ผลผลิตที่ 2 ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกับคอมแพ็กต์คาร์ยอดนิยมรุ่นซีวิคของฮอนด้าเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว เพียงแต่ยังไม่ถึงคิวของซีอาร์-วี แต่เป็นการโมเดลเชนจ์หรือรุ่นเปลี่ยนโฉมของมินิแวนรุ่น “สตรีม” ซึ่งทางฮอนด้าจัดการพลิกโฉมสู่ความสปอร์ตเพื่อแข่งขันกับคู่ปรับสำคัญอย่างโตโยต้า วิช

ทั้งยังเพิ่มทางเลือกกับเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือ 1,800 ซีซีบล็อกเดียวกับซีวิค และของใหม่แกะกล่อง ขุมพลัง 2,000 ซีซี 150 แรงม้า...
รุ่นแรกของสตรีมเปิดตัวในปี 2000 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากอยู่พักหนึ่งในตลาดญี่ปุ่นก่อนที่จะสูญเสียตลาดไปให้กับโตโยต้า วิชที่เปิดตัวในปี 2002 เพราะนอกจากจะใหม่สดกว่าแล้วยังออกแบบได้สปอร์ตและปราดเปรียวโดนใจกลุ่มลูกค้าโดยหันไปเน้นความสปอร์ตบนความอเนกประสงค์ซึ่งทำให้คุณพ่อบ้านหลายคนสามารถซื้อหามาขับได้โดยไม่ต้องอายว่าขับรถครอบครัว

ดังนั้นรุ่นใหม่ของสตรีมจึงพลิกภาพลักษณ์จากเดิมที่เป็นมินิแวนหน้าตาเรียบๆ สำหรับรับส่งลูกๆ มาสู่ความสปอร์ตที่ได้รับส่วนผสมของการออกแบบมาจากเอ็มพีวีรุ่นใหญ่อย่างโอดิสซีส์ แถมยังตอบสนองความเร้าใจในการขับด้วยเครื่องยนต์บล็อกใหม่ และความอเนกประสงค์ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เบาะนั่งแถวที่ 3 มีความกว้างขวางชนิดนั่งได้อย่างสบายๆ
ส่วนหนึ่งนอกจากการออกแบบภายในที่ยอดเยี่ยมแล้ว เป็นเพราะการขยายระยะฐานล้อให้ยาวขึ้นจากซีวิครุ่นใหม่อีก 40 มิลลิเมตร หรือ 20 มิลลิเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับสตรีมรุ่นเดิมเป็น 2,740 มิลลิเมตร โดยที่มิติตัวถังมีความยาว4,570 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร และสูง 1,570 มิลลิเมตร

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับสตรีมใหม่ คือ การเมินเครื่องยนต์บล็อก K แล้วหันมาเสริมทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่พัฒนาจากขุมพลังบล็อก R ในพิกัด 1,800 ซีซีที่เปิดตัวครั้งแรกกับซีวิครุ่นปัจจุบัน
โดยคราวนี้วิศวกรของฮอนด้าเปิดตัวเครื่องยนต์รหัส R20A ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับ R18A แต่มีการขยายระยะชักของข้อเหวี่ยง จาก 87.3 มาเป็น 96.9 มิลลิเมตร ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบยังเท่าเดิมที่ 81 มิลลิเมตร โดยที่ฝาสูบยังเป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC และอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากันที่ 10.5 : 1

ส่งผลให้กระบอกสูบเพิ่มขึ้นเป็น 1,997 ซีซี มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า มีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งติดตั้งเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT และอัตโนมัติ 5 จังหวะสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีความประหยัดน้ำมันในระดับ 13.4-14.8 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
หากไม่ชอบเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ก็สัมผัสได้กับรุ่น 1,800 ซีซีเหมือนกับซีวิคในบ้านเรา กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและ 4 ล้อ แต่ใช่เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะเพียงแบบเดียว

