นอกจากการทำตลาดเอสยูวีด้วยทางเลือกอย่างรุ่นจิมนี่ และเอสคูโด หรือวีทาราแล้ว ซูซูกิยังเจาะตลาดเอสยูวีไซส์ใหญ่ที่ให้ความอเนกประสงค์ในการใช้งานทั้งการลุยและการบรรทุกกับ เอ็กซ์แอล-7 อีกด้วย
ซึ่งในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2006 เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพิ่งมีการเปิดตัวรุ่นใหม่แกะกล่องทั้งคัน และยังคงจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมในทั้ง 2 ด้านเหมือนเดิม
รุ่นแรกของเอ็กซ์แอล-7 พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเอสคูโด หรือวีทาราเปิดตัวในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ส่วนในรุ่นใหม่เป็นสายพันธุ์ที่ 2 ซึ่งทางซูซูกิจับมือร่วมกับจีเอ็มหรือเจนเนอรัล มอเตอร์สในการพัฒนาขึ้นมา
โดยหยิบยืมพื้นตัวถังรุ่นเธต้า (Theta) สำหรับใช้กับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าขนาดกลางของจีเอ็มมาใช้งาน รวมถึงเครื่องยนต์วี6 ด้วย
ตัวถังทรงเอสยูวี 5 ประตูมาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยล้ำสมัยที่ได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากรถยนต์ต้นแบบรุ่นคอนเซ็ปต์-เอ็กซ์ที่เปิดตัวในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2005 ขนาดตัวถังพกพาความยาวถึง 4,995 มิลลิเมตร กว้าง 1,835 มิลลิเมตร สูง 1,750 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,857 มิลลิเมตร
ขณะที่ภายในห้องโดยสารสามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุมด้วยเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งสามารถเลือกพับได้ตามความต้องการใช้งาน ให้ความอเนกประสงค์ไม่ต่างจากมินิแวน หรือเอ็มพีวี
สำหรับเครื่องยนต์เบนซินวี6 ทวินแคม 24 วาล์วพร้อมระบบวาล์วแปรผันที่ประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรง เป็นขุมพลังที่ออกแบบและพัฒนาโดยจีเอ็ม แต่ทางซูซูกิรับหน้าที่ผลิตที่โรงงานซาการาในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะมีการปรับแต่งกล่องสมองกล หรืออีซียูซึ่งควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ให้แตกต่างไปตามประเภทของรถยนต์ที่นำมาวางเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต
ตัวเครื่องยนต์มีความจุ 3,600 ซีซี เข้ามาแทนที่รุ่น 2,700 ซีซีของเดิม ตามสเปกที่วางในซูซูกิมีกำลังสูงสุด 250 แรงม้า และมีความประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า ด้วยค่าความสิ้นเปลืองสำหรับการขับนอกเมืองอยู่ที่ 24 และ 23 ไมล์/แกลลอน
สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อ (ตามลำดับ) หรือ 10.2 และ 9.7 กิโลเมตร/ลิตร จริงอยู่ที่ว่าตัวเลขอาจไม่โดดเด่นและเตะตา แต่เมื่อคิดว่าเป็นเอสยูวีขนาดกลางกึ่งใหญ่ และใช้เครื่องยนต์วี6 ที่มีความจุถึง 3,600 ซีซี ตัวเลขระดับนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร
สำหรับระบบกันสะเทือนได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองการใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลงขนาด 26 มิลลิเมตร และด้านหลังแบบยึด 4 จุด พร้อมเหล็กกันโคลงขนาด 20 มิลลิเมตร
แม้จะเน้นความนุ่มนวลและสมรรถนะในการขับบนทางเรียบ แต่ถ้าจะลุยก็ไปได้ในระดับหนึ่งกับความสามารถในการไต่กับมุมไต่ หรือ Approach Angle 17.5 องศา มุมจาก หรือ Departure Angle 20 องศา อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาให้สามารถลากจูงสัมภาระที่มีขนาด 3,500 ปอนด์ หรือ 1,578 กิโลกรัมได้อย่างสบายๆ
การทำตลาดของเอ็กซ์แอล-7 ใหม่จะเริ่มขึ้นที่สหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก เริ่มขายตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไปในราคา 23,000-29,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 920,000-1,160,000 บาท โดยหวังยอดจำหน่ายทั้งรุ่นล้อหน้าและ 4 ล้อตลอดเวลาเอาไว้ที่ 50-50% เท่ากัน