ข่าวดีสำหรับเศรษฐีคนไหนที่พลาดไม่ได้เป็น 1 ใน 100 คนแรกที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของซีแอลเค ดีทีเอ็มเวอร์ชันแรก ซึ่งพัฒนาบนตัวถังสปอร์ตคูเป้ เพราะในตอนนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดโอกาสที่ 2 ให้แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องทำใจหน่อย เนื่องจากไม่ได้ผลิตตัวถังคูเป้เหมือนกับรุ่นแรก
แต่คราวนี้มากับการซิ่งกินลมด้วยเวอร์ชันเปิดประทุน พร้อมทุกรายละเอียดที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากตัวแข่งทัวริงคาร์รายการดีทีเอ็ม และที่สำคัญต้องรีบกันอีกเช่นเคย เพราะมีการผลิตจำกัดไว้ที่ 100 คันเหมือนเดิม
เวอร์ชันเปิดหลังคา หรือรุ่นเปิดประทุนเผยโฉมให้เห็นในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2006 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์เพิ่งประกาศส่งขายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ โดยตัวรถได้รับการผลิตแบบแฮนด์เมดจากโรงงานของเอเอ็มจี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเมอร์เซเดส-เบนซ์
รูปลักษณ์ภายนอกถอดแบบมาจากรูปลักษณ์ของตัวแข่งดีทีเอ็มทั้งสปอยเลอร์ด้านหน้าและหลัง รวมถึงช่องระบายอากาศซึ่งออกแบบเป็นครีบที่โค้งตามซุ้มล้อหน้า หรือช่อง Diffusser สำหรับรีดอากาศใต้ท้องรถให้ไหลออกทางด้านท้ายของตัวรถอย่างมีระเบียบ
เพียงแต่สิ่งที่คลุมหัวไม่ใช่หลังคาแข็งแต่เป็นหลังคาผ้าใบสีดำและล้อแม็กด้านหน้ามีขนาด 8.5X19 นิ้วประกบยางขนาด 255/35ZR19 และขนาด 10X20 นิ้วประกบยางขนาด 285/30ZR20 ที่ด้านหลัง
ภายในได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นรถแข่งที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสวกสบาย และเพียบ พร้อมด้วยความหรู ชุดมาตรวัดออกแบบใหม่ให้มาตรวัดรอบความเร็วและเครื่องยนต์รวมอยู่ในวงเดียวกัน วงนอกเป็นมาตรวัดความเร็วซึ่งแสดงผลตัวเลขความเร็วสูงสุดไว้ที่ 360 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ขณะที่วงในเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ และถ้าใครอยากทราบว่ารถที่ตัวเองซื้อมาเป็นคันที่เท่าไร ก็ดูได้ที่ฐานคันเกียร์ซึ่งแผ่นป้ายระบุหมายเลขของรถยนต์คันนั้นจากจำนวน 100 คันเอาไว้ให้
แน่นอนว่าความแรงที่ได้ยังมาจากเครื่องยนต์วี8 5,500 ซีซี ซูเปอร์ชาร์จเหมือนเดิม แต่ได้รับการพัฒนาให้มีความจัดจ้านเพิ่มขึ้นเป็น 582 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะแบบ Speedshift ของเอเอ็มจีแล้วให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4 วินาที ส่วนความเร็วปลายล็อกไว้ที่ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าปลดล็อกออกคงทำได้มากกว่านี้
กับค่าตัว 227,820 ยูโร หรือ ประมาณ 11.4 ล้านบาท (ในเยอรมนี) ไม่มีปัญหาสำหรับเศรษฐีที่ชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แต่งานนี้คงต้องรีบกันหน่อย เพราะมีแค่ 100 คันเท่านั้น หมดแล้วหมดเลยไม่มีผลิตเพิ่มออกมาขาย
