"สเตฟาน – สันติ วีระบุญชัย" ณ วันนี้ถือว่าเป็นพระเอกดาวรุ่งอีกคนของวิก 7 สี ด้วยหน้าตาสไตล์ลูกครึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมทำให้เขามีผลงานออกมาตลอดทั้งยังได้ประกบกับนางเอกแถวหน้าหลายคนยิ่งทำให้สเตฟานโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จึงไม่พลาดที่จะพามานั่งคุยกับเขาถึงเรื่องรถยนต์ในแบบฉบับของเขาเอง
สเตฟานบอกกับเราว่าเขาเริ่มขับรถครั้งแรกตอนอายุได้ 20 ปี ซึ่งเคยขับรถโกคาร์ทมาก่อนหน้านี้แล้วสมัยเด็กๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะขับรถเพราะที่บ้านมีรถ แต่เหตุผลที่ต้องขับเพราะต้องเดินทางไปทำงานที่พัทยาคนเดียวเลยต้องหัดขับ ซึ่งเริ่มด้วยการขับรถกระบะเกียร์ ธรรมดา จนมาถึงรถคันปัจจุบันคือออดี้ เอ 6 และกระบะโตต้า ซึ่งเป็นที่มาของเรื่องระทึกใจในการขับรถของเขา

"ประสบการณ์เกี่ยวกับรถ คือตอนนั้นแลกรถกันใช้เพราะเพื่อนใช้รถแอคคอร์ด โหลดเตี้ย แต่เขาจะไปต่างจังหวัดเลยมาขอยืมรถกระบะของผม ซึ่งพอเอามาขับวันแรกก็เกิดอุบัติเหตุเลย ผมก็โทรหาเพื่อนเพราะรู้สึกผิดที่เอารถเพื่อนมาชน แต่จังหวะเดียวกับที่เพื่อนของผมก็เอารถผมไปชนเหมือนกันก็เลยเจ๊ากันไป ถือว่าประมาทด้วยกันทั้งคู่"
นั่นถือว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของสเตฟาน เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เพราะเขาเล่าว่าตอนไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดเมื่อหลายปีมาแล้วได้ขับรถช่วงกลางคืนแล้วถนนมืดมากจนถึงช่วงเข้าโค้งทำให้ไม่เห็นขอบถนนจึงขับไถลลงไปที่ทุ่งนา แต่ก็ถือว่าเคราะห์ดีที่ไม่เป็นอะไรเลย ต่อมาสเตฟานจึงตั้งใจว่าจะขับรถอย่างมีสติเพราะถือว่าเฉียดตายมา 2 ครั้งแล้ว
การดูแลรถนั้นสเตฟานบอกว่าการดูแลรถนั้นถือว่าเรื่องที่เข้าของรถทุกคนไม่ควรมองข้ามเพราะถือว่ารถนั้นเป็นทั้งเพื่อนร่วมทางและช่วยให้เราถึงจุดหมายเร็วขึ้นอย่างสะดวกสบาย เมื่อใช้งานมาหนักๆก็ควรดูแลเอาใจใส่บ้าง อย่างเช่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง ดูเลขไมล์ เช็คลมยาง ส่วนที่สเตฟานทำเองก็คือการล้างรถอย่างสม่ำเสมอเพราะจะช่วยให้รถยังคงความสวยงาม
"สำหรับผมแล้วรถรถยนต์นั้นถือว่าสำคัญมากด้วยหน้าที่การงานของเราที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลาและบางครั้งก็ไปต่างจังหวัดด้วย ถ้าไม่มีรถสักคันก็คงไปทำงานลำบาก อย่างเวลาที่อยู่ในรถนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แอร์ ครับ เพราะผมเป็นคนที่ขี้ร้อนไม่ว่าจะอากาศข้างนอกรถจะเป็นอย่างไรแต่เวลาอยู่ในรถนั้นมีแอร์แล้วจะมีความสุขมาก นอกนั้นก็เป็นพวกแม็กกาซีนรวมถึงซีดีเพลงต่างเหมือนคนอื่นๆเขาครับ แต่ที่มีเพิ่มมาตอนหลังๆก็คือ GPS เพราะถนนในเมืองไทยนั้นมีป้ายบอกทางที่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่เมื่อเอาเทคโนโลยีมาช่วยก็ทำให้เดินทางง่ายขึ้น"

นอกจากชอบขับรถยนต์แล้วน้อยคนนักจะรู้ว่าหนุ่มสเตฟานนั้นรักการขับมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้า "Ducati 996 " ที่เขาบอกว่าเป็นอีกด้านของชีวิตเลย เพราะเวลาขับมอเตอร์ไซค์นั้นจะคนละอารมณ์กับการขับรถ เมื่อมีเวลาว่างๆก็จะขับไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นสเตฟานก็บอกว่าการขับมอเตอร์ไซค์นั้นอันตรายกว่ารถยนต์มากนัก ไม่เพียงแค่ความชอบรถ Ducati เท่านั้นเพราะเขายังมีสุดยอดรถสปอร์ตที่ใครหลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของอย่าง Lamborghini อีกด้วย
