Miss Tiffany Universe 2007 เป็นอีกหนึ่งเวทีประกวดที่เหล่าสาวประเภทสองใฝ่ฝันที่จะมายืนให้ได้สักครั้ง หลายคนอาจจะไม่สมหวังแต่ก็ต้องมี 1 คนที่รับโอกาสและเกียรติให้ครองมงกุฏนี้ ซึ่งสาวสวยคนนั้นก็คือ ธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร หรือ "น้องฟิล์ม" ที่"ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" จะพาไปพูดคุยกับเธอหลังจากที่ได้รับตำแหน่งมาแบบสดๆร้อนๆ ตอนนี้น้องฟิล์มอายุ 20 ปี กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ สาขาการบัญชี ชั้นปี 2 ถือว่ามีประสบการณ์เยอะเพราะผ่านมาหลายเวทีแล้วแต่ปีนี้อายุครบ 20 ปี เลยลองมาประกวดเวทีใหญ่ดูสักครั้ง และเป็นปีพิเศษเพราะครบรอบ 10 ปีในการจัดประกวดซึ่งฟิล์มถือว่าสำคัญและยิ่งใหญ่มากของสาวประเภทสองที่สักครั้งในชีวิตต้องมายืน ณ เวทีนี้ให้ได้
"ส่วนที่ได้ตำแหน่งเพราะว่าฟิล์มเป็นตัวของตัวเองค่ะ คือเราไม่จำเป็นจะต้องไปเลียบแบบใคร เราอาจจะไม่สวยเท่าผู้เข้าประกวดคนอื่นๆแต่ฟิล์มมีความมั่นใจและความจริงใจซึ่งกรรมการคงเห็นตรงนี้แล้วให้โอกาสฟิล์มค่ะ ส่วนการประกวดเวทีใหญ่ระดับโลกนั้นก็พยายามฝึกภาษาอังกฤษอยู่พร้อมกับศึกษาวัฒนธรรมของไทยเพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วโลกรู้จัก"
สำหรับรางวัลที่ได้ในการประกวดครั้งนี้ คือเงินสดกว่า 1 แสนบาทรวมทั้งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ คลาส ที่เจ้าตัวบอกว่า ณ วันนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ขับเลย แต่ก็ประทับใจในรูปทรงที่แปลกตาดี รวมถึงมั่นใจในสมรรถนะเพราะที่บ้านก็ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี 230 มาหลายปี
"เวลาออกงานก็ใช้รถเบนซ์ เอ คลาสค่ะเพราะเป็นรถของสปอนเซอร์ แต่ถ้าส่วนมากก็ใช้โตโยต้าคัมรี่ รุ่นล่าสุดที่คุณแม่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 20 ซึ่งไม่ได้บอกล่วงหน้าเลยค่ะ แต่ก็ชอบโตโยต้าเหมือนกันเพราะเป็นรถที่มีศูนย์บริการเยอะ สมรรถนะก็ถือว่าใช้ได้ ที่สำคัญคันใหญ่นั่งสบายเพราะฟิล์มตัวสูงขาก็ยาวเลยชอบรถที่นั่งสบาย ยิ่งเวลาอยู่ในรถชอบเปิดเพลงดังๆด้วยค่ะ"
สำหรับสถานการณ์น้ำมันทุกวันนี้ราคาขึ้นลงไม่แน่นอน ทำให้น้องฟิล์มเปลี่ยนใจมาลองใช้แก๊สโซฮอล์กับเขาบ้าง เธอบอกว่าก่อนเปลี่ยนมาใช้ก็ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีและคิดว่าน่าจะคุ้มค่าหากในอนาคตน้ำมันมีราคาแพงกว่านี้
"ตอนนี้รถเบนซ์ ซี 230 ก็เปลี่ยนใช้แก๊สแทนแล้วค่ะ เป็นพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ คือฟิล์มคิดว่าแก๊สโซฮอล์คงไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดค่ะ เท่าที่ลองใช้มาได้ระยะหนึ่งก็พอใจ 80% แต่มีข้อตินิดหน่อยตรงเวลาออกตัวและเร่งเครื่องมันช้าตอบสนองไม่ทันใจแต่โดยรวมก็ใช้ได้ค่ะ อยากแนะนำให้คนที่กำลังศึกษาข้อมูลมาลองใช้กันดูจะได้ช่วยชาติประหยัดพลังงานตัวคุณก็ประหยัดเงินด้วย"
นอกจากเปลี่ยนมาใช้แก๊สแล้วน้องฟิล์มยังบอกถึงวิธีประหยัดน้ำมันสำหรับผู้ที่ใช้รถเครื่องใหญ่ๆกันว่าควรจะศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางทุกครั้งเพื่อประหยัดเวลาและน้ำมัน ที่สำคัญอย่างเร่งเครื่องบ่อยเกินความจำเป็นเพราะจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็ว ที่พลาดไม่ได้อีกคำถามคือ "รถในฝัน" ที่น้องฟิล์มบอกว่ายังไงก็ยกใจให้ "มินิ" เท่านั้น
