ช่างเล็ก บุญมา นาวาทอง กับตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ที่ได้มาพร้อมกับเสียงนินทาและความสงสัย เวลานี้พร้อมแล้วกับการเปิดใจถึงเบื้องลึก เบื้องหลังการได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ พร้อมการตอบข้อสงสัยต่างๆ ที่มีจากบรรดากระทู้ในอินเตอร์เน็ต ที่ไม่เคยตอบที่ไหนมาก่อน
ช่างเล็กช่วยเล่าประวัติชีวิตว่ามาเป็นช่างได้อย่างไรครับ
“เริ่มจากการที่เราเห็นพี่ชายเรียนช่างยนต์ เราก็อยากเรียนบ้าง แล้วก็ได้มาเรียนพร้อมกับเป็นเด็กทำงานในอู่ซ่อมรถ จากนั้นก็มาเป็นช่างประจำบริษัทรถยนต์ในสมัยนั้นอย่าง บีเอ็ม โฟล์ค วอลโว่ ย้ายไปย้ายมาอยู่หลายที่ แล้วจึงมาทำร้านอะไหล่กับพี่เขย แต่กิจการไปไม่รอด เลยหนีไปบวช พอสึกออกมาก็มาเปิดอู่”
“เปิดอู่ช่วงแรกก็คูหาเดียวอู่แถวๆ เมืองนนท์ เปิดได้ประมาณ 10 ปีก็ต้องย้าย มาอยู่ในปั๊มย่านประชาชื่น อยู่ได้อีก 10 กว่าปีก็ต้องย้ายอีกเพราะเขาไม่ให้เช่าต่อ แล้วก็มาเช่าที่อยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน เรียกว่าทั้งชีวิตเป็นอยู่อย่างเดียวคือเป็นช่างซ่อมรถ ถ้าไม่ซ่อมรถก็ไม่รู้จะไปทำอะไรเพราะถนัดอยู่อย่างเดียว”
แล้วเข้าไปแข่งแฟนพันธุ์แท้ได้อย่างไร
“มีทีมงานรายการแฟนพันธ์แท้เป็นคนที่ติดต่อเชิญให้เข้ามาแข่ง คือทางรายการได้มีการประชุมกันว่าถ้าจะเล่นให้มีสีสันต้องมีเต็นท์รถเข้ามา มีนักศึกษา มีตัวแทนสื่อมวลชน มีช่างเข้าร่วมแข่ง โดยเต็นท์และนักศึกษามีผู้ที่สมัครเข้ามา ส่วนสื่อมวลชนและช่างนั้นทางรายการเป็นผู้เชิญเข้ามาแข่ง”
“เบื้องหลังก่อนที่จะคัดมาเหลือ 5 คนนั้นทางรายการก็ได้มีการทดสอบ มีสื่อมวลชนและช่างที่เชิญมาไม่ผ่านการทดสอบของทางรายการอยู่หลายคนเหมือนกัน บททดสอบก็มี มีการดูรูปภาพรถประมาณ 200 รูป แล้วให้เขียนชื่อรุ่นและยี่ห้อ ดูกองอะไหล่ ถามว่าเป็นของรถอะไร ดูภาพ 3 วินาทีที่ลบโลโก้ออกแล้วตอบว่าเป็นรถอะไร ส่วนผมก็ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดทีมงานก็จองตัวไว้ทันที”
“ก่อนอัดรายการ 3 วันผมโทรไปถอนตัว เพราะตื่นเต้น กลัวว่าถ้าแพ้แล้วจะเสียชื่อเสียงและอู่เราก็มีรองรับอยู่แล้วจะไปแข่งทำไม ทางทีมงานของรายการก็บอกว่าไม่ได้หรอกครับเพราะเหลืออีก 2 วันจะอัดรายการแล้ว ผู้สมัครรายอื่นก็ตอบปฏิเสธไปหมดแล้ว งั้นผมขอ 1 ชั่วโมงแล้วจะโทรไปบอกว่าเล่นไม่เล่น ก็มานอนคิดว่าเราเป็นช่าง นั่นเป็นรถมือสอง ไม่ค่อยตรงเท่าไหร่แต่แข่งอะไรก็ชนะมาตลอด ครั้งนี้ก็น่าจะลองดู คือที่สูงถ้าไม่ปีนก็ไม่รู้ว่าความหนาวมีหรือไม่ ก็เลยโทรกลับไปตอบว่า โอเค”