"เป็นธรรมดาที่ผู้ชายจะมีรถในฝันที่ชอบกันมากๆนะครับ ส่วนผมเองประทับใจใน Lamborghini Mucielago เพราะเคยอ่านประวัติของคนที่คิดประดิษฐ์มันขึ้นมาด้วยเหตุผลทื่ว่าเขาต้องการแข่งกับเฟอร์รารี่ ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความพยายามของเขา ซึ่งรถก็มีดีไซน์ที่สวยมากด้วย อีกเหตุผลก็คือผมเป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยนด้วยครับ"
พูดถึงเรื่องรถยนต์แล้วก็ต้องไม่ลืมเรื่องของการขับรถและการใช้ถนนของคนไทยในยุคนี้ซึ่งสเตฟานบอกว่า ทุกวันนี้ต่างคนก็ต่างรีบร้อนจนทำให้ลืมนึกถึงความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กัน รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรและคิดว่าการขับรถฝ่าไฟแดงหรือขับแซงเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เลยทำให้การแก้ไขปัญหารถติดนั้นทำได้ยาก และต้นเหตุเหล่านี้ก็นำมาซึ่งการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
"โดยส่วนมากที่เกิดอุบัติเหตุเพราะความประมาทครับ อย่างนึกจะเลี้ยงซ้ายก็เลี้ยวเลยลืมเปิดไฟซะงั้น คันหลังตามมาก็เบรกกันตัวโก่ง ซึ่งมันไม่ได้อันตรายแค่ตัวคนขับแค่รวมถึงคนนั่งและผู้ใช้รถคนอื่นด้วยครับ อีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือการใช้สัญญาณไฟที่ผิดๆคือบางคนเวลาจะขับรถผ่านสี่แยกชอบเปิดไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก ซึ่งจริงๆแล้วมันผิดเพราะคนที่มาด้านซ้ายก็จะนึกว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายคนที่อยู่ด้านขวาเขาก็นึกว่าจะเลี้ยวขวาทั้งที่จริงๆก็คือขับตรงไปเลยไม่ต้องเปิดไฟที่ต่างประเทศเขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น"
ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมันในช่วงที่ราคานั้นขึ้นลงยิ่งกว่าหุ้น สเตฟานบอกว่าต้องวางแผนก่อนเดินทางเพราะจะช่วยให้ไม่หลงและไปถึงที่หมายได้เร็วกว่าหรือไม่ก็ศึกษาเส้นทางที่เราจะไปหากไม่คุ้นเคยก็ลองหาทางลัดดู ที่สำคัญเวลาขับไม่ควรเหยียบคันเร่งค้างไว้บ่อยๆเพราะจะทำให้เปลืองน้ำมันและเครื่องยนต์เสื่อมเร็วด้วย
สเตฟานบอกกับเราว่าเขาเริ่มขับรถครั้งแรกตอนอายุได้ 20 ปี ซึ่งเคยขับรถโกคาร์ทมาก่อนหน้านี้แล้วสมัยเด็กๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะขับรถเพราะที่บ้านมีรถ แต่เหตุผลที่ต้องขับเพราะต้องเดินทางไปทำงานที่พัทยาคนเดียวเลยต้องหัดขับ ซึ่งเริ่มด้วยการขับรถกระบะเกียร์ ธรรมดา จนมาถึงรถคันปัจจุบันคือออดี้ เอ 6 และกระบะโตต้า ซึ่งเป็นที่มาของเรื่องระทึกใจในการขับรถของเขา
"ประสบการณ์เกี่ยวกับรถ คือตอนนั้นแลกรถกันใช้เพราะเพื่อนใช้รถแอคคอร์ด โหลดเตี้ย แต่เขาจะไปต่างจังหวัดเลยมาขอยืมรถกระบะของผม ซึ่งพอเอามาขับวันแรกก็เกิดอุบัติเหตุเลย ผมก็โทรหาเพื่อนเพราะรู้สึกผิดที่เอารถเพื่อนมาชน แต่จังหวะเดียวกับที่เพื่อนของผมก็เอารถผมไปชนเหมือนกันก็เลยเจ๊ากันไป ถือว่าประมาทด้วยกันทั้งคู่"
นั่นถือว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของสเตฟาน เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เพราะเขาเล่าว่าตอนไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดเมื่อหลายปีมาแล้วได้ขับรถช่วงกลางคืนแล้วถนนมืดมากจนถึงช่วงเข้าโค้งทำให้ไม่เห็นขอบถนนจึงขับไถลลงไปที่ทุ่งนา แต่ก็ถือว่าเคราะห์ดีที่ไม่เป็นอะไรเลย ต่อมาสเตฟานจึงตั้งใจว่าจะขับรถอย่างมีสติเพราะถือว่าเฉียดตายมา 2 ครั้งแล้ว
การดูแลรถนั้นสเตฟานบอกว่าการดูแลรถนั้นถือว่าเรื่องที่เข้าของรถทุกคนไม่ควรมองข้ามเพราะถือว่ารถนั้นเป็นทั้งเพื่อนร่วมทางและช่วยให้เราถึงจุดหมายเร็วขึ้นอย่างสะดวกสบาย เมื่อใช้งานมาหนักๆก็ควรดูแลเอาใจใส่บ้าง อย่างเช่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง ดูเลขไมล์ เช็คลมยาง ส่วนที่สเตฟานทำเองก็คือการล้างรถอย่างสม่ำเสมอเพราะจะช่วยให้รถยังคงความสวยงาม