"มินิเป็นรถคันเล็กๆที่น่ารักมาก ถ้ามีสักคันฟิล์มคิดว่าจะแต่งเป็นสีชมพูแล้วก็ลายคิตตี้เพราะชอบมาก แต่ถ้าจะเลือกซื้อรถฟิล์มคิดว่าอยากให้มองกันที่ประโยชน์ใช้สอยแล้วก็ความคุ้มค่า ราคาก็สำคัญนะคะคือเราต้องดูงบประมาณว่าเกินกำลังที่เราจะซื้อไหมไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่ามีรถยิ่งมีทุกข์ไปแทน"
นอกจากสวยแล้วยังแอบหวานด้วย แต่ไม่ใช่เพียงน้องฟิล์มคนเดียวเท่านั้นที่ "ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ชวนมานั่งคุยกันแบบประชิดตัว เพราะยังมีอีก 2 สาวที่ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 ที่ความสวยนั้นไม่เป็นรองกันเลยก็ว่าได้
ด้านรองอันดับหนึ่ง ภารวี ฉัตรพกรณ์ หรือ “น้องเบล” อายุ 18 ปี สาวเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันกำลังจะเข้าปีหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า คุณพ่อเป็นคนสอนขับรถให้ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนจะใช้รถ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ของที่บ้าน
“ปกติ เบล เป็นคนขับรถไม่ค่อยเร็ว โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ผู้คนก็ขับรถไม่ซิ่งเหมือนในกรุงเทพฯอยู่แล้ว ที่สำคัญอยากจะขอร้องให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนมีสติ ยิ่งเวลาเมา ไม่ควรขับอย่างยิ่ง”
เบล บอกว่า อยากสนับสนุนโครงการเมาไม่ขับของรัฐบาล เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่ก็มาจากคนเมา ยิ่งเวลาเกิดปัญหาขึ้นมาจะมีแต่ความเสียหาย จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงชีวิตตนเอง และคนรอบๆข้างด้วย
เฟรซซี่ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังเผยถึงรถในฝันว่า อยากได้ “มาสด้า 3” เพราะรูปลักษณ์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ไม่เหมือนใคร ซึ่งตอนนี้กำลังอ้อนๆขอคุณพ่อซื้อให้อยู่ ส่วนผู้ชายในฝันน้องเบลชอบคนที่อบอุ่น ทะเล้นนิดๆ ที่สำคัญต้องดูแลตนเองได้
สำหรับอนาคต น้องเบล อยากจะเป็นไกด์ทัวร์ เพราะเป็นคนชอบสื่อสารกับผู้อื่น ที่สำคัญจะได้เดินทางไปที่ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งถ้ามีประสบการณ์ แล้วมีเงินทุนเพียงพอก็อยากเปิดบริษัทของตนเองเลย
ขณะที่ตำแหน่งรองอันดับ 2 “ออย” พิมพ์ชนก หงษ์โสภา อายุ 20 ปี บอกว่า ขับเป็นแต่มอเตอร์ไชค์ ยังขับรถยนต์ไม่เป็น แต่ถ้ามีเวลาก็จะไปเรียนหัดขับรถเหมือนกัน เพื่ออนาคตหากต้องทำงานที่เดินทางบ่อยๆ จะได้ไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ ไม่ต้องคอยให้คนอื่นมารับ
“แม้จะไม่เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ออยเป็นคนกลัวรถยนต์ที่ขับเร็ว ยิ่งถ้านั่งรถใครแล้วเขาขับเร็วจะกลัวมาก ต้องคอยบอกให้เขาขับช้าๆ บางครั้งบอกเฉยๆ ไม่เชื่อก็ต้องขู่ว่า ไม่งั้นลงตรงนี้นะ ไม่ไปแล้ว เขาก็จะเชื่อ มีครั้งหนึ่งตอนหัดขับมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก สตาร์ทรถแล้วเกียร์ค้างอยู่ ทำให้รถพุ่งไปแต่ก็ไม่เจ็บอะไรมาก นั่นเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต”
สำหรับรถในฝัน ออย ชอบรถเล็กที่มีความอเนกประสงค์ อย่าง ฮอนด้า แจ๊ส หรือโตโยต้า ยาริส ดูเหมาะสมกับตัวเองและการใช้งานเนื่องจากเป็นคนที่มีสัมภาระเยอะ เก็บของจำพวก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ได้เยอะๆ ส่วนชายในฝัน ออยขอตอบแบบนางงามคือ แค่เป็นคนดี และรับสภาพที่เราเป็นได้เท่านั้นก็พอ
“ปัจจุบันคงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทฯ ทิฟฟานี่ ให้ดีที่สุดก่อน ส่วนเรื่องรถก็อาศัยรถของคนอื่นไปจนกว่าจะเรียนขับรถจบค่ะ” น้องออยกล่าวปิดท้าย เอ้า! ใครสนใจจะเป็นสารถีให้น้องออย ก็รีบยื่นใบสมัครกันหน่อยนะ
"ส่วนที่ได้ตำแหน่งเพราะว่าฟิล์มเป็นตัวของตัวเองค่ะ คือเราไม่จำเป็นจะต้องไปเลียบแบบใคร เราอาจจะไม่สวยเท่าผู้เข้าประกวดคนอื่นๆแต่ฟิล์มมีความมั่นใจและความจริงใจซึ่งกรรมการคงเห็นตรงนี้แล้วให้โอกาสฟิล์มค่ะ ส่วนการประกวดเวทีใหญ่ระดับโลกนั้นก็พยายามฝึกภาษาอังกฤษอยู่พร้อมกับศึกษาวัฒนธรรมของไทยเพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วโลกรู้จัก"
สำหรับรางวัลที่ได้ในการประกวดครั้งนี้ คือเงินสดกว่า 1 แสนบาทรวมทั้งรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ คลาส ที่เจ้าตัวบอกว่า ณ วันนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ขับเลย แต่ก็ประทับใจในรูปทรงที่แปลกตาดี รวมถึงมั่นใจในสมรรถนะเพราะที่บ้านก็ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี 230 มาหลายปี
"เวลาออกงานก็ใช้รถเบนซ์ เอ คลาสค่ะเพราะเป็นรถของสปอนเซอร์ แต่ถ้าส่วนมากก็ใช้โตโยต้าคัมรี่ รุ่นล่าสุดที่คุณแม่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 20 ซึ่งไม่ได้บอกล่วงหน้าเลยค่ะ แต่ก็ชอบโตโยต้าเหมือนกันเพราะเป็นรถที่มีศูนย์บริการเยอะ สมรรถนะก็ถือว่าใช้ได้ ที่สำคัญคันใหญ่นั่งสบายเพราะฟิล์มตัวสูงขาก็ยาวเลยชอบรถที่นั่งสบาย ยิ่งเวลาอยู่ในรถชอบเปิดเพลงดังๆด้วยค่ะ"
สำหรับสถานการณ์น้ำมันทุกวันนี้ราคาขึ้นลงไม่แน่นอน ทำให้น้องฟิล์มเปลี่ยนใจมาลองใช้แก๊สโซฮอล์กับเขาบ้าง เธอบอกว่าก่อนเปลี่ยนมาใช้ก็ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีและคิดว่าน่าจะคุ้มค่าหากในอนาคตน้ำมันมีราคาแพงกว่านี้
"ตอนนี้รถเบนซ์ ซี 230 ก็เปลี่ยนใช้แก๊สแทนแล้วค่ะ เป็นพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ คือฟิล์มคิดว่าแก๊สโซฮอล์คงไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดค่ะ เท่าที่ลองใช้มาได้ระยะหนึ่งก็พอใจ 80% แต่มีข้อตินิดหน่อยตรงเวลาออกตัวและเร่งเครื่องมันช้าตอบสนองไม่ทันใจแต่โดยรวมก็ใช้ได้ค่ะ อยากแนะนำให้คนที่กำลังศึกษาข้อมูลมาลองใช้กันดูจะได้ช่วยชาติประหยัดพลังงานตัวคุณก็ประหยัดเงินด้วย"
นอกจากเปลี่ยนมาใช้แก๊สแล้วน้องฟิล์มยังบอกถึงวิธีประหยัดน้ำมันสำหรับผู้ที่ใช้รถเครื่องใหญ่ๆกันว่าควรจะศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางทุกครั้งเพื่อประหยัดเวลาและน้ำมัน ที่สำคัญอย่างเร่งเครื่องบ่อยเกินความจำเป็นเพราะจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็ว ที่พลาดไม่ได้อีกคำถามคือ "รถในฝัน" ที่น้องฟิล์มบอกว่ายังไงก็ยกใจให้ "มินิ" เท่านั้น
"มินิเป็นรถคันเล็กๆที่น่ารักมาก ถ้ามีสักคันฟิล์มคิดว่าจะแต่งเป็นสีชมพูแล้วก็ลายคิตตี้เพราะชอบมาก แต่ถ้าจะเลือกซื้อรถฟิล์มคิดว่าอยากให้มองกันที่ประโยชน์ใช้สอยแล้วก็ความคุ้มค่า ราคาก็สำคัญนะคะคือเราต้องดูงบประมาณว่าเกินกำลังที่เราจะซื้อไหมไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่ามีรถยิ่งมีทุกข์ไปแทน"
