เรียกว่ามากันเป็นชุดเลย สำหรับสายพันธุ์ซีรีส์ 1 ของบีเอ็มดับเบิลยู เพราะคล้อยหลังการเปิดตัวรุ่นคูเป้หลังคาแข็งมาได้ไม่ทันไร ค่ายใบพัดสีฟ้าจัดการเผยโฉมรุ่นเปิดประทุนของน้องเล็กออกมาแล้ว โดยยังอิงกับแนวคิดแบบเดิมของรถยนต์เปิดประทุน ด้วยการจับคู่กับหลังคาผ้าใบแต่เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นมาอีกนิดด้วยระบบเปิด-ปิดควบคุมด้วยไฟฟ้า
งานนี้เรียกว่าเป็นปีของซีรีส์ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะในช่วงต้นปีนอกจากจะเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตูออกมาแล้ว ยังมีรุ่น 3 ประตูตามออกมาเป็นอีกทางเลือก ก่อนที่จะมีรุ่นคูเป้เผยโฉมในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ซีรีส์ 1 มีตัวถังในการทำตลาดรวมทั้งหมด 4 แบบเทียบเท่ากับซีรีส์ 3
ในเรื่องรายละเอียดทางด้านพื้นฐานนั้น ทางบีเอ็มดับเบิลยูเปิดเผยว่ามีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ในเรื่องของความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในส่วนของเสากระจกบังลมหน้าซึ่งจะต้องรับหน้าที่ในการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการพลิกคว่ำ
ขณะที่รายละเอียดของรูปลักษณ์โดยรวมไม่แตกต่างจากรุ่นคูเป้ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนในการเข้ามาทำตลาดสปอร์ตรุ่นเล็กแทนที่รุ่น 2002 ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูห่างหายมานานกว่า 30 ปี
สำหรับหลังคาอ่อนแบบพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้านั้น มีการพัฒนาให้ตัวโครงหลังคามีความแข็งแกร่งนั่นจึงทำให้สามารถกางออกได้แม้กำลังขับอยู่ แต่จะต้องมีความเร็วไม่เกิน 25 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลาในการทำงานเพียง 22 วินาทีในการกางออกหรือพับเก็บ โดยที่ขนาดของระบบหลังมีความกะทัดรัด เมื่อพับเก็บแล้วไม่กินพื้นที่ในห้องโดยสารมากนัก สามารถวางถุงกอล์ฟได้ 1 ถุงอย่างสบายๆ ส่วนตัวรถมีมิติใกล้เคียงกับรุ่นคูเป้ ด้วยความยาว 4,350 มิลลิเมตร กว้าง 1,748 มิลลิเมตร สูง 1,411 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
สิ่งที่ต่างจากรุ่นคูเป้เห็นจะเป็นเรื่องของทางเลือกเครื่องยนต์ เพราะมากันเพียบ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน เริ่มกับรุ่น 118i บล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี 143 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที ตามด้วยรุ่น 120i เครื่องยนต์เดียวกับ 118i แต่ขยับกำลังขึ้นมาเป็น 170 แรงม้า ที่ 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที
แต่ถ้าชอบเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ทวินแคม 24 วาล์ว ก็ต้องหันมาคบกับรุ่น 125i มีความจุ 3,000 ซีซี 218 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 2,500-4,250 รอบต่อนาที
และแรงจัดกับรุ่น 135i ความจุ ในพิกัด 3,000 ซีซีเหมือนกัน แต่เป็นเครื่องยนต์คนละบล็อก อัดความแรงด้วยเทอร์โบคู่ มีกำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 43.6 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบต่อนาที เร็วสะใจกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที และความเร็วปลายถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนหนึ่งเดียวของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นรุ่น 120d บล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี 177 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบต่อนาที ทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ แต่ถ้าใครอยากสบายก็มีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือกใช้
