xs
xsm
sm
md
lg

5 ปีทองของ“ดีแมคซ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจาก “ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง” นำเสนอบทความการลองขับ “อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ของโลก” ไปแล้ว วันนี้เราจะพาย้อนอดีตไปดูเส้นทางความสำเร็จของดีแมคซ์กันบ้าง ซึ่ง 4 -5 ปีที่ผ่านมามีไฮไลท์เด็ดๆอะไร? จนชาวบ้าน-ชาวเมือง พร้อมควักเงินแสนเดินเข้าโชว์รูม แลกกับรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ไม่จุกจิก ราคาขายต่อดี อย่างอีซูซุ ดีแมคซ์

พ.ศ.2545 สิ้นยุคมังกรทองสู่“ดีแมคซ์ ฟีเวอร์”

อีซูซุ ดีแมคซ์ เปิดครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 และได้สร้างกระแส “ดีแมคซ์ ฟีเวอร์” ด้วยยอดจองสูงกว่า 10,000 คัน ภายใน 10 วันแรกของการออกสู่ตลาด พร้อมทำยอดขายสูงถึง 100,000 คัน ในเวลาเพียง 1 ปี

โดยรูปโฉมภายนอกถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ตัวถังดูใหญ่โตบึกบึน โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้า ขณะที่กระจังหน้าและกันชนออกแบบอย่างเข้าชุดกันดูทันสมัยมากขึ้น กระจกหลังแบบใหม่ไร้ขอบยาง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 รวมถึงชุดไฟท้ายใหม่แบบ 3 มิติ

ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่สไตล์รถเก๋ง โดยเน้นโทนสีอ่อน พร้อมมาตรวัดระยะแบบดิจิตอล พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อย่างไรก็ตามดีแมคซ์ยังใช้เครื่องยนต์เก่า 4JH1-T max 3000 CV ไดเร็คอินเจคชั่น เทอร์โบ 3000 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที

พ.ศ.2546 ย้ายฐานผลิต-เพิ่มทางเลือก

ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากอีซูซุจะย้ายฐานการผลิตรถปิกอัพจากประเทศญี่ปุ่นมาไทยตามนโยบาย “ดีแมคซ์ เมด อิน ไทยแลนด์” เพื่อเตรียมส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกกว่า 100 ประเทศแล้ว อีซูซุยังนำเสนอทางเลือกใหม่ๆให้ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น “ดีแมคซ์ สปาร์ค” ที่เครื่องยนต์แรงกว่าเดิม “ดีแมคซ์ สเปซแค็บ” หรูด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีครบครัน

โดยแยกอุปกรณ์พิเศษ ไฟหน้าซีนอน เบรก ABS พร้อม EBD และถุงลมนิรภัยคู่ พร้อมด้วย“ดีแมคซ์ โรดีโอ 4WD”ขับเคลื่อน 4ล้อ รวมถึง อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์ เฟล็กซ์ – พลัส และ “ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์” 4x2 ยกสูง ซึ่งมีให้เลือกทั้ง 2 ประตูและ 4 ประตู

พ.ศ.2547 ซูเปอร์คอมมอนเรล สายพันธุ์แท้!

หลังจากคู่แข่งสำคัญ“โตโยต้า”ปล่อยหมัดเด็ดด้วยโมเดลใหม่ของ “ไฮลักซ์ วีโก้”พร้อมเครื่องยนต์คอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นที่ 2 จนกระทั่ง 6 ตุลาคม ปีเดียวกัน อีซูซุก็สวนทันด้วยการวางเครื่องยนต์คอมมอนเรลให้กับดีแมคซ์เช่นกัน พร้อมบลัฟกลับด้วยสโลแกนเด็ด “ซูเปอร์คอมมอนเรล สายพันธุ์แท้”

สำหรับเครื่องยนต์ I-TEQ 3000 Ddi ซูเปอร์คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 1400-3400 รอบต่อนาที รหัส 4JJ1-TC ถูกคิดค้นและพัฒนาใหม่หมด
โดยนำข้อดีของระบบไดเร็คอินเจคชั่นที่โดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน ความทนทานและการบำรุงรักษา รวมกับข้อดีของระบบคอมมอนเรลที่โดดเด่นด้าน สมรรถนะ และมีความเงียบ รวมถึงการสั่นสะเทือนที่น้อยกว่า ทั้งยังเป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยอีกเช่นเคย

พ.ศ.2548 เสริมทัพด้วยเครื่องยนต์ 2500 Ddi

16 กุมภาพันธ์ 2548 อีซูซู เสริมทัพดีแมคซ์ ด้วยเครื่องยนต์ I-TEQ 2500 Ddi ซูเปอร์คอมมอนเรล รหัส 4JK1-TC ขนาด 2500 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,200 รอบ/นาที พร้อมปรับปรุงระบบส่งกำลังทั้ง อัตราทดเกียร์ อัตราทดเฟืองท้าย รวมถึงคลัตช์ใหม่ ขณะเดียวกันยังชูความประหยัดน้ำมันเหมือนเดิม โดยมีให้เลือกในรุ่น สปาร์ค EX,สเปซแค็บ SX และ SLX,แค็บโฟร์ SX และ SLX

ปัจจุบัน...พ.ศ.2549 ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ของโลก!

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา อีซูซุเพิ่มความสดให้ดีแมคซ์ ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่หมดทุกรุ่น พร้อมเพิ่มเครื่องยนต์ 4 JJ1-TCX 3000 Ddi เทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 333 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-3,200 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์ออโตเมติก

อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ใหม่ VGS Turbo จะวางอยู่ใน ดีแมคซ์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แค็บโฟร์เท่านั้น (รวมถึงมิว-เซเว่น 3 โมเดล) ทั้งยังเพิ่มเครื่องยนต์ 2500 Ddi ใน ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่น 2ประตู - 4ประตู และโรดีโอ 4WD อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น