นอกจากสวยแล้วยังแอบหวานด้วย แต่ไม่ใช่เพียงน้องฟิล์มคนเดียวเท่านั้นที่ "ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ชวนมานั่งคุยกันแบบประชิดตัว เพราะยังมีอีก 2 สาวที่ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 ที่ความสวยนั้นไม่เป็นรองกันเลยก็ว่าได้
ด้านรองอันดับหนึ่ง ภารวี ฉัตรพกรณ์ หรือ “น้องเบล” อายุ 18 ปี สาวเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันกำลังจะเข้าปีหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า คุณพ่อเป็นคนสอนขับรถให้ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนจะใช้รถ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ ของที่บ้าน
“ปกติ เบล เป็นคนขับรถไม่ค่อยเร็ว โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ผู้คนก็ขับรถไม่ซิ่งเหมือนในกรุงเทพฯอยู่แล้ว ที่สำคัญอยากจะขอร้องให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนมีสติ ยิ่งเวลาเมา ไม่ควรขับอย่างยิ่ง”
เบล บอกว่า อยากสนับสนุนโครงการเมาไม่ขับของรัฐบาล เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่ก็มาจากคนเมา ยิ่งเวลาเกิดปัญหาขึ้นมาจะมีแต่ความเสียหาย จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงชีวิตตนเอง และคนรอบๆข้างด้วย
เฟรซซี่ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังเผยถึงรถในฝันว่า อยากได้ “มาสด้า 3” เพราะรูปลักษณ์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ไม่เหมือนใคร ซึ่งตอนนี้กำลังอ้อนๆขอคุณพ่อซื้อให้อยู่ ส่วนผู้ชายในฝันน้องเบลชอบคนที่อบอุ่น ทะเล้นนิดๆ ที่สำคัญต้องดูแลตนเองได้
สำหรับอนาคต น้องเบล อยากจะเป็นไกด์ทัวร์ เพราะเป็นคนชอบสื่อสารกับผู้อื่น ที่สำคัญจะได้เดินทางไปที่ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งถ้ามีประสบการณ์ แล้วมีเงินทุนเพียงพอก็อยากเปิดบริษัทของตนเองเลย
ขณะที่ตำแหน่งรองอันดับ 2 “ออย” พิมพ์ชนก หงษ์โสภา อายุ 20 ปี บอกว่า ขับเป็นแต่มอเตอร์ไชค์ ยังขับรถยนต์ไม่เป็น แต่ถ้ามีเวลาก็จะไปเรียนหัดขับรถเหมือนกัน เพื่ออนาคตหากต้องทำงานที่เดินทางบ่อยๆ จะได้ไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ ไม่ต้องคอยให้คนอื่นมารับ
“แม้จะไม่เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ออยเป็นคนกลัวรถยนต์ที่ขับเร็ว ยิ่งถ้านั่งรถใครแล้วเขาขับเร็วจะกลัวมาก ต้องคอยบอกให้เขาขับช้าๆ บางครั้งบอกเฉยๆ ไม่เชื่อก็ต้องขู่ว่า ไม่งั้นลงตรงนี้นะ ไม่ไปแล้ว เขาก็จะเชื่อ มีครั้งหนึ่งตอนหัดขับมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก สตาร์ทรถแล้วเกียร์ค้างอยู่ ทำให้รถพุ่งไปแต่ก็ไม่เจ็บอะไรมาก นั่นเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต”
สำหรับรถในฝัน ออย ชอบรถเล็กที่มีความอเนกประสงค์ อย่าง ฮอนด้า แจ๊ส หรือโตโยต้า ยาริส ดูเหมาะสมกับตัวเองและการใช้งานเนื่องจากเป็นคนที่มีสัมภาระเยอะ เก็บของจำพวก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ได้เยอะๆ ส่วนชายในฝัน ออยขอตอบแบบนางงามคือ แค่เป็นคนดี และรับสภาพที่เราเป็นได้เท่านั้นก็พอ
“ปัจจุบันคงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทฯ ทิฟฟานี่ ให้ดีที่สุดก่อน ส่วนเรื่องรถก็อาศัยรถของคนอื่นไปจนกว่าจะเรียนขับรถจบค่ะ” น้องออยกล่าวปิดท้าย เอ้า! ใครสนใจจะเป็นสารถีให้น้องออย ก็รีบยื่นใบสมัครกันหน่อยนะ
