xs
xsm
sm
md
lg

Porsche Cayenne Hybrid รอได้ไม่เกินปี 2010

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเปิดตัวเอสยูวีรุ่นคาเยนน์ของพอร์ชกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็นขบถต่ออุดมการณ์ของแบรนด์ซูเปอร์คาร์แห่งเยอรมนีไปแล้ว เพราะถือเป็นครั้งแรกที่พอร์ชกล้าแหวกกฎของการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำไปสู่การเจาะตลาดเอสยูวีตามกระแสนิยม ก่อนที่จะเกิดผลผลิตที่ 2 ซึ่งไม่เคยมีอยู่ในสาระบบของพอร์ชมาก่อนอย่างรถยนต์นั่งซีดาน 4 ประตูกับรุ่นพานาเมอราที่มีคิวเปิดตัวในปี 2009

และในปลายปีนี้ คาเยนน์กำลังจะทำในสิ่งที่พอร์ชยังไม่เคยทำอีกครั้ง เมื่อจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่แปะโลโก้ม้าผยองของค่ายนี้ซึ่งหันมาสวมหัวใจของขุมพลังลูกผสมอย่างไฮบริด (Hybrid) เมื่อมีการยืนยันแล้วว่า พอร์ชจะเปิดตัวต้นแบบรุ่นนี้ในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 กลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และเริ่มทำตลาดไม่เกินสิ้นทศวรรษนี้

ข่าวการพัฒนารถยนต์ไฮบริดของพอร์ชไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการระบุออกมาตั้งแต่ปี 2005 แล้วว่าพอร์ชเอาจริงกับเทคโนโลยีนี้ ส่วนคันที่นำมาจัดแสดงยังเป็นต้นแบบที่ยึดพื้นฐานของคาเยนน์รุ่นใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินวี6 เป็นพื้นฐานในการพัฒนา และพอร์ชยืนยันว่าสามารถปรับปรุงและแก้ไขจนสามารถนำออกแล่นเพื่อใช้งานจริงบนท้องถนนได้แล้ว

เทคโนโลยีไฮบริดที่นำมาใช้กับคาเยนน์เป็นแบบ Parallel full hybrid ซึ่งมีชิ้นส่วนหลักๆ ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งเป็นบล็อกเบนซินไดเร็กต์อินเจ๊กชัน Direct Fuel Injection (DFI) วี6 3,600 ซีซี,

แบตเตอรี่ซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่ทางด้านใต้ของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีกระแสไฟฟ้า 288 โวลต์ และกำลังไฟ 38 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งจะมีขนาดบางเฉียบและติดตั้งแทรกตัวระหว่างเครื่องยนต์กับชุดเกียร์ของระบบส่งกำลัง

พอร์ชให้เหตุผลที่เลือกใช้ระบบไฮบริดเช่นนี้ก็เพราะมีรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวรถอย่างคาเยนน์ และไม่ต้องดัดแปลงในเรื่องของตัวรถให้วุ่นวายมากเหมือนกับระบบไฮบริดแบบที่ใช้ในโตโยต้า พริอุส และที่สำคัญคือ พอร์ช มองระบบไฮบริดเป็นแค่ตัวช่วยเสริมเพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลงมาอีกเล็กน้อยพร้อมกับคงสมรรถนะและความเร้าใจในการขับสอดคล้องกับปรัชญาการผลิตรถของพอร์ช มากกว่าการทำตัวเลขความประหยัดแบบเห็นแล้วฮือฮา

เพราะยังไงรถยนต์คันโต เครื่องยนต์ใหญ่ และแรงม้าเยอะ การทำให้มีตัวเลขความสิ้นเปลืองน้ำมันลดลงโดยที่ยังใช้พื้นฐานเดิมๆ ของตัวรถเกือบ 100% ถือเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งแนวคิดนี้แตกต่างจากการเลือกใช้ระบบไฮบริดของโตโยต้า และค่ายอื่นๆ ซึ่งเน้นไปที่ความประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ และลดค่ามลพิษที่ปลดปล่อยออกมา โดยเฉพาะเมื่อขับบนเส้นทางที่มีสภาพการจราจรติดขัด

ในเรื่องของการตอบสนองด้านสมรรถนะ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะจากการทดสอบล่าสุดของพอร์ชมีตัวเลขอยู่ที่ 9.8 ลิตร/ 100 กิโลเมตร หรือ 10.2 กิโลเมตร/ลิตร กับการขับภายใต้รูปแบบผสมของ NEDC หรือ European driving cycle และลดลงอย่างมากเมื่อกดคันเร่งแบบเต็มเท้าบนออโต้บาห์น หรือในขณะที่มีการลากจูงสัมภาระขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านท้ายของตัวรถ

โดยพอร์ชเผยว่าเมื่อถึงเวลาขายจริงแล้ว จะพยายามพัฒนาตัวเลขความสิ้นเปลืองให้อยู่ในระดับ 8.9 ลิตร/100กิโลเมตร หรือ 11.2 กิโลเมตร/ลิตรให้ได้

รอกันได้อีกไม่นาน คาเยนน์ ไฮบริดจะถูกส่งทำตลาดอย่างแน่นอน นอกจากนั้นพอร์ชยังยืนยันอีกว่า จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับรถยนต์ซดานรุ่นพานาเมอราอีกด้วยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น