยายามนึกถึงคนคอยอยู่บ้านหรือคนที่นั่งข้างว่าหากเราประมาทจะเกิดอะไรตามมา ส่วนการดูแลรถนั้นง่ายๆเลยครับคืออย่าใช้งานรถผิดวิธีและเช็คความพร้อมของเครื่องยนต์ก่อนใช้ทุกครั้ง"
นอกจากเจ้าโตโยต้าเพื่อนซี้ขาลุยแล้วนัทบอกว่ามีรถในฝันอีกคันที่อยากได้ก็คือรถสปอร์ตเพราะเป็นรถที่ดูโฉบเฉี่ยว ไม่ระบุว่าต้องเป็นยี่ห้อไหนเพราะแต่ละคันก็มีเสน่ห์ทั้งนั้น
"ผมไม่สามารถระบุได้ว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดเพราะมันมีจุดเด่นต่างๆกันไป แต่ถ้าได้ลองขับสักคันก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ มันเหมือนกับการล่าฝันของตัวเองถ้าเจอยี่ห้อที่ชอบผมอาจจะควักกระเป๋าซื้อก็ได้ แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่ายังหาไม่เจอครับ แต่คิดอีกทีถ้าให้ซื้อมาใช้อาจจะต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างเพราะถนนบ้านเรายังไม่พร้อมเท่าไหร่แถมทุกวันนี้รถติดมากด้วย นัทว่าคันเดิมนี่ก็ดีอยู่แล้วครับ”
ส่วนวิธีประหยัดน้ำมันของนัทก็คือพยายามศึกษาเส้นทางก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อให้ไปถึงงานตรงเวลาและไม่เปลืองน้ำมันด้วย หรือไม่ก็คือไปรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าซึ่งมสามารถไปได้ทีละหลายๆคนต่างกับรถยนต์ที่ 1 คัน ไปได้ 1 คน
สุดท้ายหนุ่มนัทแอบสารภาพกับเรามาว่า ยังไงๆก็มั่นใจเวลาจับไมค์มากกว่าจับพวงมาลัยรถทุกทีเลย...............
หนุ่มนัทบอกว่าเรื่องรถยนต์นั้นไม่ค่อยมีความรู้มากนักเพราะเพิ่งหัดขับรถตอนที่กลับมาจากเมืองนอกเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนรถคันแรกที่หัดขับก็คือโตโยต้า ราฟ 4 สีน้ำเงินเป็นรถของที่บ้านแต่ไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถ
"ทุกวันนี้นัทยังขับคันเดิมอยู่ครับ แต่ยังไม่คล่องเท่าไหร่เพราะยังไม่คุ้นกับถนนเมืองไทย บางทีถอยไปเกยฟุตบาธนอกจากนี้ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอะไรเพราะผมจะพยายามมีสติอยู่ตลอดเวลาและอยากให้ทุกคนที่ขับรถพยายามนึกถึงคนคอยอยู่บ้านหรือคนที่นั่งข้างว่าหากเราประมาทจะเกิดอะไรตามมา ส่วนการดูแลรถนั้นง่ายๆเลยครับคืออย่าใช้งานรถผิดวิธีและเช็คความพร้อมของเครื่องยนต์ก่อนใช้ทุกครั้ง"
นอกจากเจ้าโตโยต้าเพื่อนซี้ขาลุยแล้วนัทบอกว่ามีรถในฝันอีกคันที่อยากได้ก็คือรถสปอร์ตเพราะเป็นรถที่ดูโฉบเฉี่ยว ไม่ระบุว่าต้องเป็นยี่ห้อไหนเพราะแต่ละคันก็มีเสน่ห์ทั้งนั้น
"ผมไม่สามารถระบุได้ว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดเพราะมันมีจุดเด่นต่างๆกันไป แต่ถ้าได้ลองขับสักคันก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ มันเหมือนกับการล่าฝันของตัวเองถ้าเจอยี่ห้อที่ชอบผมอาจจะควักกระเป๋าซื้อก็ได้ แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่ายังหาไม่เจอครับ แต่คิดอีกทีถ้าให้ซื้อมาใช้อาจจะต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างเพราะถนนบ้านเรายังไม่พร้อมเท่าไหร่แถมทุกวันนี้รถติดมากด้วย นัทว่าคันเดิมนี่ก็ดีอยู่แล้วครับ”
ส่วนวิธีประหยัดน้ำมันของนัทก็คือพยายามศึกษาเส้นทางก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อให้ไปถึงงานตรงเวลาและไม่เปลืองน้ำมันด้วย หรือไม่ก็คือไปรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าซึ่งมสามารถไปได้ทีละหลายๆคนต่างกับรถยนต์ที่ 1 คัน ไปได้ 1 คน
สุดท้ายหนุ่มนัทแอบสารภาพกับเรามาว่า ยังไงๆก็มั่นใจเวลาจับไมค์มากกว่าจับพวงมาลัยรถทุกทีเลย...............