“ส่วนการแข่งขันในรายการดูเหมือนคล้ายๆ จะมีการกำหนดอะไรบางอย่างได้ ในส่วนนี้ผมไม่ทราบ แต่ต้องไม่ลืมว่าแฟนพันธ์แท้เป็นเกมส์โชว์ คงสนใจแต่เพียงว่า เราชนะแล้วเขาให้รางวัลเราจริงหรือไม่ ซึ่งทางรายการก็ให้จริงๆ ไม่คิดอะไร”
รางวัลที่ได้เป็นรถคันเดียว แต่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้คู่ แบ่งกันอย่างไร
“เราทั้งคู่ตกลงกันให้ทางผู้สนับสนุนของรางวัลตีราคารับซื้อว่าเขายินดีจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถคันนี้ เขาก็ตีราคามา 500,000 บาท แบ่งกันคนละ 250,000 บาท แต่เราทั้งสองคนต้องการได้รถ ฉะนั้นจะทำอย่างไร ผมก็เสนอให้เปียร์แชร์ คือยินดีจะจ่ายเพิ่มเพื่อรถคันนี้อีกเท่าไหร่ เขาลงมา 20,000 บาท ผมลงไป 30,000 บาท สรุปผมได้รถแต่ต้องกลับไปหาเงินมาอีก 280,000 บาท มาให้กับเขาแล้วเราก็ขับรถกลับบ้าน”
“ก็ถ้าถามว่า มาแข่งแฟนพันธุ์แท้แล้วได้อะไร ผมตอบได้เลยว่า ได้เสียเงินครับ แต่ได้ทรัพย์สินกลับมา รถคันนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของผม”
แล้วที่โดนโจมตีใน อินเตอร์เน็ต รู้สึกอย่างไร
“กับกระทู้ในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะ เว็บไซต์พันธ์ทิพ อยากจะบอกว่า อย่างเรื่องชื่อของรถได้มีการตกลงกันก่อนแข่งแล้วว่า ถ้าเอ่ยชื่อที่สื่อไปได้ว่าเป็นรถรุ่นนั้นๆ ถูกให้ถือว่าถูก อย่างเช่น มิตซูบิชิ แลนเซอร์ หรือ แลนเซอร์ แชมป์ ตอบชื่อใดชื่อหนึ่งก็ได้ ให้ถือว่าถูกเหมือนกัน โฟร์ค บีเทิ่ล หรือ โฟร์คสวาเกน บีเทิ่ล ก็ได้ให้ถูกเหมือนกัน”
“แล้วอย่างข้อที่ตอบว่า รถซูซูกิ คาริเบียน นั้นก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมได้อธิบายไปในรายการแล้ว ว่าถ้าแค่คำว่า อวทม. ผมไม่รู้หรอกครับ หรือ พ.พาวเวอร์ ผมก็ยังไม่รู้ มาได้ก็ตรงคำว่า แถมแร็คหลังคา คำนี้แหละครับ คือผมอ่านมาพอดี ถ้าได้เห็นในรายการหลังจากตอบข้อนี้เสร็จ ผมกลับมานั่งก็มาเปิดหนังสือที่เอามาด้วย เปิดให้ดูตรงที่วงกลมไว้อย่างชัดเจน ว่าคันนี้อาจจะเอามาถาม คือผมมีการทำการบ้านมา”
กับข้อสงสัยที่ต้องขอถามตรงๆ ว่ามีการเตี๊ยมกันกับทางรายการก่อนหรือไม่
“เรื่องนี้อยากจะอธิบายอย่างนี้ ก่อนชิงแฟนพันธุ์แท้แห่งปีประมาณ 1 เดือน ทางทีมงานโทรมาบอกให้เตรียมตัวและมีการพูดคุยตกลงขอบเขตของการทำคำถามระหว่างรายการกับผู้เข้าแข่งขัน โดยทีมงานบอกว่ารถที่เป็นซีรี่ส์เป็นตัวเลขจะไม่นำมาเล่น จำพวก บีเอ็ม เบนซ์ วอลโว่ จะไม่เล่น รถแต่งก็จะไม่เอามาเล่น รถนำเข้าพิเศษจำนวนน้อยๆ ก็จะไม่เล่น รถคลาสสิกรถโบราณก็ไม่เล่น จะเอาแต่รถตลาดมาเล่น และเล่นตั้งแต่รถคันแรกที่มีในเมืองไทย ซึ่งก็จะเหมือนกับตอนที่แข่งแฟนพันธุ์แท้ครั้งแรก”
