อีกครั้งหนึ่งของ “ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง” ที่มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพยางรถยนต์ โดยคราวนี้ “มิชลิน” เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบยางรถยนต์รุ่นใหม่ “แลตติจูด” ณ สนามพีระ เซอร์กิตพัทยา
ยาง “แลตติจูด” เป็นยางประเภท HP (High Performance) ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อรถประเภทเอสยูวี ใช้งานในเมืองหรือวิ่งทางเรียบเป็นหลัก ซึ่งโดยปกติยางประเภทนี้จะไม่สามารถใช้งานในทางฝุ่นได้ เนื่องจากเนื้อยางจะเปื่อยยุ่ยและเกิดความเสียหายอันมีสาเหตุมาจากส่วนผสมของยางที่ต้องการความนุ่มเป็นสำคัญ แต่ “แลตติจูด” แตกต่างออกไป
ด้วยการคิดค้นส่วนผสมของยางใหม่ที่พัฒนาจากยางรถที่ใช้งานในเหมือง เพิ่มความเหนียวและยืดหยุ่นตัวมากขึ้น ทนทานต่อการบาดตำจากเศษก้อนหินต่างๆ บนถนนและเส้นทางออฟโรดเป็นอย่างดี ทำให้สามารถใช้ทางฝุ่นได้เป็นครั้งแรกของยางรถยนต์ประเภทนี้ และยังมีผลให้อายุการใช้งานของยางยาวนานอีกถึง 20% (อ้างอิงจากการทดสอบของสถาบัน TUV SUD ของเยอรมนี)
นอกจากนั้น มิชลิน ยังคิดค้นบล็อกดอกยางใหม่ “สเตบิลิกริป” (StabiliGrip) เพิ่มร่องบากในบล็อกดอกยางจำนวนมาก ทำให้ดอกยางโดยรวมมีความมั่นคงสูง ซึ่งช่วยในการตัดฟิล์มน้ำขณะวิ่งทางเปียกและเพิ่มสมรรถนะการเกาะถนนเวลาเข้าโค้งบนพื้นผิวแห้ง โดยทั้งหมดที่กล่าวมาเราจะทดสอบผ่านด่าน 4 รูปแบบดังต่อไปนี้
ด่านที่ 1 ลุยออฟโรด
เป็นการขับขี่ในเส้นทางแบบออฟโรด (ใช้รถโตโยต้า วีโก้ 4x4) แม้จะเป็นทางสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยกวดและเศษหินแหลมคม ทำให้เราทราบว่า ยางแลตติจูด สามารถทนต่อการขับในเส้นทางลูกรังสมบุกสมบันแบบสบายๆ โดยเนื้อยางไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ด่านที่ 2 เทียบความเงียบ
ด่านนี้ มิชลิน ให้ขับรถรุ่นเดียวกัน(มิตซูบิชิ ไทรทัน) แต่ใส่ยางต่างยี่ห้อ เพื่อเปรียบเทียบระหว่าง แลตติจูดกับยางคู่แข่ง ในหัวข้อความเงียบ โดยใช้เส้นทางถนนลาดยางมีหลุมและบ่อกระจายอยู่ตลอด ซึ่งผลขอฟันธงว่า เงียบทั้งคู่แต่บางจังหวะยางคู่แข่งดูจะเงียบกว่าเล็กน้อย
ด่านที่ 3 หาความเกาะ
ทดสอบด้วยการขับแบบสลาลม ทั้งพื้นผิวเปียกและแห้ง โดยขับ 2 รอบผลัดกับยางของคู่แข่งซึ่งใส่อยู่ในรถรุ่นเดียวกัน(นิสสัน เอ็กเทล) เพื่อดูถึงประสิทธิภาพในการเกาะถนน ผลการขับปรากฏว่า “แลตติจูด” เกาะถนนดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีอาการท้ายปัดไม่ว่าจะถนนเปียกหรือแห้ง ขณะที่ยางคู่แข่งออกอาการท้ายปัดเล็กน้อยในถนนแห้งและปัดอย่างแรงบนถนนเปียก
ด่านที่ 4 ขับเต็มสปีด
ด่านนี้มิชลินเลือก รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ็กซ์3 ให้ขับในแท็คของสนามพีระ เซอร์กิต โดยใช้ความเร็วได้เต็มที่ตามความสามารถของนักขับแต่ละคน เพื่อดูถึงประสิทธิภาพโดยรวมของยางแลตติจูดไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้ง ความเร็วและการเบรก ต้องขอตอบว่า ประทับใจให้คะแนนเต็มทุกข้อที่เอ่ยมา
ก่อนจบการทดสอบ มิชลิน จัดรอบพิเศษให้สื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์ HOT LAPS โดยจับเอานักขับรถมืออาชีพประจำทีมมิชลินมาขับ “พอร์เช่ คาเยนน์”(รถที่เป็นจุดกำเนิดของยาง แลตติจูด) แบบเต็มสปีดให้สื่อมวลชนนั่ง 2 รอบสนามพีระ เซอร์กิต พัทยา ทำเอาสื่อมวลชนหลายท่านออกอาการ หน้ายิ้มขาสั่น ถามหายาดม หลังลงจากเจ้า คาเยนน์ กันเป็นแถว
สุดท้ายบทสรุปของการทดสอบ เราฟันธงว่า แลตติจูด เป็นยางที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองเอสยูวีสมรรถนะสูงใช้งานในเมืองได้ตรงใจที่สุดจริงๆ
หมายเหตุ - มิชลิน แลตติจูด มีวางจำหน่าย 2 รุ่นคือ รุ่นแลตติจูด ทัวร์ เอชพี สำหรับรถเอสยูวี และแลตติจูด สปอร์ต สำหรับรถซุปเปอร์ เอสยูวี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการยางมิชลินทั่วประเทศ หรือที่มิชลิน ฮอตไลน์ โทร.0-2619-3300