ในที่สุด ข่าวที่ว่าอิมเพรซาใหม่จะมีทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และ 5 ประตูก็กลายเป็นเรื่องจริงจนได้ เมื่อซูบารุอาศัยเวทีของงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2007 สำหรับการเปิดตัวโฉมใหม่ของอิมเพรซาออกสู่ตลาดพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งนอกจากทุกรายละเอียดจะเป็นของใหม่แกะกล่องแล้ว ยังมีตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูตามออกมาเป็นอีกทางเลือกเหมือนกับที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้อีกด้วย
ชื่อของอิมเพรซาเป็นที่รู้จักของนักขับในปี 1993 เมื่อซูบารุส่งสายพันธุ์นี้ลงทำตลาดรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์โดยมีทั้งรุ่นธรรมดาที่เป็นคู่แข่งของรถยนต์ระดับเดียวกันอย่างโตต้า โคโรลล่าและฮอนด้า ซีวิค
ไปจนถึงเวอร์ชันตัวแรงในระดับ 280 แรงม้าอย่างดับเบิลยูอาร์เอ็กซ์ เอสทีไอ ที่ได้รับการพัฒนาออกมาขายเพื่อสอดคล้องกับกฎการแข่งขันแรลลี่โลกเหมือนกับที่มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชันทำออกมา ซึ่งสายพันธุ์แรกของอิมเพรซามีตัวถังให้เลือกทั้งซีดาน, สเตชันแวกอน และคูเป้ พร้อมกับได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก
รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมานี้เป็นสายพันธุ์ที่ 3 เข้ามาแทนที่รุ่นที่ 2 ซึ่งทำตลาดในช่วงปี 2001-2007 โดยประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลง คือ การที่ซูบารุปลดตัวถังสเตชันแวกอนออกไป และแทนที่ด้วยแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งเน้นตลาดยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ขนาดตัวถังในรุ่นซีดาน 4 ประตูมีความยาว 4,580 มิลลิเมตรยาวกว่ารุ่นเดิม 114 มิลลิเมตร และรุ่นแฮทช์แบ็ก 4,415 มิลลเมตร ส่วนที่เหลือเท่ากันหมด คือ ความกว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักของตัวรถถ้าเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 1,385 กิโลกรัม และรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 1,415 กิโลกรัม แถมข่าวยังระบุอีกว่ารุ่น 5 ประตูจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับตัวแข่งแรลลี่โลกในปี 2008 อีกด้วย
การพัฒนาอิมเพรซาใหม่อยู่บนพื้นฐานใหม่แต่คงเอกลักษณ์เดิม คือ ทะยานด้วยความแรงจากเครื่องยนต์สูบนอนบ็อกเซอร์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา โดยระบบกันสะเทือนได้รับการออกแบบใหม่เป็นแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัทสำหรับด้านหน้าและปีกนก 2 ชั้นสำหรับด้านหลัง ซึ่งซูบารุเปิดเผยว่าระบบกันสะเทือนหลังมีรูปแบบที่กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ในส่วนที่เป็นห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย และมีประสิทธิภาพในการทำงานควบคู่กับการได้รับการปรับปรุงในเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนให้ดีขึ้นจากรุ่นเดิม
งานออกแบบถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากที่ซูบารุยึดรูปแบบของการใช้กระจังหน้าแบบ 5 เหลี่ยมเพื่อสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับอิมเพรซา แต่สำหรับรุ่นใหม่มีการออกแบบลวดลายและทรวดทรงของกระจังหน้าใหม่ทั้งหมดเพื่อสะท้อนถึงความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีอากาศยานที่เป็นพื้นฐานของบริษัท
พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ ประตูทั้ง 4 บานจะมาในแบบมีกรอบเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป แทนที่จะเป็นแบบไร้กรอบเหมือนกับอิมเพรซาทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมา
รายละเอียดของเครื่องยนต์เท่าที่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ยังเป็นสเปกสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาเท่านั้น คือ ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน หรือบ็อกเซอร์ 2,500 ซีซี เทอร์โบ มีทั้งรุ่นแคมเดี่ยว หรือ SOHC 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.5 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที
และตัวแรงในแบบทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบ 224 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.2 กก.-ม.ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนระบบส่งกำลังมีทั้งธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะพร้อมโหมด Sportshift โดยมีระบบควบคุมการทรงตัว หรือ VDC-Vehicle Dynamic Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่นเครื่องยนต์
การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในปลายปีนี้ โดยนอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว เวอร์ชันญี่ปุ่นและยุโรปจะถูกเปิดตัวอย่างต่อเนื่องนับต่อจากนี้เป็นต้นไป โดยเชื่อว่าในตลาดญี่ปุ่นและยุโรปน่าจะมีเครื่องยนต์ 2,000 ซีซีในรหัส EJ20 ทั้งรุ่นธรรมดาและเทอร์โบทำตลาดเหมือนกับที่ผ่านมา ส่วนในเรื่องของรายละเอียดรูปลักษณ์คงไม่แตกต่างจากที่เห็นอยู่นี้เท่าไรนัก
สำหรับราคาของอิมเพรซาใหม่ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเริ่มต้นในระดับต่ำกว่า 25,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 825,000 บาท