“ผมก็ได้มีการเตรียมตัว มีการทำการบ้านมาโดยแบ่งรถเป็นกลุ่ม รถอเมริกัน รถยุโรป รถญี่ปุ่น แต่ละรุ่นมีคำโฆษณาที่เด่นอย่างไร ที่จะเป็นตัวชี้ว่าเป็นรถรุ่นนั้นๆ แล้วอย่างนี้ถามว่าที่ผมตอบได้ ผมฟลุ๊คหรือครับ แล้วที่ถามว่าทำไมผมต้องเสี่ยงด้วย ผมว่า ผมไม่เสี่ยงนะ คือผมทำการบ้านมาแล้วบังเอิญเดาใจทีมงานถูกพอดี มันก็เลยมั่นใจว่า ยังไงก็ถูก”
“อย่างข้อที่เป็นการเปิดจิ๊กซอร์ ถ้าได้ดูใกล้ๆ จะเห็นสติกเกอร์ว่า เรารักฮอนด้า แผ่นเล็กๆ ติดอยู่ ฉะนั้นผมจึงตอบได้อย่างมั่นใจว่า เป็นรถ ฮอนด้า ซีอาร์วี กรรมการเขาบอกว่า ช่างเล็กโชคดีจริงๆ ที่เปิดได้ภาพนั้นถ้าเป็นภาพอื่นละเพี้ยนเลย คือแต่ละภาพจะมีเพียงจุดเดียวที่บอกได้ว่าเป็นรูปอะไร ฉะนั้นเรื่องที่จะมีคนนอกไปรู้คำถามก่อน ผมว่าไม่มีแน่นอน ทีมงานของเวิร์คพอยต์ทำได้เป็นอย่างดี”
“ถ้าคิดว่าผมได้มีการเตี๊ยมกับทางรายการ ทำไมในรอบชิงสุดท้ายกับแฟนพันธุ์แท้ตุ๊กตาบาร์บี้ ถึงได้มีรถอย่างวอลโว่ เอส70 ที่ผมตอบผิดมาถามได้ละครับ หรือนิสสัน สกายไลน์ ที่ผมข้ามทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นได้มีการตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่มีการนำมาทำเป็นคำถาม แล้วอย่างนี้ยังคิดที่จะสงสัยผมอีกหรือครับ”
เป็นอย่างไรบ้างครับ คงจะพอคลายความสงสัยกันได้บ้าง ว่า ตำแหน่ง แฟนพันธุ์แท้รถมือสองที่ช่างเล็กได้มา คงไม่ใช่การล็อกเสป็ค แต่ได้มาด้วยความสามารถบวกกับการเตรียมตัวอย่างดีและโชคบ้างนิดหน่อย
ช่างเล็กช่วยเล่าประวัติชีวิตว่ามาเป็นช่างได้อย่างไรครับ
“เริ่มจากการที่เราเห็นพี่ชายเรียนช่างยนต์ เราก็อยากเรียนบ้าง แล้วก็ได้มาเรียนพร้อมกับเป็นเด็กทำงานในอู่ซ่อมรถ จากนั้นก็มาเป็นช่างประจำบริษัทรถยนต์ในสมัยนั้นอย่าง บีเอ็ม โฟล์ค วอลโว่ ย้ายไปย้ายมาอยู่หลายที่ แล้วจึงมาทำร้านอะไหล่กับพี่เขย แต่กิจการไปไม่รอด เลยหนีไปบวช พอสึกออกมาก็มาเปิดอู่”
“เปิดอู่ช่วงแรกก็คูหาเดียวอู่แถวๆ เมืองนนท์ เปิดได้ประมาณ 10 ปีก็ต้องย้าย มาอยู่ในปั๊มย่านประชาชื่น อยู่ได้อีก 10 กว่าปีก็ต้องย้ายอีกเพราะเขาไม่ให้เช่าต่อ แล้วก็มาเช่าที่อยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน เรียกว่าทั้งชีวิตเป็นอยู่อย่างเดียวคือเป็นช่างซ่อมรถ ถ้าไม่ซ่อมรถก็ไม่รู้จะไปทำอะไรเพราะถนัดอยู่อย่างเดียว”
แล้วเข้าไปแข่งแฟนพันธุ์แท้ได้อย่างไร
“มีทีมงานรายการแฟนพันธ์แท้เป็นคนที่ติดต่อเชิญให้เข้ามาแข่ง คือทางรายการได้มีการประชุมกันว่าถ้าจะเล่นให้มีสีสันต้องมีเต็นท์รถเข้ามา มีนักศึกษา มีตัวแทนสื่อมวลชน มีช่างเข้าร่วมแข่ง โดยเต็นท์และนักศึกษามีผู้ที่สมัครเข้ามา ส่วนสื่อมวลชนและช่างนั้นทางรายการเป็นผู้เชิญเข้ามาแข่ง”
