บีเอ็มดับเบิลยู หันมาลุยตลาดรถสปอร์ตเปิดประทุนตัวแรง ด้วยการผลิตเวอร์ชันเอ็ม เพาเวอร์ให้กับซีรีส์ 6 เปิดประทุน และขายในชื่อ เอ็ม6 คอนเวอร์ติเบิล ซึ่งว่ากันว่าเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนที่มีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่บีเอ็มดับเบิลยูเคยผลิตออกมา
รุ่นเปิดประทุนของเอ็ม6 ถูกส่งทำตลาดเสริมทัพกับรุ่นคูเป้ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ 1 ปี เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาการซิ่งรับลมเย็นแบบเต็มสมรรถนะ ซึ่งเอ็ม6 เปิดประทุนมีการเสริมหล่อด้วยชุดแต่งรอบคัน พร้อมล้อแม็กวงโตสะใจขนาด 19 นิ้ว ซึ่งด้านหน้าใช้ยางขนาด 255/40R19 และด้านหลังเป็นขนาด 285/35R19
นอกจากนั้นยังมีการนำอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนบางจุดของตัวถังเพื่อเป็นการลดน้ำหนัก พร้อมกับมีอัตราส่วนกระจายน้ำหนักของตัวรถระหว่างด้านหน้าและหลังที่ได้สมดุลในระดับ 50:50
ส่วนหลังคาผ้าใบมีทั้งหมด 3 ชั้น และชั้นกลางใช้วัสดุที่เรียกว่า Polyurethane (PUR) เพื่อความทนทาน ลดเสียงดังเข้าสู่ห้องโดยสาร และป้องกันความร้อนที่จะถูกส่งผ่านเข้ามา
จุดหลักของรถสปอร์ตรุ่นนี้คือขุมพลังวี10 ของบีเอ็มดับเบิลยูบล็อกนี้ สามารถสร้างชื่อเสียงโดยเฉพาะการคว้ารางวัลต่างๆมากมาย อย่างล่าสุดก็ได้รับเลือกให้เป็นเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในระดับนานาชาติแห่งปี หรือ International Engine of the Year ซึ่งจัดขึ้นโดยสื่อมวลชนในอังกฤษเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
เครื่องยนต์รุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกกับเอ็ม5 ซีดาน และตามด้วยเอ็ม6 คูเป้ ส่วนรุ่นเปิดประทุนเป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ที่ได้สวมหัวใจพลังแรงรุ่นนี้ ซึ่งตัวเครื่องยนต์มีความจุกระบอกสูบ 5,000 ซีซี ถ่ายทอดออกมาถึง 507 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 52.9 กก.-ม. ที่ 6,100 รอบ/นาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์ไฟฟ้า หรือเอสเอ็มจี-ทูแบบ 7 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 321 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถูกล็อกไว้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ถือเป็นอีกตัวเลือกในตลาดที่ไม่น่ามองข้ามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตเปิดประทุนพลังแรง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูจะส่งเอ็ม6 เปิดประทุนลงขายในยุโรปช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน และถ้าเข้าเมืองไทย ราคาน่าจะบวกลบ 20 ล้านบาท
รุ่นเปิดประทุนของเอ็ม6 ถูกส่งทำตลาดเสริมทัพกับรุ่นคูเป้ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ 1 ปี เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาการซิ่งรับลมเย็นแบบเต็มสมรรถนะ ซึ่งเอ็ม6 เปิดประทุนมีการเสริมหล่อด้วยชุดแต่งรอบคัน พร้อมล้อแม็กวงโตสะใจขนาด 19 นิ้ว ซึ่งด้านหน้าใช้ยางขนาด 255/40R19 และด้านหลังเป็นขนาด 285/35R19
นอกจากนั้นยังมีการนำอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนบางจุดของตัวถังเพื่อเป็นการลดน้ำหนัก พร้อมกับมีอัตราส่วนกระจายน้ำหนักของตัวรถระหว่างด้านหน้าและหลังที่ได้สมดุลในระดับ 50:50
ส่วนหลังคาผ้าใบมีทั้งหมด 3 ชั้น และชั้นกลางใช้วัสดุที่เรียกว่า Polyurethane (PUR) เพื่อความทนทาน ลดเสียงดังเข้าสู่ห้องโดยสาร และป้องกันความร้อนที่จะถูกส่งผ่านเข้ามา
จุดหลักของรถสปอร์ตรุ่นนี้คือขุมพลังวี10 ของบีเอ็มดับเบิลยูบล็อกนี้ สามารถสร้างชื่อเสียงโดยเฉพาะการคว้ารางวัลต่างๆมากมาย อย่างล่าสุดก็ได้รับเลือกให้เป็นเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในระดับนานาชาติแห่งปี หรือ International Engine of the Year ซึ่งจัดขึ้นโดยสื่อมวลชนในอังกฤษเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
เครื่องยนต์รุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกกับเอ็ม5 ซีดาน และตามด้วยเอ็ม6 คูเป้ ส่วนรุ่นเปิดประทุนเป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ที่ได้สวมหัวใจพลังแรงรุ่นนี้ ซึ่งตัวเครื่องยนต์มีความจุกระบอกสูบ 5,000 ซีซี ถ่ายทอดออกมาถึง 507 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 52.9 กก.-ม. ที่ 6,100 รอบ/นาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์ไฟฟ้า หรือเอสเอ็มจี-ทูแบบ 7 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 321 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถูกล็อกไว้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ถือเป็นอีกตัวเลือกในตลาดที่ไม่น่ามองข้ามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตเปิดประทุนพลังแรง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูจะส่งเอ็ม6 เปิดประทุนลงขายในยุโรปช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน และถ้าเข้าเมืองไทย ราคาน่าจะบวกลบ 20 ล้านบาท