"สำหรับผมแล้วรถรถยนต์นั้นถือว่าสำคัญมากด้วยหน้าที่การงานของเราที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลาและบางครั้งก็ไปต่างจังหวัดด้วย ถ้าไม่มีรถสักคันก็คงไปทำงานลำบาก อย่างเวลาที่อยู่ในรถนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แอร์ ครับ เพราะผมเป็นคนที่ขี้ร้อนไม่ว่าจะอากาศข้างนอกรถจะเป็นอย่างไรแต่เวลาอยู่ในรถนั้นมีแอร์แล้วจะมีความสุขมาก นอกนั้นก็เป็นพวกแม็กกาซีนรวมถึงซีดีเพลงต่างเหมือนคนอื่นๆเขาครับ แต่ที่มีเพิ่มมาตอนหลังๆก็คือ GPS เพราะถนนในเมืองไทยนั้นมีป้ายบอกทางที่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่เมื่อเอาเทคโนโลยีมาช่วยก็ทำให้เดินทางง่ายขึ้น"
นอกจากชอบขับรถยนต์แล้วน้อยคนนักจะรู้ว่าหนุ่มสเตฟานนั้นรักการขับมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้า "Ducati 996 " ที่เขาบอกว่าเป็นอีกด้านของชีวิตเลย เพราะเวลาขับมอเตอร์ไซค์นั้นจะคนละอารมณ์กับการขับรถ เมื่อมีเวลาว่างๆก็จะขับไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นสเตฟานก็บอกว่าการขับมอเตอร์ไซค์นั้นอันตรายกว่ารถยนต์มากนัก ไม่เพียงแค่ความชอบรถ Ducati เท่านั้นเพราะเขายังมีสุดยอดรถสปอร์ตที่ใครหลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของอย่าง Lamborghini อีกด้วย
"เป็นธรรมดาที่ผู้ชายจะมีรถในฝันที่ชอบกันมากๆนะครับ ส่วนผมเองประทับใจใน Lamborghini Mucielago เพราะเคยอ่านประวัติของคนที่คิดประดิษฐ์มันขึ้นมาด้วยเหตุผลทื่ว่าเขาต้องการแข่งกับเฟอร์รารี่ ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความพยายามของเขา ซึ่งรถก็มีดีไซน์ที่สวยมากด้วย อีกเหตุผลก็คือผมเป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยนด้วยครับ"
พูดถึงเรื่องรถยนต์แล้วก็ต้องไม่ลืมเรื่องของการขับรถและการใช้ถนนของคนไทยในยุคนี้ซึ่งสเตฟานบอกว่า ทุกวันนี้ต่างคนก็ต่างรีบร้อนจนทำให้ลืมนึกถึงความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กัน รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรและคิดว่าการขับรถฝ่าไฟแดงหรือขับแซงเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เลยทำให้การแก้ไขปัญหารถติดนั้นทำได้ยาก และต้นเหตุเหล่านี้ก็นำมาซึ่งการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
"โดยส่วนมากที่เกิดอุบัติเหตุเพราะความประมาทครับ อย่างนึกจะเลี้ยงซ้ายก็เลี้ยวเลยลืมเปิดไฟซะงั้น คันหลังตามมาก็เบรกกันตัวโก่ง ซึ่งมันไม่ได้อันตรายแค่ตัวคนขับแค่รวมถึงคนนั่งและผู้ใช้รถคนอื่นด้วยครับ อีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือการใช้สัญญาณไฟที่ผิดๆคือบางคนเวลาจะขับรถผ่านสี่แยกชอบเปิดไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก ซึ่งจริงๆแล้วมันผิดเพราะคนที่มาด้านซ้ายก็จะนึกว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายคนที่อยู่ด้านขวาเขาก็นึกว่าจะเลี้ยวขวาทั้งที่จริงๆก็คือขับตรงไปเลยไม่ต้องเปิดไฟที่ต่างประเทศเขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้น"
ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมันในช่วงที่ราคานั้นขึ้นลงยิ่งกว่าหุ้น สเตฟานบอกว่าต้องวางแผนก่อนเดินทางเพราะจะช่วยให้ไม่หลงและไปถึงที่หมายได้เร็วกว่าหรือไม่ก็ศึกษาเส้นทางที่เราจะไปหากไม่คุ้นเคยก็ลองหาทางลัดดู ที่สำคัญเวลาขับไม่ควรเหยียบคันเร่งค้างไว้บ่อยๆเพราะจะทำให้เปลืองน้ำมันและเครื่องยนต์เสื่อมเร็วด้วย