“เบื้องหลังก่อนที่จะคัดมาเหลือ 5 คนนั้นทางรายการก็ได้มีการทดสอบ มีสื่อมวลชนและช่างที่เชิญมาไม่ผ่านการทดสอบของทางรายการอยู่หลายคนเหมือนกัน บททดสอบก็มี มีการดูรูปภาพรถประมาณ 200 รูป แล้วให้เขียนชื่อรุ่นและยี่ห้อ ดูกองอะไหล่ ถามว่าเป็นของรถอะไร ดูภาพ 3 วินาทีที่ลบโลโก้ออกแล้วตอบว่าเป็นรถอะไร ส่วนผมก็ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดทีมงานก็จองตัวไว้ทันที”
“ก่อนอัดรายการ 3 วันผมโทรไปถอนตัว เพราะตื่นเต้น กลัวว่าถ้าแพ้แล้วจะเสียชื่อเสียงและอู่เราก็มีรองรับอยู่แล้วจะไปแข่งทำไม ทางทีมงานของรายการก็บอกว่าไม่ได้หรอกครับเพราะเหลืออีก 2 วันจะอัดรายการแล้ว ผู้สมัครรายอื่นก็ตอบปฏิเสธไปหมดแล้ว งั้นผมขอ 1 ชั่วโมงแล้วจะโทรไปบอกว่าเล่นไม่เล่น ก็มานอนคิดว่าเราเป็นช่าง นั่นเป็นรถมือสอง ไม่ค่อยตรงเท่าไหร่แต่แข่งอะไรก็ชนะมาตลอด ครั้งนี้ก็น่าจะลองดู คือที่สูงถ้าไม่ปีนก็ไม่รู้ว่าความหนาวมีหรือไม่ ก็เลยโทรกลับไปตอบว่า โอเค”
“ส่วนการแข่งขันในรายการดูเหมือนคล้ายๆ จะมีการกำหนดอะไรบางอย่างได้ ในส่วนนี้ผมไม่ทราบ แต่ต้องไม่ลืมว่าแฟนพันธ์แท้เป็นเกมส์โชว์ คงสนใจแต่เพียงว่า เราชนะแล้วเขาให้รางวัลเราจริงหรือไม่ ซึ่งทางรายการก็ให้จริงๆ ไม่คิดอะไร”
รางวัลที่ได้เป็นรถคันเดียว แต่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้คู่ แบ่งกันอย่างไร
“เราทั้งคู่ตกลงกันให้ทางผู้สนับสนุนของรางวัลตีราคารับซื้อว่าเขายินดีจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถคันนี้ เขาก็ตีราคามา 500,000 บาท แบ่งกันคนละ 250,000 บาท แต่เราทั้งสองคนต้องการได้รถ ฉะนั้นจะทำอย่างไร ผมก็เสนอให้เปียร์แชร์ คือยินดีจะจ่ายเพิ่มเพื่อรถคันนี้อีกเท่าไหร่ เขาลงมา 20,000 บาท ผมลงไป 30,000 บาท สรุปผมได้รถแต่ต้องกลับไปหาเงินมาอีก 280,000 บาท มาให้กับเขาแล้วเราก็ขับรถกลับบ้าน”
“ก็ถ้าถามว่า มาแข่งแฟนพันธุ์แท้แล้วได้อะไร ผมตอบได้เลยว่า ได้เสียเงินครับ แต่ได้ทรัพย์สินกลับมา รถคันนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของผม”
แล้วที่โดนโจมตีใน อินเตอร์เน็ต รู้สึกอย่างไร
“กับกระทู้ในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะ เว็บไซต์พันธ์ทิพ อยากจะบอกว่า อย่างเรื่องชื่อของรถได้มีการตกลงกันก่อนแข่งแล้วว่า ถ้าเอ่ยชื่อที่สื่อไปได้ว่าเป็นรถรุ่นนั้นๆ ถูกให้ถือว่าถูก อย่างเช่น มิตซูบิชิ แลนเซอร์ หรือ แลนเซอร์ แชมป์ ตอบชื่อใดชื่อหนึ่งก็ได้ ให้ถือว่าถูกเหมือนกัน โฟร์ค บีเทิ่ล หรือ โฟร์คสวาเกน บีเทิ่ล ก็ได้ให้ถูกเหมือนกัน”
