ถ้าหากถามว่าอะไรคือความภาคภูมิใจที่มีต่อ W110 (Fintail) ปี 1966 เบนซ์คลาสสิคสีขาวคันงามคันนี้ คุณประพนธ์ เตชะวิภาค รองประธานชมรมเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ผู้เป็นเจ้าของ ก็คงไม่ต้องลังเลเลยที่จะตอบว่า เพราะความที่เป็นหนึ่งเดียวของรถรุ่นนี้ที่มีอยู่ในบ้านเรานั่นเอง
“รถเบนซ์หางปลา (Fintail) W110 ช่วงยาว (Limousine) คันเดียวที่เห็นในประเทศไทยเมื่อแรกพบ รถอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก ผมใช้เวลาซ่อมแซมและบูรณะอยู่ประมาณ 1 ปี จึงกลับคืนสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ความประทับใจของผมก็คงอยู่ตรงนี้ มันค่อนข้างหายาก เพราะผลิตจำนวนน้อย ผลิตจากโรงงานเดมเลอร์ในสตุ๊ตการ์ต และเป็นช่วงท้ายของสายการผลิตก่อนที่จะเปลี่ยนรุ่นไปเป็นตัวถัง W114 หรือที่เรียกว่าทับ 8 รวมเวลาแล้วก็มีการผลิตอยู่ราวๆ 7 เดือนเท่านั้นเอง”
“รถคันนี้ผลิตในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เป็นรถที่เน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารสูง การใส่หางปลาเข้าไปก็เพื่อช่วยให้สามารถถอยจอดได้สะดวกขึ้น แม้ว่ารถคันนี้อาจไม่ใช่รถที่แพงที่สุด แต่ว่ามันมีความแปลก เอาออกไปวิ่งเมื่อไรคนก็จะมอง ถามว่า..เอารถสองคันมาต่อกันหรือ”
คุณประพนธ์อยู่ในวงการรถคลาสสิคมาร่วม 20 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าของเดิมของรถคันนี้ก็มีความคุ้นเคยเนื่องจากเป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในแวดวงสะสมรถเก่าเหมือนกัน โดยได้เคยเล่าให้คุณประพนธ์ฟังว่า สมัยก่อนขับหางปลาคันนี้ไปสวนจตุจักร และมีกษัตริย์บรูไนมาติดต่อขอซื้อ แต่ก็ไม่ยอมขาย
“รถโบราณก็เป็นเหมือนสมบัติผลัดกันชมครับ ผมมองว่ามันเป็นยนตรกรรมของชาติ เมื่อถึงเวลาอันควรก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนมือกันไป ไปอยู่กับผู้ที่มีใจรักและต้องการอนุรักษ์ต่อ” คุณประพนธ์บอกเล่าถึงเหตุผลที่ได้รถคันนี้มาครอบครอง ในการสะสมรถคลาสสิคนั้น คุณประพนธ์มองว่า ไม่ใช่การมีไว้แล้วจอดอยู่เฉยๆ เพื่อให้ดูสวยงามเท่านั้น แต่ต้องบูรณะให้อยู่ในสภาพที่วิ่งได้ และวิ่งด้วยความปลอดภัยด้วย นั่นคือ ทำให้ประสิทธิภาพของรถอยู่ในสภาพที่ควรจะเป็น อย่างเบนซ์ W110 ของคุณประพนธ์ ในขั้นตอนการบูรณะก็มีการเพิ่มหม้อลมในเบรกเข้าไป แต่ต้องซ่อนไว้เพื่อไม่ให้เสียทัศนียภาพความคลาสสิคของรถ
และเมื่อถามถึงเสน่ห์ของรถคลาสสิค คุณประพนธ์บอกว่าที่ถือเป็นความพิเศษของรถที่จัดว่าเป็นรถคลาสสิคก็คือ ไม่ใช่รถที่ผลิตแบบ mass production อย่างรถใหม่ๆ ในปัจจุบัน บางคันผลิตด้วยมือ หรือไม่ก็ผลิตด้วย production line ซึ่งก็จะมีจำนวนไม่มากนัก
