เผยสเปกปิกอัพโมเดลใหม่ “นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า” ก่อนเปิดตัวขายจริงกลางเดือนมกราคมปีหน้า ด้วยรูปโฉมใหม่ในตลาดไทย แต่ไม่ใหม่ในตลาดโลก พร้อมกับจุดเด่นตัวถังใหญ่น้องๆ รถบรรทุก 6 ล้อ แค็บสามารถเปิดได้เหมือนฟอร์ด-มาสด้า พกพาขุมกำลังมาแบบสะใจถึง 174 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร แต่มีเฉพาะในตัวสร้างภาพลักษณ์ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนตัวทำยอดขายจริง รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั้งแบบคิงแค็บ และดับเบิลแค็บ มีกำลังสูงสุด 144 แรงม้า โดยทั้งหมดมาจากเครื่องยนต์บล็อกเดียว YD25DDTi ขนาด 2500 ซีซี เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กระบะยี่ห้อแรกในไทย และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ราคายังไม่เคาะเป็นทางการ คร่าวๆ ตัวเริ่มต้นต่ำกว่าโตโยต้า วีโก้ ขณะที่รุ่นกลาง-ท็อปราคาใกล้เคียง แต่ออปชั่นมากกว่า โดยปี 2007 เตรียมเพิ่มรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เสริมเป็นอีกทางเลือกลูกค้าอีกรุ่น
แม้ค่ายนิสสันจะนำปิกอัพโมเดลใหม่ “ฟรอนเทียร์ นาวาร่า” (FRONTIER NAVARA) ซึ่งจะทำตลาดแทนรุ่นฟรอนเทียร์ในปัจจุบัน มาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2006 แต่ก็แทบจะไม่ให้คำตอบอะไรกับลูกค้าที่มาชมนัก เพราะตัวรถถูกซ้อนอยู่ในกล่องกระจกฝ้าลางๆ มีจุดใสตรงเส้นอักษรคำว่า “ขอบคุณที่รอ” เพื่อให้ส่องดูเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้เห็นรถชัดเจนแต่อย่างใด พร้อมกับรายละเอียดเพียง “กระบะ 6 เกียร์ ครั้งแรกของเมืองไทย แรงสุด 174 แรงม้า พบตัวจริงมกราคมแน่นอน”
จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเพียงกลยุทธ์ การปล่อยกระแสเรียกความสนใจของลูกค้าเท่านั้น เพราะรายละเอียดทั้งหมดยังคงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้าโน้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ที่กำลังจะซื้อปิกอัพช่วงนี้ มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงได้นำข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมด มาให้ผู้อ่านได้รับทราบกันล่วงหน้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเปิดตัวจริง ในวันที่ 16 มกราคม 2550
ว่ากันเลยกับรูปลักษณ์ภายนอก แม้นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า จะเป็นโมเดลใหม่ แต่ในตลาดโลกแล้วไม่ถือว่าใหม่แต่อย่างใด เพราะโฉมนี้เปิดตัวในยุโรป (ในชื่อนาวาร่า) และสหรัฐอเมริกา (ฟรอนเทียร์) ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ดังนั้นในแวดวงหรือผู้ติดตามข่าวคราวทางด้านยานยนต์แล้ว คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้แม้ฟรอนเทียร์ นาวาร่า จะไม่ได้เปิดตัวครั้งแรกในโลก เหมือนกับปิกอัพหลายยี่ห้อที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน และขนาดที่ใหญ่โต น้องๆ รถบรรทุก 6 ล้อ น่าจะเรียกความสนใจจากลูกค้าในไทยได้มากทีเดียว
นี่จึงเป็นจุดขายจุดแรกของ ฟรอนเทียร์ นาวาร่า โดยเฉพาะตัวถังที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมในทุกมิติ เริ่มจากความกว้างรุ่น 4WD เท่ากับ 1,850 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบัน 30 มม. รุ่น 2WD 1,795 มม. เพิ่มขึ้น 105 มม. ความยาวภายในห้องโดยสาร รุ่นดับเบิลแค็บ (4 ประตู) 2,095 มม. เพิ่มขึ้น 50 มม. และรุ่นคิงแค็บ (มีแค็บ) 1,755 มม. เพิ่มขึ้น 70 มม. ส่วนระยะฐานล้อเท่ากัน 3,200 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบัน 250 มม. เช่นเดียวกับความยาวทั้งหมด 5,125 มม. เพิ่มขึ้น 135 มม. แต่ความยาวกระบะท้าย รุ่นดับเบิลแค็บ 1,485 มม. เพิ่มขึ้น 90 มม. และรุ่นคิงแค็บ 1,840 มม. เพิ่มขึ้น 85 มม.
หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด อย่างโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งถือว่ามีตัวถังใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน จะเห็นว่าฟรอนเทียร์ นาวารา ได้เปรียบในเรื่องของความยาวฐานล้อ ที่ยาวกว่าวีโก้อยู่ 115 มม. และความสูง 50 มม. ในรุ่นดับเบิลแค็บ ขณะที่รุ่นคิงแค็บนอกจากความยาวของฐานล้อ และความสูง ที่มากกว่า 115 มม. และ 55 มม.แล้ว ในส่วนของความยาวของกระบะท้าย ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ยาวกว่าวีโก้ 45 มม.
ห้องโดยสารภายในหรูหราทีเดียว คอนโซลกลางตกแต่งสีเงินสไตล์สปอร์ตในรุ่นท็อป ขณะที่รุ่นรองลงมาเป็นสีเดียวกับสีภายใน มาตรวัดระยะเป็นแบบดิจิตอล เครื่องเสียงรุ่นท็อปซีดีเชนเจอร์ 6 แผ่น และ MP3 กระจกไฟฟ้า ล็อกประตูไฟฟ้ามีรีโมท วัสดุหุ้มเบาะและแผงประตูในรุ่นท็อปเป็นหนัง รุ่นรองลงมาเป็นผ้า กระจกมองหลังแบบปรับลดสะท้อนแสงอัตโนมัติ+เข็มทิศในรุ่นท็อป
อุปกรณ์ความปลอดภัยของฟรอนเทียร์ นาวาร่า ในรุ่นท็อปมีทั้งเบรก ABS และ EBD ตลอดจนถุงลมนิภัยคู่หน้า ส่วนระบบเบรกด้านหน้า เป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน หลังดรัมเบรกแบบปรับระยะผ้าเบรกอัตโนมัติ พร้อมวาล์สปรับแรงดันน้ำมันเบรก (LSV) ขณะที่ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพ
สำหรับขุมพลังของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า วางเครื่องยนต์ใหม่บล็อกเดียวเท่านั้น รหัส YD25DDTi คอมมอนเรล เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2500 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล ซึ่งปั๊มจ่ายน้ำมันแรงดันสูงถึง 180 เมกะปาสคาล ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
โดยขุมกำลังฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง 174 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที และรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 144 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 356 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
เป็นกระบะยี่ห้อแรกในไทย มีให้เลือกทั้งแบบคิงแค็บและดับเบิลแค็บ ในรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติมีเฉพาะรุ่นดับเบิลแค็บ ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 (ยาง 205R16) และ 4 ล้อ(ยาง 205/70R16)
หากเปรียบเทียบขุมพลังกับคู่แข่ง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาด 3000 ซีซี หรือ 2500 ซีซี ถือว่าฟรอนเทียร์ นาวาร่า มีกำลังมากที่สุด แต่หากเทียบกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ กลุ่มเครื่องยนต์ 2500 ซีซี ถือว่ากินขาดคู่แข่ง อย่างอีซูซุ ดีแมคซ์, มิตซูบิชิ ไทรทัน และโตโยต้า วีโก้ ที่อยู่ระดับ 116-120 แรงม้า แต่เบียดมาสด้า บีที-50 และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไปเพียงแค่ม้าตัวเดียวเท่านั้น แต่หากเทียบกับคู่แข่งที่เป็นเครื่องยนต์ 3000 ซีซี ฟรอนเทียร์ นาวารา ยังด้อยกว่าคู่แข่งทุกยี่ห้อ เพียงแต่มีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า
สำหรับจำนวนรุ่นที่จะทำตลาด เฉพาะฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ มีด้วยกัน 2 โมเดล คือแบบคิงแค็บมีซึ่งแยกเป็น 5 รุ่น แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มี 3 รุ่นย่อย LE, SE และ XE ส่วนอีกรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 2 รุ่นย่อย LE และ SE ทั้งหมดเป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อีกแบบเป็นกระบะดับเบิลแค็บ หรือรุ่น 4 ประตู มีทั้งหมด 6 รุ่น แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
โดยแบ่งเป็นแบบละ 3 รุ่นย่อย คือ รุ่น LE และ SE เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และรุ่น LE เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ขณะที่รุ่นมาตรฐาน หรือไม่มีแค็บ ยังทำตลาดด้วยรุ่นฟรอนเทียร์ในปัจจุบันเช่นเดิม และในปีหน้าเตรียมจะเปิดตัวฟรอนเทียร์ นาวาร่า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เป็นทางเลือกเพิ่มอีกรุ่น
ส่วนสนนราคาของ ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ขณะนี้ยังไม่มีการเคาะออกมา แม้จะเปิดรับจองจากลูกค้าแล้วก็ตาม เพียงแต่กำหนดคร่าวๆ รุ่นเริ่มต้นจะต่ำกว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ส่วนรุ่นกลาง-ท็อป ราคาใกล้เคียงกับวีโก้ แต่ออปชั่นจะมากกว่า
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ สำหรับใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด และเพื่อประกอบการตัดสินใจในการจองรถ ก่อนที่จะเปิดตัวขายจริงกลางเดือนมกราคมปีหน้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจจ่ายเงินทั้งหมด ควรจะทดลองขับเสียก่อน!!
