xs
xsm
sm
md
lg

Renault Dauphine : สวยแบบพอเพียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“คันนี้พิเศษตรงที่เป็น 1 ใน 3 โมเดลในปีแรกที่เรโนลต์ผลิต ถ้าจะสะสมคันต่อไปคงต้องคิดนานๆ เพราะเราไม่ใช่คนที่ค้าขายคือบางคนเล่นรถแบบธุรกิจมากกว่าการสะสมคือซื้อมาเพื่อซ่อมแซมแล้วเอามาขายให้คนอื่นที่มีเงินแต่ไม่มีเวลา คนพวกนี้เขาจะเน้นแบบซื้อมาขายไปมากกว่าซึ่งปัจจุบันในบ้านเราก็มีเยอะ บางคนก็เปิดเป็นอู่ไปเลย แบบอู่ซ่อมแล้วขายต่อ”
พี่เปี๊ยก หรือ คุณ กิตติชัย อรชร หนึ่งในกรรมการของสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เจ้าของรถ Renault Dauphine ปี 1956 ซึ่งได้รางวัลชนะเลิศประเภทรถสภาพเดิมยอดเยี่ยม ในงานประกวดรถโบราณครั้งที่ 30 ที่ผ่านมา เล่าถึงความพิเศษของเจ้าโลมาน้อยคันนี้ให้กับ “ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง” ฟังพร้อมกับเปรียบเทียบให้ฟังถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและตัวรถ

“สำหรับผมแล้ว รถโบราณพวกนี้มันมีบุคลิกหรือนิสัยที่ไม่เหมือนกัน คือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็จะดูหรูหรา จากัวร์ก็ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เชฟโรเลตก็ดูบึกบึน แข็งแกร่ง ต่างคนก็ต่างใจ แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน ผมเองที่เลือกเรโนลต์คันนี้เพราะมันเป็นรถที่ตรงกับบุคลิกของผมเองคือเป็นคนที่ไม่เรื่องมาก สบายๆ อารมณ์ดี”

ย้อนถึงการเริ่มต้นความชอบรถโบราณของพี่เปี๊ยกนั้น มาจากการเห็นรถเหล่านี้วิ่งบนท้องถนนในกรุงเทพเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก จนจำฝังใจถึงความสวย สง่างามและคิดว่าสักวันจะมีเป็นของตัวเองสักคัน โดยเริ่มศึกษาข้อมูลจากหนังสือรวมถึงเว็บไซต์ที่มีอยู่ จนกระทั่งได้มาทำงานที่เกี่ยวข้องกับรถโบราณจึงทำให้มีโอกาสได้ศึกษาอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า 10 ปีและตัดสินใจซื้อเจ้าโลมาน้อยคันนี้มา

“เราเองก็ชอบเรื่องรถโบราณ อยากสะสมอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีคันไหนที่จะถูกใจจริงๆ ก็หาไปเรื่อย จนกระทั่งมาเจอคันนี้ ตอนแรกที่ขายนั้นเจ้าของก็โทรมาถามให้ซื้อราคา 20,000 บาท แต่ผมยังไม่สนใจเลยเอาไปลงในเว็บไซต์ให้ แต่ไม่มีใครซื้อ จนกระทั่งเปลี่ยนราคามาเป็น 35,000 บาท ผมเลยตัดสินใจจะซื้อเอง เจ้าของก็เลยลดให้เหลือ 20,000 บาทเท่าเดิม ส่วนรถรุ่นอื่นๆที่ชอบก็อย่างเช่น รถตู้ของโฟล์ค เพราะมันใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแค่ขับไปไหนมาไหน ซึ่งตอนซื้อมาสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ สีก็เป็นสีจากบริษัท เปลี่ยนลูกยาง ลูกสูบ ชิ้นส่วนเล็กๆเท่านั้น ไม่มีเปลี่ยนชิ้นส่วนใหญ่ รวมๆแล้วหมดไปแค่หลักหมื่น”

พูดถึงวงการรถโบราณในบ้านเรานั้น พี่เปี๊ยกบอกว่ามีคนที่สนใจอยู่มาก แต่กระจัดกระจายกันไปทั่วประเทศ บางคนมีรถเก่าๆแต่ไม่มีเวลาดูแล ซ่อมแซม อย่างรถเรโนลต์เองก็เป็นกลุ่มคนน้อยมากที่สนใจ ไม่ค่อยมีคนเล่นเท่ายี่ห้ออื่นๆ อย่าง เอ็มจี เมอร์เซเดส - เบนซ์ หรือ เชพโรเลต ซึ่งร้านอะไหล่ก็มีไม่กี่ร้าน แต่จะมีอะไหล่ที่ประเทศมาเลเซีย หรือสิงคโปร์เยอะมากๆ ซึ่งข้อมูลตรงนี้พี่เปี๊ยกบอกกับเราว่าคนไทยสั่งอะไหล่รถโบราณเข้ามามากที่สุดในโลกรองจากเยอรมัน คนอื่นอาจจะไม่รู้เพราะไม่มีการสำรวจกันอย่างจริงจัง แต่อยากให้คนไทยที่สนใจหรือเก็บสะสมรถโบราณหันมาลงทุนในด้านนี้บ้าง เพราะน่าจะไปได้ไกล เพราะคนไทยก็มีความสามสามารถไม่แพ้ชาติอื่นๆ

เมื่อให้เปรียบเทียบรถรุ่นใหม่และรุ่นเก่าในความคิดของพี่เปี๊ยกแล้ว เขาบอกว่าต่างกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ หรือเครื่องยนต์ "ระหว่างรถรุ่นใหม่กับรถรุ่นเก่าต่างกันที่เวลาการผลิตและผลกำไรที่ได้ อย่างรถรุ่นเก่านั้นผลิตออกมาด้วยดีไซน์ที่สวยงามใช้เวลานานในแต่ละคันและมีคุณภาพ เทียบกับรถใหม่ๆที่นักออกแบบอาจจะดีไซน์ได้ในความคิดที่จำกัดเพราะว่าบริษัทรถต้องการประหยัดงบประมาณ นอกจากนี้ยังต้องรักษาระยะเวลาในการผลิตให้ได้จำนวนตามที่ต้องการจึงทำให้รถใหม่นั้นขาดจิตวิญญาณในการออกแบบไปมากด้วยมัวแต่คิดถึงตัวเลขกำไร-ขาดทุนหรือการแข่งขันในเรื่องเครื่องยนต์มากกว่าอย่างอื่น"

ในอนาคตพี่เปี๊ยกบอกกับเราว่าคงไม่อยากมีรถเพิ่มอีกเพราะเรโนลต์คันนี้ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่รู้ใจแล้ว ถ้ารู้สึกว่าแค่นี้เราพอใจแล้ว มีความสุขแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปไขว่คว้าหารถโบราณที่มีราคาแพงหรือยี่ห้อดัง เพราะของแบบนี้ขึ้นอยู่ที่ใจเท่านั้นเอง..................
กำลังโหลดความคิดเห็น