xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อเพื่อนเก่าขอแรง...Ford Shelby GT500

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถ้าเอ่ยถึงชื่อของแคร์โรลล์ เชลบี้ (Carroll Shelby) คนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟอร์ดคงรู้จักกันดี เพราะเขาผู้นี้เคยสร้างตำนานความแรงให้กับมัสแตงมาแล้วในช่วงทศวรรษที่ 1960 รวมถึงช่วยฟอร์ดในการสร้างชื่อในสนามแข่งเลอมังส์ในช่วงปลายทศวรรษเดียวกันอีกด้วย ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันเดินและไม่ได้ร่วมมือกันทำอะไรกันอีกเลย

จนกระทั่งเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว มีข่าวว่าฟอร์ดกับเชลบี้กำลังจะกลับมาร่วมสร้างตำนานความแรงกันอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็เงียบหายไป จนเวลาผ่านมาถึงปี 2006 ซึ่งรถสปอร์ต เชลบี้ จีที500 ก็คือ คำตอบที่แสดงให้เห็นถึงสถานภาพความสัมพันธ์ที่แท้จริงของทั้งคู่ว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่

เชลบี้เริ่มนำมัสแตงของฟอร์ดมาโมดิฟายขายตั้งแต่ปี 1964 ผลที่ได้คือรุ่น จีที-350อาร์ ที่มีน้ำหนักเบา และสมรรถนะแรงสะใจ ก่อนที่จะผลิตเวอร์ชัน "เช่าไปซิ่งในสนาม" หรือ "Rent-a-Racer" หรือ จีที-350เอช ตามออกมา

โดยสามารถเช่าได้ตามศูนย์ Hertz จากนั้นก็มาถึงรุ่น จีที-500เคอาร์ หรือ "King of the Road" กับเครื่องยนต์วี8 คอบรา เจ็ต โดยตลอดอายุการทำตลาด เวอร์ชัน เชลบี้ มัสแตง ผลิตขายจนถึงปี 1970 รวมทั้งสิ้น 14,559 คัน
งานนี้เป็นการกลับมาจับมือกันอีกครั้งระหว่างแผนกเอสวีที หรือ Special Vehicle Team ของฟอร์ด ซึ่งเป็นสิงห์เหนือจากเดียร์บอน มิชิแกน กับเสือใต้จากเท็กซัสอย่างแคร์โรลล์ เชลบี้

โดยจีที500 ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของมัสแตง รุ่นจีทีทั้งตัวถังคูเป้ และเปิดประทุนที่ขายอยู่ในปัจจุบัน โดยทางเชลบี้นอกจากจะเสริมความแรงให้กับเครื่องยนต์แล้ว ยังเติมความดุดันและความโฉบเฉี่ยวแบบสุดๆ ให้กับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในอีกด้วย

ทางด้านเครื่องยนต์ได้รับการเสริมความแรงทั้งวิธีขยายความจุกระบอกสูบ และติดตั้งระบบอัดอากาศอย่างซูเปอร์ชาร์จ และเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นบล็อกวี8 4,606 ซีซีที่ถูกขยายความจุเป็น 5,409 ซีซี และถือเป็นบล็อกที่มีความจุเยอะสุดซึ่งติดตั้งในมัสแตงเวอร์ชันผลิตไม่จำกัดนับจากปี 1973

เพราะที่ผ่านมาแม้ว่ามัสแตงเคยวางเครื่องยนต์ที่มีความจุเยอะกว่านี้ เช่น เอสวีที มัสแตง คอบรา อาร์ ในปี 1995 กับเครื่องยนต์ 5,800 ซีซี 300 แรงม้า หรือรุ่นปี 2000 กับเครื่องยนต์วี8 5,400 ซีซี 385 แรงม้า แต่ทั้ง 2 รุ่นผลิตออกมาขายแค่ 250 และ 300 คันตามลำดับเท่านั้น
จากการเพิ่มสมรรถนะทำให้มีกำลังสูงสุด 475 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากของเดิม 175 แรงม้า

ส่วนแรงบิดสูงสุดขยับจาก 44.6 กก.-ม. มาเป็น 65.5 กก.-ม. สำหรับระบบส่งกำลังถูกเปลี่ยนจากธรรมดา 5 จังหวะในรุ่น GT มาเป็น 6 จังหวะที่สามารถรองรับกับการกระจายแรงบิดอันมหาศาลของเครื่องยนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ในส่วนของระบบช่วงล่างยังใช้พื้นฐานเดิมแบบด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต และด้านหลังแบบยึด 3 จุด c9jมีการปรับปรุงด้วยการเปลี่ยนโช้กอัพและสปริงที่สามารถรองรับกับสมรรถนะในระดับเฉียดๆ 500 แรงม้า รวมถึงเปลี่ยนดิสก์เบรกคู่หน้าเป็นของ Brembo มีขนาด 355 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ

ส่วนด้านหลังมีขนาดเท่าเดิม 299 มิลลิเมตร โดยที่ล้อแม็กขยับจาก 17 นิ้วมาเป็น 9.5X18 นิ้วประกบยางขนาด 255/45ZR18 ที่ล้อหน้า และ 285/40ZR18 ที่ล้อหลัง

ใครที่สนใจอยากซื้อหามาเป็นเจ้าของก็เตรียมเงินเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะในช่วงกลางปีนี้ ฟอร์ดจะส่งทำตลาดแน่นอน กับราคาที่ยังไม่เปิดเผย แต่แหล่งข่าวภายในกระซิบออกมา “ไม่แพงอย่างที่คิด”








กำลังโหลดความคิดเห็น