ข่าวต่างประเทศ – ออดี้ประกาศชัย คว้าแชมป์เลอมังส์ 24 ช.ม. ด้วย “R10 TDI” หัวใจดีเซล ด้านไทยยานยนตร์ร่วมเฮ พร้อมเดินหน้าดันเครื่องยนต์ดีเซลเสริมตลาด
มาร์ติน วินเทอร์คอร์น ประธานกรรมการบอร์ด Audi AG ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า Audi R10 TDI ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นครั้งแรกในโลก สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันเลอมังส์ 24 ช.ม. รายการสุดโหด และนับเป็นครั้งที่ 6 แล้ว นอกจากนี้ Audi R10 TDI อีกคันยังสามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วย
“ชัยชนะในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของออดี้เอจี มันคือข้อพิสูจน์ที่งดงามจริงๆสำหรับสโลแกนของออดี้ที่ว่า “Vorsprung durch Technik” ซึ่งหมายถึง “ผู้เป็นต้นแบบทางเทคโนโลยี” ความหวังที่จะคว้าชัยชนะในการแข่งขันเลอมังส์ 24 ชั่วโมง ในฐานะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลก ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คือ ความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นความจริงแล้วในวันนี้ พวกเรามีความมุ่งมั่น ความกล้าหาญและประสบความสำเร็จในการพยายามครั้งแรกแล้ววันนี้”
Audi R10 TDI ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล แบบวี 12 สูบ มีความจุเครื่องยนต์ 5500 ซีซี ให้กำลังมากกว่า 650 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 1,100 นิวตันเมตร ทำสถิติใหม่สูงสุด สามารถวิ่งได้ถึง 380 รอบ ภายในเวลา 24 ช.ม. คิดเป็นระยะทาง 5,187 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับระยะทางการแข่งขันทั้งหมดของฟอร์มูล่า1 ในหนึ่งฤดูกาล นอกจากนี้รถ Audi R10 TDI ยังทำสถิติต่อรอบได้เร็วที่สุด สามารถใช้เวลาเพียง 3 นาที 31.211 วินาที และสามารถวิ่งได้ถึง 16 รอบ โดยเติมน้ำมันเต็มถังเพียงครั้งเดียว
กิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและ จัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากกับความสำเร็จของออดี้ในครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายที่สำคัญมากกว่าการเป็นผู้ชนะในสนามแข่งเลอมังส์ แต่หมายถึงความสำเร็จทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญของออดี้ที่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆให้กับวงการ อุตสาหกรรมรถยนต์อีกครั้ง
การพัฒนาเทคโนยีเครื่องยนต์ดีเซลที่มาใช้กับรถยนต์ Audi R10 TDI ถือเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ครั้งสำคัญที่พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า TDI เทคโนโลยี ของออดี้ยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน ทั้งสมรรถนะความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความเงียบของเครื่องยนต์ และ ความทนทาน
“ด้วยความโดดเด่นทางเทคโนโลยี ทั้งของเครื่องยนต์ TDI และ TFSI ขณะนี้ทางบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมการที่จะนำเข้ารถยนต์ Audi ที่ใช้เทคโนโลยี TDI ในหลายๆ รุ่น รวมถึงการขยายการทำตลาดเครื่องยนต์ TFSI ในรุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากรุ่น A4 2.0 TFSI ที่เปิดตลาดไปเมื่อปลายปีก่อน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับตลาดรถหรูในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยี ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดี และเหมาะสมกับยุคสมัยที่น้ำมันแพง”
มาร์ติน วินเทอร์คอร์น ประธานกรรมการบอร์ด Audi AG ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า Audi R10 TDI ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นครั้งแรกในโลก สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันเลอมังส์ 24 ช.ม. รายการสุดโหด และนับเป็นครั้งที่ 6 แล้ว นอกจากนี้ Audi R10 TDI อีกคันยังสามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วย
“ชัยชนะในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของออดี้เอจี มันคือข้อพิสูจน์ที่งดงามจริงๆสำหรับสโลแกนของออดี้ที่ว่า “Vorsprung durch Technik” ซึ่งหมายถึง “ผู้เป็นต้นแบบทางเทคโนโลยี” ความหวังที่จะคว้าชัยชนะในการแข่งขันเลอมังส์ 24 ชั่วโมง ในฐานะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลก ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คือ ความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นความจริงแล้วในวันนี้ พวกเรามีความมุ่งมั่น ความกล้าหาญและประสบความสำเร็จในการพยายามครั้งแรกแล้ววันนี้”
Audi R10 TDI ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล แบบวี 12 สูบ มีความจุเครื่องยนต์ 5500 ซีซี ให้กำลังมากกว่า 650 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 1,100 นิวตันเมตร ทำสถิติใหม่สูงสุด สามารถวิ่งได้ถึง 380 รอบ ภายในเวลา 24 ช.ม. คิดเป็นระยะทาง 5,187 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับระยะทางการแข่งขันทั้งหมดของฟอร์มูล่า1 ในหนึ่งฤดูกาล นอกจากนี้รถ Audi R10 TDI ยังทำสถิติต่อรอบได้เร็วที่สุด สามารถใช้เวลาเพียง 3 นาที 31.211 วินาที และสามารถวิ่งได้ถึง 16 รอบ โดยเติมน้ำมันเต็มถังเพียงครั้งเดียว
กิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและ จัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากกับความสำเร็จของออดี้ในครั้งนี้ ซึ่งมีความหมายที่สำคัญมากกว่าการเป็นผู้ชนะในสนามแข่งเลอมังส์ แต่หมายถึงความสำเร็จทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญของออดี้ที่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆให้กับวงการ อุตสาหกรรมรถยนต์อีกครั้ง
การพัฒนาเทคโนยีเครื่องยนต์ดีเซลที่มาใช้กับรถยนต์ Audi R10 TDI ถือเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ครั้งสำคัญที่พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า TDI เทคโนโลยี ของออดี้ยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน ทั้งสมรรถนะความแรง ความประหยัดน้ำมัน ความเงียบของเครื่องยนต์ และ ความทนทาน
“ด้วยความโดดเด่นทางเทคโนโลยี ทั้งของเครื่องยนต์ TDI และ TFSI ขณะนี้ทางบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมการที่จะนำเข้ารถยนต์ Audi ที่ใช้เทคโนโลยี TDI ในหลายๆ รุ่น รวมถึงการขยายการทำตลาดเครื่องยนต์ TFSI ในรุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากรุ่น A4 2.0 TFSI ที่เปิดตลาดไปเมื่อปลายปีก่อน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับตลาดรถหรูในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยี ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดี และเหมาะสมกับยุคสมัยที่น้ำมันแพง”
