xs
xsm
sm
md
lg

ฟอร์จูนเนอร์ เบนซินขับสอง...SUV- PPVแล้วไง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร เมื่อพูดถึงรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่งโดยเฉพาะรถอเนกประสงค์จำพวก “พีพีวี” ปิกอัพดัดแปลงอย่าง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีซูซุ มิว-7 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ฯ กับเอสยูวีพันธุ์แท้อย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี เชฟโรเลต แคปติวา หรือนิสสัน เอ็กซ์-เทรลฯ ซึ่งประเด็นคำถาม-คำเถียงมักอยู่ตรง รถทั้งสองประเภทนี้สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้หรือไม่?

จริงๆมันก็มองได้สองด้านละครับ คือหลายคน(ลูกค้าจะซื้อรถจริงๆ)มักเอาราคามาเป็นตัวตั้งว่า ในวงเงินเท่านี้ อยากได้รถแบบนี้ จากนั้นดูว่ามีรถรุ่นไหนอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ตั้งไว้ในใจบ้างซึ่งมันก็จะคละเคล้ากันไปหมด ขณะที่อีกฝั่งก็มองว่า“รถสองประเภทนี้มันเทียบกันไม่ได้” เพราะต้องแยกตามแหล่งกำเนิดให้ชัดเจน พื้นฐานจากเก๋งก็อยู่ส่วนเก๋ง พื้นฐานปิกอัพส่วนปิกอัพ และนี่ยังไม่รวมถึงการแบ่งคลาสเพื่อเสียภาษีสรรพษามิตจากหน้าโรงงานนะครับ

เอาเป็นว่ามันอยู่ที่มุมมองของใครแล้วกัน เพราะบางคนวิจารณ์ก็ไม่ซื้อ บางคนจะซื้อก็ไม่เคยขับ ทั้งยังเจอกับคำพูดการตลาดของค่ายรถยนต์เข้าไปอีก ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องของการให้ข้อมูลที่แท้จริง ในหลายๆมิติ และที่สำคัญเลือกซื้อคันที่ชอบ ตรงกับการใช้ในชีวิตประจำวัน และบริหารจัดการเงิน(ซื้อ-ซ่อมบำรุง)ได้ก็จบแล้ว

แน่นอนว่าที่พูดมาทั้งหมด ผมกำลังโยงไปถึงรถอเนกประสงค์คันโตยอดขายกระฉูด “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ที่ไม่ฟังเสียงใคร ไม่ต้องสนว่าว่าจะเป็น พีพีวี หรือ เอสยูวี เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2547 จนปัจจุบันโกยยอดขายในประเทศทะลุ 6 หมื่นคันไปเรียบร้อย

ล่าสุดต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเสริมไลน์ให้กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งการเปิดตัวในโฆษณาค่อนข้างฮือฮาด้วยการดึงพรีเซนเตอร์อย่างน้อง “แพนเค้ก”เขมนิจ จามิกรณ์ ที่แว่วๆมาว่าค่าตัวอยู่ระดับเลข 7 หลักเลยทีเดียว

จุดประสงค์การเปิดตัว ฟอร์จูนเนอร์ 2.7V ขับเคลื่อน 2 ล้อ นอกจากจะเป็นการเพิ่มโปรดักส์ไลน์อัพ เพื่อเป็นทางเลือกลูกค้าแล้ว ยังถือเป็นการต้อนรับน้องใหม่อย่าง แคปติวาหรือขัดขา ซีอาร์-วี เอาไว้กรายๆ โดยโตโยต้าตั้งเป้ายอดขายเฉพาะรุ่นนี้ไว้ 200 คันต่อเดือน จากยอดขายฟอร์จูนเนอร์รวมที่ตอนนี้วิ่งอยู่เดือนละ 1,000-1,400 คัน

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ให้รถ“ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง” มาลองขับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตามคาดครับความรู้สึกการขับก็ต่างกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อนิดหน่อย โดยที่ความเร็วต่ำแถบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่ถ้าเหยียบเกิน100 กม./ชม.ขึ้นไปอาจพอจับได้บ้างว่า ถ้าเป็นตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ ดูจะหนืดๆหน่วงๆกว่านิดหน่อย

ขณะที่ความเร็วประมาณ 120-140 กม./ชม. วิ่งทางตรงยาวๆยังให้การทรงตัวดี แต่เวลาเข้าโค้งหนักๆอาจมีอาการ “โอเวอร์สเตียร์“ นิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับหลุดน่าเกลียด เรียกว่าดิ้นกันพอหอมปากหอมคอ ส่วนการบังคับผ่านพวงมาลัย แร็กแอนด์พิเนี่ยน ยังเฉียบคมแม่นยำ แต่ถ้าวิ่งในเมืองอาจไม่คล่องตัวนักด้วยรัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร เรียกว่าถ้าให้น้องแพนเค้กมาขับจริงๆ เวลาถอยเข้าที่จอดหรือกลับรถ ก็คงสาวพวงมาลัยเหนื่อยเหมือนกัน

