xs
xsm
sm
md
lg

ค่ายรถร้องยุติปัญหาการเมืองผู้จัดยันไม่กระทบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 2 เม.ย.ศกนี้ เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะไม่มีความแน่นอนในขณะนี้ แต่คาดว่าจำนวนผู้เข้ามาชมงานจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคน ยอดจองรถใหม่น่าจะอยู่ 1.5 หมื่นคัน และมีเงินหมุนเวียนภายในงานไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท

“ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ นั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบกับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ รวมถึงยอดขายของรถยนต์ เพราะคนซื้อตั้งใจจะออกรถอยู่แล้ว ยิ่งการจัดงานลักษณะนี้จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายของค่ายรถต่างๆ รวมถึงการได้สัมผัสยนตรกรรมใหม่ๆอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้คาดว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็ก เครื่องยนต์ 1,500 ซีซีน่าจะขายดีที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน และยืดเยื้อนานออกไป คงจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาวแน่นอน ไม่ว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega Project) ที่ยังไม่ความคืบหน้า ซึ่งจะทำให้การพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งเรื่องการเส้นทางการขนส่ง และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล และย่อมส่งส่งผลให้แผนการผลิตรถยนต์ 2 ล้านคัน ภายในปีพ.ศ. 2553 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน”ว่า สถานการเมืองที่กำลังไม่แน่นอนขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ชัดเจนนัก แน่นอนในฐานะของผู้ประกอบการ อยากจะเห็นปัญหาคลี่คลายโดยเร็ว เพราะหากยังไม่ชัดเจนและยืดเยื้อต่อไป ย่อมมีผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดรถยนต์แน่นอน

“จากที่สังเกตุในขณะนี้เชื่อว่าจะไม่น่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่เราก็อยากจะให้ยุติปัญหาโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทย และแน่นอนตลาดรถยนต์ก็จะได้รับผลตามไปด้วย”

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานบริหารธุรกิจ บริษัท ฮอนด้า โอโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดรถยนต์จะไม่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพียงแต่อาจจะยังไม่เห็นชัดเจนเท่านั้น แน่นอนหากสถานการณ์ความขัดแย้งยังไม่คลี่คลาย ย่อมต้องส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้าได้

“ในฐานะของผู้ประกอบการ เราอยากเห็นปัญหาได้รับการคลี่คลายและยุติโดยเร็ว ส่วนจะคลี่คลายอย่างไรไม่ใช่ปัญหา เพราะจะทำให้ทิศทางของประเทศมีความชัดเจน การดำเนินงานต่างๆ ก็จะสามารถกำหนดได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญภาพรวมทางเศรษฐกิจ”

นายชุมพล พรประภา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเอสพีไอ ผู้จำหน่ายรถจักยานยนต์ซูซูกิ และรถยนต์โตโยต้า กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้น่าจะเริ่มเข้าสู่สภาวะตกลงแล้ว เพราะหากดูตัวเลขการจำหน่ายในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งปัญหานี้เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งปลายปีที่แล้ว

ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นต่อเนื่องกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาน้ำมันแพง อัตราดอกเบี้ยสูง และค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้กลับยังเหมือนเดิมหรือปรับเพิ่มนิดหน่อย นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเมืองตามมาอีก ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดได้แน่นอนในระยะยาว อย่างไรก็ตามในระยะสั้นนี้คงยังไม่สามารถสรุปผลกระทบจากสถานการณ์เมืองขณะนี้ได้ คงต้องตัวสรุปผลตัวเลขสิ้นเดือนมีนาคมนี้ก่อนจึงน่าจะพอประเมินได้ แต่ก็อยากจะให้ปัญหาการเมืองยุติโดยเร็ว

นายโรเบิร์ต นอร์แมน ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ คาร์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองและราคาน้ำมันแพง มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภคโดยเฉพาะตลาดรถหรู คาดว่าในปีนี้ตลาดรถหรูจะเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 คัน และในส่วนของวอลโว่ยอดขายปีนี้ น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 1,000 คัน

“ปีนี้เราเชื่อว่าตลาดรถหรูน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หากปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก ก็จะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเรามองว่าถ้าการเมืองมีความชัดเจน ยอดขายรถก็น่าจะดีขึ้น เพราะผู้บริโภคมีเงินอยู่ในมืออยู่แล้ว เพียงแต่ไม่กล้าใช้จ่ายเท่านั้น ปัญหาก็คือจะทำอย่างไรให้การเมืองจบโดยเร็ว”

นายฮิซาโยชิ คุมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอร์เตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมิตซูบิชิ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เหตุการณ์ชุมนุมของผู้ประท้วงทางการเมือง อาจจะส่งผลกระทบกับยอดขายรถยนต์โดยรวมบ้างแต่ไม่มาก

“ขณะนี้เรายังไม่ได้ปรับแผนอะไร เพื่อรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายประมาณ 50,000 คัน โดยในปีนี้เราจะยังคงเน้นไปที่ตลาดปิกอัพอย่างไทรทันเป็นหลัก เพราะเป็นโมเดลใหม่ที่มีจุดเด่นเรื่องสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังได้ศึกษาตลาดรถเล็กบี-เซ็กเม้นท์ คาดว่าภายในอีก 2-3 ปีน่าจะมีข่าวดี รวมถึงมีแผนจะให้ไทยเป็นศูนย์อาร์แอนด์ดี เพื่อพัฒนาและวิจัยรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดด้วย”

นายฟูมิโอะ โทเนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย)จำกัด กล่าวถึงปัญหาการเมืองขณะนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา น่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองระยะสั้น อาจจะส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าง แต่เมื่อทุกอย่างคลี่คลายลงตลาดก็จะกลับมาเหมือน ทั้งนี้เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งทุกอย่างก็น่าจะจบลง โดยในส่วนของมาสด้าประสบกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มาแล้ว อย่างปีที่ผ่านมามาสด้าก็มีอัตราการเติบโตกว่าตลาดเสียอีก

นายอนุรักษ์ อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จากัวร์ คาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตไม่เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร โดยหากสถานการณ์คลี่คลายในเวลารวดเร็วเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ถ้ายังยืดเยื้อคาดว่าจะส่งผลเสียต่อธุรกิจรถยนต์ เนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่จะย้ายฐานไปยังประเทศอื่นแทน

กำลังโหลดความคิดเห็น