ส่วนตัวทำยอดขายจริง รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั้งแบบคิงแค็บ และดับเบิลแค็บ มีกำลังสูงสุด 144 แรงม้า โดยทั้งหมดมาจากเครื่องยนต์บล็อกเดียว YD25DDTi ขนาด 2500 ซีซี เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กระบะยี่ห้อแรกในไทย และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ราคายังไม่เคาะเป็นทางการ คร่าวๆ ตัวเริ่มต้นต่ำกว่าโตโยต้า วีโก้ ขณะที่รุ่นกลาง-ท็อปราคาใกล้เคียง แต่ออปชั่นมากกว่า โดยปี 2007 เตรียมเพิ่มรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เสริมเป็นอีกทางเลือกลูกค้าอีกรุ่น
แม้ค่ายนิสสันจะนำปิกอัพโมเดลใหม่ “ฟรอนเทียร์ นาวาร่า” (FRONTIER NAVARA) ซึ่งจะทำตลาดแทนรุ่นฟรอนเทียร์ในปัจจุบัน มาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2006 แต่ก็แทบจะไม่ให้คำตอบอะไรกับลูกค้าที่มาชมนัก เพราะตัวรถถูกซ้อนอยู่ในกล่องกระจกฝ้าลางๆ มีจุดใสตรงเส้นอักษรคำว่า “ขอบคุณที่รอ” เพื่อให้ส่องดูเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้เห็นรถชัดเจนแต่อย่างใด พร้อมกับรายละเอียดเพียง “กระบะ 6 เกียร์ ครั้งแรกของเมืองไทย แรงสุด 174 แรงม้า พบตัวจริงมกราคมแน่นอน”
จะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเพียงกลยุทธ์ การปล่อยกระแสเรียกความสนใจของลูกค้าเท่านั้น เพราะรายละเอียดทั้งหมดยังคงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้าโน้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ที่กำลังจะซื้อปิกอัพช่วงนี้ มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงได้นำข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมด มาให้ผู้อ่านได้รับทราบกันล่วงหน้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเปิดตัวจริง ในวันที่ 16 มกราคม 2550
ว่ากันเลยกับรูปลักษณ์ภายนอก แม้นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า จะเป็นโมเดลใหม่ แต่ในตลาดโลกแล้วไม่ถือว่าใหม่แต่อย่างใด เพราะโฉมนี้เปิดตัวในยุโรป (ในชื่อนาวาร่า) และสหรัฐอเมริกา (ฟรอนเทียร์) ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ดังนั้นในแวดวงหรือผู้ติดตามข่าวคราวทางด้านยานยนต์แล้ว คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้แม้ฟรอนเทียร์ นาวาร่า จะไม่ได้เปิดตัวครั้งแรกในโลก เหมือนกับปิกอัพหลายยี่ห้อที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน และขนาดที่ใหญ่โต น้องๆ รถบรรทุก 6 ล้อ น่าจะเรียกความสนใจจากลูกค้าในไทยได้มากทีเดียว
นี่จึงเป็นจุดขายจุดแรกของ ฟรอนเทียร์ นาวาร่า โดยเฉพาะตัวถังที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมในทุกมิติ เริ่มจากความกว้างรุ่น 4WD เท่ากับ 1,850 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบัน 30 มม. รุ่น 2WD 1,795 มม. เพิ่มขึ้น 105 มม. ความยาวภายในห้องโดยสาร รุ่นดับเบิลแค็บ (4 ประตู) 2,095 มม. เพิ่มขึ้น 50 มม. และรุ่นคิงแค็บ (มีแค็บ) 1,755 มม. เพิ่มขึ้น 70 มม. ส่วนระยะฐานล้อเท่ากัน 3,200 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบัน 250 มม. เช่นเดียวกับความยาวทั้งหมด 5,125 มม. เพิ่มขึ้น 135 มม. แต่ความยาวกระบะท้าย รุ่นดับเบิลแค็บ 1,485 มม. เพิ่มขึ้น 90 มม. และรุ่นคิงแค็บ 1,840 มม. เพิ่มขึ้น 85 มม.
หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด อย่างโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งถือว่ามีตัวถังใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน จะเห็นว่าฟรอนเทียร์ นาวารา ได้เปรียบในเรื่องของความยาวฐานล้อ ที่ยาวกว่าวีโก้อยู่ 115 มม. และความสูง 50 มม. ในรุ่นดับเบิลแค็บ ขณะที่รุ่นคิงแค็บนอกจากความยาวของฐานล้อ และความสูง ที่มากกว่า 115 มม. และ 55 มม.แล้ว ในส่วนของความยาวของกระบะท้าย ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ยาวกว่าวีโก้ 45 มม.