บีเอ็มดับเบิลยูเผยว่าจะส่งซีรีส์ 1 เปิดประทุนลุยตลาดยุโรปในปลายปีนี้ ส่วนตลาดสหรัฐอเมริกา จะเริ่มขายในเดือนมีนาคม ปี 2008 แต่ก็มีแค่ 2 รุ่น โดยนอกจาก 135i แล้ว ยังมีรุ่น 128i ให้เลือกเป็นบล็อก 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี 230 แรงม้าให้เลือกใช้อีกด้วย
งานนี้เรียกว่าเป็นปีของซีรีส์ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะในช่วงต้นปีนอกจากจะเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตูออกมาแล้ว ยังมีรุ่น 3 ประตูตามออกมาเป็นอีกทางเลือก ก่อนที่จะมีรุ่นคูเป้เผยโฉมในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ซีรีส์ 1 มีตัวถังในการทำตลาดรวมทั้งหมด 4 แบบเทียบเท่ากับซีรีส์ 3
ในเรื่องรายละเอียดทางด้านพื้นฐานนั้น ทางบีเอ็มดับเบิลยูเปิดเผยว่ามีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ในเรื่องของความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในส่วนของเสากระจกบังลมหน้าซึ่งจะต้องรับหน้าที่ในการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการพลิกคว่ำ
ขณะที่รายละเอียดของรูปลักษณ์โดยรวมไม่แตกต่างจากรุ่นคูเป้ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนในการเข้ามาทำตลาดสปอร์ตรุ่นเล็กแทนที่รุ่น 2002 ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูห่างหายมานานกว่า 30 ปี
สำหรับหลังคาอ่อนแบบพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้านั้น มีการพัฒนาให้ตัวโครงหลังคามีความแข็งแกร่งนั่นจึงทำให้สามารถกางออกได้แม้กำลังขับอยู่ แต่จะต้องมีความเร็วไม่เกิน 25 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลาในการทำงานเพียง 22 วินาทีในการกางออกหรือพับเก็บ โดยที่ขนาดของระบบหลังมีความกะทัดรัด เมื่อพับเก็บแล้วไม่กินพื้นที่ในห้องโดยสารมากนัก สามารถวางถุงกอล์ฟได้ 1 ถุงอย่างสบายๆ ส่วนตัวรถมีมิติใกล้เคียงกับรุ่นคูเป้ ด้วยความยาว 4,350 มิลลิเมตร กว้าง 1,748 มิลลิเมตร สูง 1,411 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
สิ่งที่ต่างจากรุ่นคูเป้เห็นจะเป็นเรื่องของทางเลือกเครื่องยนต์ เพราะมากันเพียบ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน เริ่มกับรุ่น 118i บล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี 143 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที ตามด้วยรุ่น 120i เครื่องยนต์เดียวกับ 118i แต่ขยับกำลังขึ้นมาเป็น 170 แรงม้า ที่ 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที
แต่ถ้าชอบเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ทวินแคม 24 วาล์ว ก็ต้องหันมาคบกับรุ่น 125i มีความจุ 3,000 ซีซี 218 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 2,500-4,250 รอบต่อนาที
และแรงจัดกับรุ่น 135i ความจุ ในพิกัด 3,000 ซีซีเหมือนกัน แต่เป็นเครื่องยนต์คนละบล็อก อัดความแรงด้วยเทอร์โบคู่ มีกำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 43.6 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบต่อนาที เร็วสะใจกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที และความเร็วปลายถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนหนึ่งเดียวของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นรุ่น 120d บล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี 177 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบต่อนาที ทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ แต่ถ้าใครอยากสบายก็มีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือกใช้
บีเอ็มดับเบิลยูเผยว่าจะส่งซีรีส์ 1 เปิดประทุนลุยตลาดยุโรปในปลายปีนี้ ส่วนตลาดสหรัฐอเมริกา จะเริ่มขายในเดือนมีนาคม ปี 2008 แต่ก็มีแค่ 2 รุ่น โดยนอกจาก 135i แล้ว ยังมีรุ่น 128i ให้เลือกเป็นบล็อก 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี 230 แรงม้าให้เลือกใช้อีกด้วย