ในญี่ปุ่นเปิดตัวแล้วกับราคา 1,806,000-2,541,000 เยน หรือ 630,000-889,000 บาท ส่วนเมืองไทย ต้องรอดูว่าจะมีขายเหมือนกับรุ่นที่แล้วหรือไม่ และถ้ามีคราวนี้จะนำเข้าจากฐานการผลิตที่อินโดนีเซียเหมือนเดิม หรือว่าจะใจถึงตั้งไลน์ประกอบในไทย คงต้องติดตามกันต่อไป
ทั้งยังเพิ่มทางเลือกกับเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือ 1,800 ซีซีบล็อกเดียวกับซีวิค และของใหม่แกะกล่อง ขุมพลัง 2,000 ซีซี 150 แรงม้า...
รุ่นแรกของสตรีมเปิดตัวในปี 2000 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากอยู่พักหนึ่งในตลาดญี่ปุ่นก่อนที่จะสูญเสียตลาดไปให้กับโตโยต้า วิชที่เปิดตัวในปี 2002 เพราะนอกจากจะใหม่สดกว่าแล้วยังออกแบบได้สปอร์ตและปราดเปรียวโดนใจกลุ่มลูกค้าโดยหันไปเน้นความสปอร์ตบนความอเนกประสงค์ซึ่งทำให้คุณพ่อบ้านหลายคนสามารถซื้อหามาขับได้โดยไม่ต้องอายว่าขับรถครอบครัว
ดังนั้นรุ่นใหม่ของสตรีมจึงพลิกภาพลักษณ์จากเดิมที่เป็นมินิแวนหน้าตาเรียบๆ สำหรับรับส่งลูกๆ มาสู่ความสปอร์ตที่ได้รับส่วนผสมของการออกแบบมาจากเอ็มพีวีรุ่นใหญ่อย่างโอดิสซีส์ แถมยังตอบสนองความเร้าใจในการขับด้วยเครื่องยนต์บล็อกใหม่ และความอเนกประสงค์ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เบาะนั่งแถวที่ 3 มีความกว้างขวางชนิดนั่งได้อย่างสบายๆ
ส่วนหนึ่งนอกจากการออกแบบภายในที่ยอดเยี่ยมแล้ว เป็นเพราะการขยายระยะฐานล้อให้ยาวขึ้นจากซีวิครุ่นใหม่อีก 40 มิลลิเมตร หรือ 20 มิลลิเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับสตรีมรุ่นเดิมเป็น 2,740 มิลลิเมตร โดยที่มิติตัวถังมีความยาว4,570 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร และสูง 1,570 มิลลิเมตร
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับสตรีมใหม่ คือ การเมินเครื่องยนต์บล็อก K แล้วหันมาเสริมทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่พัฒนาจากขุมพลังบล็อก R ในพิกัด 1,800 ซีซีที่เปิดตัวครั้งแรกกับซีวิครุ่นปัจจุบัน
โดยคราวนี้วิศวกรของฮอนด้าเปิดตัวเครื่องยนต์รหัส R20A ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับ R18A แต่มีการขยายระยะชักของข้อเหวี่ยง จาก 87.3 มาเป็น 96.9 มิลลิเมตร ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบยังเท่าเดิมที่ 81 มิลลิเมตร โดยที่ฝาสูบยังเป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC และอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากันที่ 10.5 : 1
ส่งผลให้กระบอกสูบเพิ่มขึ้นเป็น 1,997 ซีซี มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า มีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งติดตั้งเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT และอัตโนมัติ 5 จังหวะสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีความประหยัดน้ำมันในระดับ 13.4-14.8 กิโลเมตร/ลิตรขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
หากไม่ชอบเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ก็สัมผัสได้กับรุ่น 1,800 ซีซีเหมือนกับซีวิคในบ้านเรา กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและ 4 ล้อ แต่ใช่เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะเพียงแบบเดียว
ในญี่ปุ่นเปิดตัวแล้วกับราคา 1,806,000-2,541,000 เยน หรือ 630,000-889,000 บาท ส่วนเมืองไทย ต้องรอดูว่าจะมีขายเหมือนกับรุ่นที่แล้วหรือไม่ และถ้ามีคราวนี้จะนำเข้าจากฐานการผลิตที่อินโดนีเซียเหมือนเดิม หรือว่าจะใจถึงตั้งไลน์ประกอบในไทย คงต้องติดตามกันต่อไป