ห้องโดยสารภายในหรูหราทีเดียว คอนโซลกลางตกแต่งสีเงินสไตล์สปอร์ตในรุ่นท็อป ขณะที่รุ่นรองลงมาเป็นสีเดียวกับสีภายใน มาตรวัดระยะเป็นแบบดิจิตอล เครื่องเสียงรุ่นท็อปซีดีเชนเจอร์ 6 แผ่น และ MP3 กระจกไฟฟ้า ล็อกประตูไฟฟ้ามีรีโมท วัสดุหุ้มเบาะและแผงประตูในรุ่นท็อปเป็นหนัง รุ่นรองลงมาเป็นผ้า กระจกมองหลังแบบปรับลดสะท้อนแสงอัตโนมัติ+เข็มทิศในรุ่นท็อป
อุปกรณ์ความปลอดภัยของฟรอนเทียร์ นาวาร่า ในรุ่นท็อปมีทั้งเบรก ABS และ EBD ตลอดจนถุงลมนิภัยคู่หน้า ส่วนระบบเบรกด้านหน้า เป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน หลังดรัมเบรกแบบปรับระยะผ้าเบรกอัตโนมัติ พร้อมวาล์สปรับแรงดันน้ำมันเบรก (LSV) ขณะที่ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพ
สำหรับขุมพลังของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า วางเครื่องยนต์ใหม่บล็อกเดียวเท่านั้น รหัส YD25DDTi คอมมอนเรล เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2500 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล ซึ่งปั๊มจ่ายน้ำมันแรงดันสูงถึง 180 เมกะปาสคาล ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
โดยขุมกำลังฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง 174 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที และรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 144 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 356 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
เป็นกระบะยี่ห้อแรกในไทย มีให้เลือกทั้งแบบคิงแค็บและดับเบิลแค็บ ในรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติมีเฉพาะรุ่นดับเบิลแค็บ ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 (ยาง 205R16) และ 4 ล้อ(ยาง 205/70R16)
หากเปรียบเทียบขุมพลังกับคู่แข่ง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาด 3000 ซีซี หรือ 2500 ซีซี ถือว่าฟรอนเทียร์ นาวาร่า มีกำลังมากที่สุด แต่หากเทียบกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ กลุ่มเครื่องยนต์ 2500 ซีซี ถือว่ากินขาดคู่แข่ง อย่างอีซูซุ ดีแมคซ์, มิตซูบิชิ ไทรทัน และโตโยต้า วีโก้ ที่อยู่ระดับ 116-120 แรงม้า แต่เบียดมาสด้า บีที-50 และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไปเพียงแค่ม้าตัวเดียวเท่านั้น แต่หากเทียบกับคู่แข่งที่เป็นเครื่องยนต์ 3000 ซีซี ฟรอนเทียร์ นาวารา ยังด้อยกว่าคู่แข่งทุกยี่ห้อ เพียงแต่มีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า
สำหรับจำนวนรุ่นที่จะทำตลาด เฉพาะฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ มีด้วยกัน 2 โมเดล คือแบบคิงแค็บมีซึ่งแยกเป็น 5 รุ่น แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มี 3 รุ่นย่อย LE, SE และ XE ส่วนอีกรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 2 รุ่นย่อย LE และ SE ทั้งหมดเป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อีกแบบเป็นกระบะดับเบิลแค็บ หรือรุ่น 4 ประตู มีทั้งหมด 6 รุ่น แบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
โดยแบ่งเป็นแบบละ 3 รุ่นย่อย คือ รุ่น LE และ SE เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และรุ่น LE เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ขณะที่รุ่นมาตรฐาน หรือไม่มีแค็บ ยังทำตลาดด้วยรุ่นฟรอนเทียร์ในปัจจุบันเช่นเดิม และในปีหน้าเตรียมจะเปิดตัวฟรอนเทียร์ นาวาร่า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เป็นทางเลือกเพิ่มอีกรุ่น
ส่วนสนนราคาของ ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ขณะนี้ยังไม่มีการเคาะออกมา แม้จะเปิดรับจองจากลูกค้าแล้วก็ตาม เพียงแต่กำหนดคร่าวๆ รุ่นเริ่มต้นจะต่ำกว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ส่วนรุ่นกลาง-ท็อป ราคาใกล้เคียงกับวีโก้ แต่ออปชั่นจะมากกว่า
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า ใหม่ สำหรับใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด และเพื่อประกอบการตัดสินใจในการจองรถ ก่อนที่จะเปิดตัวขายจริงกลางเดือนมกราคมปีหน้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดก่อนตัดสินใจจ่ายเงินทั้งหมด ควรจะทดลองขับเสียก่อน!!