เครื่องยนต์เบนซินรหัส 2TR-FE 2700 ซีซี VVT-i DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที เดินเงียบสุภาพกว่าตัวดีเซลเยอะ ทั้งยังรีดพลังออกมาได้สมเนื้อสมตัว ลื่นไหลทุกความเร็วรอบ อัตราเร่งหายห่วง ความเร็วปลายไหลเกิน 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสบายๆ

ระบบส่งกำลังเป็นอัตโนมัติ 4 สปีด ส่วนการเข้าเกียร์แบบขั้นบันไดใช้งานคล่องมือดีทีเดียว สำหรับช่วงล่างหน้าอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง หลังยังเป็นคานแข็ง 4 ลิงค์พร้อมคอยล์สปริง ถึงแม้การขับทางไกลรถดูนิ่งใช้ได้ แต่ถ้าในเมืองเจอลูกระนาดหรือขึ้นลงคอสะพานก็เด้งๆอยู่พอสมควร ซึ่งทั้ง มิว-7 ก็ประมาณนี้ ส่วนเอเวอเรสต์นั้นดูอาการจะหนักกว่า

ระบบเบรกหน้าเป็นดิสกพร้อมครีบระบายความร้อน หลังเป็นดรัม พร้อมระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรก LSPV ที่ทำหน้าที่ห้ามล้อขนาด 16 นิ้ว กับน้ำหนักรถกว่า 1.7 ตัน ดูจะยังไม่เนียนนัก คือไม่ได้หมายความว่าเบรกไม่จับนะครับ แต่ช่วงแรกๆที่ยังไม่ชินก็เพื่อระยะไว้หน่อยดีกว่า

ด้านระบบความปลอดภัยอื่นๆ มีให้ทั้งระบบเบรกABS ถุงลมนิรภัย 2 จุด ด้านคนขับและผู้โดยสาร โครงสร้างตัวถึง GOA พร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัย-แป้นเบรกแบบยุบตัวเมื่อเกิดการชน รวมถึงเซนเซอร์กะระยะถอยหลัง สิริรวมทั้งหมดราคา 1.096 ล้านบาท ถูกกว่าตัวเบนซินขับเคลื่อนสี่ล้อประมาณ 5 หมื่นบาท

นอกจากนี้โตโยต้าเคลมว่า ฟอร์จูนเนอร์ 2.7V ขับเคลื่อนสองล้อจะประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่ประมาณ 10% ซึ่งจากการดูอัตราสิ้นเปลืองบนมาตรวัดที่ความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม. เลขซดนำมันจะสวิงอยู่ประมาณ 9.1- 9.9 กิโลเมตรต่อลิตร

รวบรัดตัดความ...จุดเด่นของฟอร์จูนเนอร์ 2.7เบนซินขับเคลื่อนสองล้อ อยู่ตรงเครื่องยนต์พลังแรง ที่มาพร้อมความเงียบ รวมถึงความใหญ่โตของตัวถัง ภายในกว้างขวาง อเนกประสงค์ ทั้งยังประหยัดน้ำมันกว่าตัวเบนซินขับสี่ แต่ความรู้สึกการขับรวมๆ ผมชอบตัวดีเซลขับเคลื่อนสี่ล้อมากกว่า ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสองล้อในเครื่องยนต์ดีเซลมีแน่ และแว่วๆว่าจะมาพร้อมการไมเนอร์เชนจ์ คาดว่าอาจได้เห็นกันปีหน้า

อย่างไรก็ตามฟอร์จูนเนอร์ ถือเป็นรถที่(เริ่ม)ทำความคุ้นเคยได้ยาก ด้วยพื้นฐานจากรถปิกอัพ จึงทำให้ความรู้สึกการขับรวมๆยังไม่เนียนเท่าบรรดาเอสยูวีพันธุ์แท้ โดยเฉพาะการถ่ายเทน้ำหนัก และความสมดุลของช่วงล่าง...แต่ไม่ว่าจะเป็นพีพีวี-เอสยูวี หรือใครจะเอาไปเทียบอย่างไรก็สุดแล้วแต่ เพราะแล้วไงละครับ The world is my (Toyota)ยอดขายกระจายอยู่แ
ล้ว









กำลังโหลดความคิดเห็น