“แล้วอย่างข้อที่ตอบว่า รถซูซูกิ คาริเบียน นั้นก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ผมได้อธิบายไปในรายการแล้ว ว่าถ้าแค่คำว่า อวทม. ผมไม่รู้หรอกครับ หรือ พ.พาวเวอร์ ผมก็ยังไม่รู้ มาได้ก็ตรงคำว่า แถมแร็คหลังคา คำนี้แหละครับ คือผมอ่านมาพอดี ถ้าได้เห็นในรายการหลังจากตอบข้อนี้เสร็จ ผมกลับมานั่งก็มาเปิดหนังสือที่เอามาด้วย เปิดให้ดูตรงที่วงกลมไว้อย่างชัดเจน ว่าคันนี้อาจจะเอามาถาม คือผมมีการทำการบ้านมา”
กับข้อสงสัยที่ต้องขอถามตรงๆ ว่ามีการเตี๊ยมกันกับทางรายการก่อนหรือไม่
“เรื่องนี้อยากจะอธิบายอย่างนี้ ก่อนชิงแฟนพันธุ์แท้แห่งปีประมาณ 1 เดือน ทางทีมงานโทรมาบอกให้เตรียมตัวและมีการพูดคุยตกลงขอบเขตของการทำคำถามระหว่างรายการกับผู้เข้าแข่งขัน โดยทีมงานบอกว่ารถที่เป็นซีรี่ส์เป็นตัวเลขจะไม่นำมาเล่น จำพวก บีเอ็ม เบนซ์ วอลโว่ จะไม่เล่น รถแต่งก็จะไม่เอามาเล่น รถนำเข้าพิเศษจำนวนน้อยๆ ก็จะไม่เล่น รถคลาสสิกรถโบราณก็ไม่เล่น จะเอาแต่รถตลาดมาเล่น และเล่นตั้งแต่รถคันแรกที่มีในเมืองไทย ซึ่งก็จะเหมือนกับตอนที่แข่งแฟนพันธุ์แท้ครั้งแรก”
“ผมก็ได้มีการเตรียมตัว มีการทำการบ้านมาโดยแบ่งรถเป็นกลุ่ม รถอเมริกัน รถยุโรป รถญี่ปุ่น แต่ละรุ่นมีคำโฆษณาที่เด่นอย่างไร ที่จะเป็นตัวชี้ว่าเป็นรถรุ่นนั้นๆ แล้วอย่างนี้ถามว่าที่ผมตอบได้ ผมฟลุ๊คหรือครับ แล้วที่ถามว่าทำไมผมต้องเสี่ยงด้วย ผมว่า ผมไม่เสี่ยงนะ คือผมทำการบ้านมาแล้วบังเอิญเดาใจทีมงานถูกพอดี มันก็เลยมั่นใจว่า ยังไงก็ถูก”
“อย่างข้อที่เป็นการเปิดจิ๊กซอร์ ถ้าได้ดูใกล้ๆ จะเห็นสติกเกอร์ว่า เรารักฮอนด้า แผ่นเล็กๆ ติดอยู่ ฉะนั้นผมจึงตอบได้อย่างมั่นใจว่า เป็นรถ ฮอนด้า ซีอาร์วี กรรมการเขาบอกว่า ช่างเล็กโชคดีจริงๆ ที่เปิดได้ภาพนั้นถ้าเป็นภาพอื่นละเพี้ยนเลย คือแต่ละภาพจะมีเพียงจุดเดียวที่บอกได้ว่าเป็นรูปอะไร ฉะนั้นเรื่องที่จะมีคนนอกไปรู้คำถามก่อน ผมว่าไม่มีแน่นอน ทีมงานของเวิร์คพอยต์ทำได้เป็นอย่างดี”
“ถ้าคิดว่าผมได้มีการเตี๊ยมกับทางรายการ ทำไมในรอบชิงสุดท้ายกับแฟนพันธุ์แท้ตุ๊กตาบาร์บี้ ถึงได้มีรถอย่างวอลโว่ เอส70 ที่ผมตอบผิดมาถามได้ละครับ หรือนิสสัน สกายไลน์ ที่ผมข้ามทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นได้มีการตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่มีการนำมาทำเป็นคำถาม แล้วอย่างนี้ยังคิดที่จะสงสัยผมอีกหรือครับ”
เป็นอย่างไรบ้างครับ คงจะพอคลายความสงสัยกันได้บ้าง ว่า ตำแหน่ง แฟนพันธุ์แท้รถมือสองที่ช่างเล็กได้มา คงไม่ใช่การล็อกเสป็ค แต่ได้มาด้วยความสามารถบวกกับการเตรียมตัวอย่างดีและโชคบ้างนิดหน่อย