“ผมว่าการสะสมรถคลาสสิคมันทำให้เราได้เรียนรู้วิวัฒนาการในการขับเคลื่อนของมนุษย์ ซึ่งคนที่ชอบจะต้องมีใจรักในเครื่องจักรเครื่องยนต์จริงๆ ไม่ใช่สักแต่ว่ามีเงินก็ไปซื้อมาครอบครอง เพราะการสะสมรถคลาสสิค จะต้องทุ่มเท มีความพอใจ และมีความสุขกับมัน”
“รถเบนซ์หางปลา (Fintail) W110 ช่วงยาว (Limousine) คันเดียวที่เห็นในประเทศไทยเมื่อแรกพบ รถอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก ผมใช้เวลาซ่อมแซมและบูรณะอยู่ประมาณ 1 ปี จึงกลับคืนสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ความประทับใจของผมก็คงอยู่ตรงนี้ มันค่อนข้างหายาก เพราะผลิตจำนวนน้อย ผลิตจากโรงงานเดมเลอร์ในสตุ๊ตการ์ต และเป็นช่วงท้ายของสายการผลิตก่อนที่จะเปลี่ยนรุ่นไปเป็นตัวถัง W114 หรือที่เรียกว่าทับ 8 รวมเวลาแล้วก็มีการผลิตอยู่ราวๆ 7 เดือนเท่านั้นเอง”
“รถคันนี้ผลิตในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เป็นรถที่เน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารสูง การใส่หางปลาเข้าไปก็เพื่อช่วยให้สามารถถอยจอดได้สะดวกขึ้น แม้ว่ารถคันนี้อาจไม่ใช่รถที่แพงที่สุด แต่ว่ามันมีความแปลก เอาออกไปวิ่งเมื่อไรคนก็จะมอง ถามว่า..เอารถสองคันมาต่อกันหรือ”
คุณประพนธ์อยู่ในวงการรถคลาสสิคมาร่วม 20 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าของเดิมของรถคันนี้ก็มีความคุ้นเคยเนื่องจากเป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในแวดวงสะสมรถเก่าเหมือนกัน โดยได้เคยเล่าให้คุณประพนธ์ฟังว่า สมัยก่อนขับหางปลาคันนี้ไปสวนจตุจักร และมีกษัตริย์บรูไนมาติดต่อขอซื้อ แต่ก็ไม่ยอมขาย
“รถโบราณก็เป็นเหมือนสมบัติผลัดกันชมครับ ผมมองว่ามันเป็นยนตรกรรมของชาติ เมื่อถึงเวลาอันควรก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนมือกันไป ไปอยู่กับผู้ที่มีใจรักและต้องการอนุรักษ์ต่อ” คุณประพนธ์บอกเล่าถึงเหตุผลที่ได้รถคันนี้มาครอบครอง ในการสะสมรถคลาสสิคนั้น คุณประพนธ์มองว่า ไม่ใช่การมีไว้แล้วจอดอยู่เฉยๆ เพื่อให้ดูสวยงามเท่านั้น แต่ต้องบูรณะให้อยู่ในสภาพที่วิ่งได้ และวิ่งด้วยความปลอดภัยด้วย นั่นคือ ทำให้ประสิทธิภาพของรถอยู่ในสภาพที่ควรจะเป็น อย่างเบนซ์ W110 ของคุณประพนธ์ ในขั้นตอนการบูรณะก็มีการเพิ่มหม้อลมในเบรกเข้าไป แต่ต้องซ่อนไว้เพื่อไม่ให้เสียทัศนียภาพความคลาสสิคของรถ
และเมื่อถามถึงเสน่ห์ของรถคลาสสิค คุณประพนธ์บอกว่าที่ถือเป็นความพิเศษของรถที่จัดว่าเป็นรถคลาสสิคก็คือ ไม่ใช่รถที่ผลิตแบบ mass production อย่างรถใหม่ๆ ในปัจจุบัน บางคันผลิตด้วยมือ หรือไม่ก็ผลิตด้วย production line ซึ่งก็จะมีจำนวนไม่มากนัก
“ผมว่าการสะสมรถคลาสสิคมันทำให้เราได้เรียนรู้วิวัฒนาการในการขับเคลื่อนของมนุษย์ ซึ่งคนที่ชอบจะต้องมีใจรักในเครื่องจักรเครื่องยนต์จริงๆ ไม่ใช่สักแต่ว่ามีเงินก็ไปซื้อมาครอบครอง เพราะการสะสมรถคลาสสิค จะต้องทุ่มเท มีความพอใจ และมีความสุขกับมัน”
