กินน้ำมันพอๆ กับรถยนต์ขนาดครอบครัวที่วางเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี แต่มีอัตราเร่งดีพอๆ กับพอร์ช 911 เกียร์อัตโนมัติ...นี่คือนิยามที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนทีแท้จริงของรถยนต์ไฮบริดระดับหรูรุ่นใหม่จากเล็กซัสที่ใช้พื้นฐานของซีดานสายพันธุ์จีเอสที่มาในรหัสจีเอส450เอช
ว่ากันว่ารถยนต์ไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองได้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน เรียกว่าอยากประหยัดก็ทำได้กับตัวเลขความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับ 35.8 ไมล์/แกลลอน หรือ 14.5 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับการขับขี่ในรูปแบบผสม
ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม มีค่ามลพิษต่ำมากในระดับเอสยูวีแอลอีวี หรือ SULEV-Super Ultra Low Emission Vehicle โดยมีระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียเพียงแค่ 186 กรัม/กิโลเมตร และที่สำคัญ คงมีรถยนต์ไฮบริดเพียงไม่กี่รุ่นที่สามารถมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.9 วินาที และความเร็วปลาย 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใกล้เคียงกับรถสปอร์ตพันธุ์แท้อย่างพอร์ช 911 คาร์เรราเลยทีเดียว
เล็กซัสเผยโฉมจีเอส450เอชเมื่อปี 2005 และใช้เวลานานร่วม 1 ปีกว่าที่จะผลักดันออกขายจริง โดยถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 2 ของเล็กซัส และเป็นรุ่นแรกที่พัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง
โดยจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้คือระบบไฮบริด ซินเนอยี่ ไดรฟ์ หรือ HSD-Hybrid Synergy Drive ของเล็กซัสซึ่งมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาระบบไฮบริดให้ตอบสนองการขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ตัวเครื่องยนต์หลักเป็นขุมพลังรหัส 2GR-FSE ที่เปิดตัวครั้งแรกกับโตโยต้า คราวน์ที่ขายอยู่ในญี่ปุ่น เป็นแบบเบนซินวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 3,500 ซีซี ที่มาพร้อมกับระบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ๊กชันแบบซูเปอร์วิชัน หรือ D-4S (Direct Injection 4-Stroke Super Vision)
พร้อมกับระบบวาล์วแปรผันแบบคู่ หรือ Dual VVT-I สามารถผลิตกำลังออกได้ 292 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที และเมื่อผนึกกำลังขับเคลื่อนกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรจะผลิตกำลังออกมาได้ถึง 345 แรงม้าเลยทีเดียว
เล็กซัสส่งจีเอส450เอชทำตลาดทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยในอังกฤษมีราคาขายอยู่ระหว่าง 38,015-46,765 ปอนด์ หรือ 2.66-3.27 ล้านบาท
