ซีแอลเป็นความโฉบเฉี่ยวที่ทำตลาดควบคู่กับความหรูในแบบ 4 ประตูของเอส-คลาสมานานหลายสิบปีโดยเริ่มต้นสายพันธุ์ตั้งแต่รุ่นแรกในช่วงทศวรรษที่ 1980
ล่าสุดเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวโฉมใหม่ของซีแอล-คลาสออกมาแล้วในตลาดยุโรปเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กับความหรูหราสุดปราดเปรียวพร้อมเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบวี8 ในรุ่นซีแอล500 (แต่บางแห่งเรียกว่าซีแอล550) และวี12 ในรุ่นซีแอล600
สำหรับรุ่นใหม่ใช้รหัสตัวถังซี216 มาแทนที่รุ่นเดิมคือ ดับเบิลยู215 ซึ่งเริ่มทำตลาดในปี 2000 โดยทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ออกแบบและเพิ่มความปราดเปรียวโดยอิงกับอิทธิพลของเส้นสายบนตัวถังที่คล้ายกับเอส-คลาสรุ่นปัจจุบัน
โดยส่วนที่โดดเด่นที่สุดบนตัวรถก็คือ รูปทรงของกระจกบังลมหลัง ซึ่งแทนที่จะเป็นบานสี่เหลี่ยมเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป แต่ค่ายดาว 3 แฉกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับครึ่งวงกลมและด้านบนของกระจกก็มีลักษณะโค้งเว้าและกินพื้นที่เข้าไปในส่วนของหลังคา ทำให้ดูสวยสะดุดตาไปอีกแบบ และเสริมหล่อด้วยล้อแม็กขนาด 17 นิ้วสำหรับรุ่นซีแอล500 และเปลี่ยนมาเป็น 18 นิ้วสำหรับซีแอล600
ขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นในทุกสัดส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม มีความยาว 5,065 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 75 มิลลิเมตร) กว้าง 1,871 มิลลิเมตร (+14 มิลลิเมตร) สูง 1,418 มิลลิเมตร (+20 มิลลิเมตร) และระยะฐานล้อ 2,955 มิลลิเมตร จึงมั่นใจได้ในความกว้างขวางของห้องโดยสารที่สามารถรองรับผู้โดยสารรวม 4 ที่นั่งชนิดที่นั่งบายไม่ต้องเบียดเสียดเหมือนกับรถสปอร์ตทั่วไป
และแม้จะดูใหญ่แต่ก็ไม่เทอะทะ เพราะซ่อนความเพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ หรือ Cd อยู่ที่ 0.27
นอกจากความใหม่ในแบบโมเดลเชนจ์แล้ว ซีแอลใหม่ยังครบครันด้วยสารพัดระบบที่สุดไฮเทคซึ่งยกชุดมาจากเอส-คลาสใหม่ เช่น ระบบไฟหน้าแบบ ILS-Intelligent Light System สามารถปรับระดับการส่องสว่างได้ถึง 5 รูปแบบเพื่อให้สัมพันธ์กับสภาพเส้นทาง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบพองตัวตามระดับความรุนแรงของการชน, ระบบพรีเซฟ (Presafe) ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ระบบก็จะช่วยลดความรุนแรงในการชน และเพิ่มระดับการปกป้องให้กับผู้โดยสารและผู้ขับขี่, ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน หรือระบบควบคุมการทรงตัว-ESP
เวอร์ชันแรกของซีแอลที่จะถูกส่งลงทำตลาดในช่วงต้นปี 2007 มี 2 เครื่องยนต์ คือ รุ่นซีแอล500 ใช้ขุมพลังวี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 5,500 ซีซี มีกำลังสูงสุด 388 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 54.0 กก.-ม. ที่ 2,400-4,800 รอบ/นาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.4 วินาที ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมเยอะมาก (6.3 วินาที) และความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อีกรุ่นเป็นซีแอล600 เครื่องยนต์วี12 แบบ 3 วาล์วต่อสูบ ทวินเทอร์โบ มีความจุกระบอกสูบ 5,513 ซีซี 517 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 84.6 กก.-ม. ที่ 1,900-3,500 รอบ/นาที ใช้เวลา 4.6 วินาที (รุ่นเดิม 4.8 วินาที และมีกำลังน้อยกว่า 17 แรงม้า) กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วปลายเกิน 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถูกล็อคไว้ในระดับนี้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้ง 2 รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะรุ่น 7G-Tronic พร้อมโหมด Direct Shift ที่ผู้ขับสามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ผ่านทางแป้น + หรือ – ที่อยู่บนพวงมาลัย ส่วนระบบช่วงล่างเป็นแบบ 4 จุดยึด และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมระบบ ABC-Active Body Control ควบคุมการโคลงของตัวถังในขณะเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหันสำหรับระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง
ซีแอลใหม่เริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในยุโรปตั้งแต่ต้นปีหน้ากับราคาที่ยังไม่เปิดเผย โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์จะนำออกจัดแสดงอีกครั้งนปารีส มอเตอร์โชว์ 2006 ที่ประเทศฝรั่งเศสช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้
ส่วนใครที่รอรหัสแรงจาก AMG ไม่น่าพลาดเพราะค่ายดาว 3 แฉกเปิดตัวออกมาแน่นอน และคิดว่าน่าจะเป็นรหัสซีแอล63เอเอ็มจี พร้อมเครื่องยนต์วี8 6,200 ซีซี 514 แรงม้าเหมือนกับเอส-คลาสอย่างแน่นอน