เกีย แกรนด์ คาร์นิวัล เป็นอีกหนึ่งโมเดลจากแดนโสมที่ถูกนำมาอวดโฉม(ขายด้วย) ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น ด้วยรูปทรงโค้งมนรับกับกันชนหน้ากว้างใหญ่ พร้อมไฟหน้าตัดหมอก และช่องระบายอากาศด้านหน้า 2 ช่องใหญ่ ออกแบบให้สอดคล้องกับอินเตอร์คลูเลอร์เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนของเครื่องยนต์
ทั้งเพิ่มความหรูหรา สวยงาม ด้วยเส้นสายลายโครเมียมที่กลมกลืนกับโลโก้ KIA บนกระจังหน้าแบบแยกสองชั้น และลายเส้นฝากระโปรงหน้ารถที่ผสานอย่างลงตัวกับไฟหน้าคู่ใหญ่แบบชิ้นเดียวที่ประกอบด้วยไฟกลมคู่ ทำให้ดูเฉียบคม และผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในยามค่ำคืน
ด้านข้างของ Grand Carnival มีลักษณะรูปทรงเรียวยาว โค้งมนเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ช่วยลดเสียงปะทะลมในขณะขับเคลื่อน, ระยะฐานล้อยาว 3 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างมากขึ้น, กระจกมองข้างควบคุมและปรับด้วยไฟฟ้า, กระจกหน้าต่างที่กว้าง
ทำให้พื้นที่ภายในรถโดยเฉพาะช่วงกลางดูกว้างขึ้น, คิ้วด้านข้าง มือจับเปิดประตู สีเดียวกับตัวรถทำให้กลมกลืนและเรียบหรู ทั้งเพิ่มความเป็นสปอร์ตสำหรับรถ MPV ด้วยแร็กหลังคาพร้อมคานกลาง และล้อแม็ก ขนาด 235/60 R17
การออกแบบภายใน ได้ผสานระหว่างรถยนต์นั่งระดับหรูหรากับรถครอบครัวอเนกประสงค์ ด้วยการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยหลากหลายแบบ เริ่มตั้งแต่เบาะที่นั่ง 11 ที่นั่ง เป็นเบาะผ้านาโนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ช่วยขจัดปัญหาเรื่องไรฝุ่น ช่วยให้อากาศภายในห้องโดยสารสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น
โดยเบาะนั่งผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมที่ดุนหลัง Lumbar Support ขณะที่เบาะที่นั่งผู้โดยสารสามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบและสนองตอบต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ใน Grand Carnival ได้ติดตั้งระบบปรับแกนเลี้ยวพวงมาลัย VRS (Variable Rack Stroke) ทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลง ประมาณ 0.3 เมตร เพียงปลายนิ้วสัมผัสปุ่ม VRS เท่านั้น ส่งผลทำให้ Grand Carnival มีรัศมีวงเลี้ยงใกล้เคียงกับรถซีดานโดยทั่วๆ ไป คือประมาณ 5.7 เมตร ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่บนเส้นทางการจราจรที่แออัด หรือยามจอดรถในที่คับแคบ
พร้อมกันนี้ยังมีอุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อาทิ แผงหน้าปัดตอนกลางแบบรวม พร้อมระบบปรับความเย็นแบบแยก 3 ส่วน และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่อยู่ใกล้กับผู้ขับขี่, หน้าปัดที่มองเห็นได้ชัดเจนแบบ LED และกระจกส่องหลัง ECM ลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่าง Solar Glass ป้องกันแสงยูรีและเลื่อนลงอัตโนมัติเมื่อมีวัสดุกีดขวาง
นอกจากนี้สิ่งที่โดดเด่นอีกประการคือ ระบบ Automatic Sliding Door&Tailgate ที่ประตูเลื่อนด้านข้างและประตูท้ายไฟฟ้า เพียงกดปุ่มสวิตช์บนรีโมท ปุ่มสวิตช์ด้านในประตูและบนคอนโซลด้านหน้า หรือการดึงมือเปิดประตูเบาๆ พร้อมระบบป้องกันการเลื่อนปิดถ้ามีวัสดุขวางอยู่ และระบบป้องกันคนเปิดประตูขณะรถเคลื่อนที่ และไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตั้งด้านบนประตูท้าย ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน และเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ด้วยเครื่องยนต์คอมมอลเรลใหม่ 2.9 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คลูเลอร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 3,700 รอบต่อนาที แรงบิด 35 กก.-ม.ที่ 2,000 –3,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีด ชนิด Hold Mode ควบคุมด้วยสมองกลอิเล็กทรอนิคส์ ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล
พร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังอิสระแบบมัลติลิงค์ ระบบดิกส์เบรกขนาดใหญ่และระบบช่วยผ่อนแรงเบรก พร้อมระบบ ESP ช่วยรักษาการทรงตัวขณะเข้าโค้ง และระบบ VRS ช่วยในการควบคุมพวงมาลัย
ด้วยองค์ประกอบที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความปลอดภัยเข้าด้วยกันกับระบบถุงลมนิรภัยและระบบชัชซีที่ถูกออกแบบเพื่อป้องกันความเสียหายขณะเกิดอุบัติเหตุ ปกป้องผู้โดยสารจากการบาดเจ็บ
นอกจากนี้ Grand Carnival ได้พัฒนาการเก็บเสียงในห้องโดยสาร ด้วยเทคโนโลยีในระบบ NVH ด้วยการติดตั้งวัสดุกันเสียงในโครงสร้างหลักๆ คือ เครื่องยนต์ โครงสร้าง และระบบส่งกำลัง ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาภายในห้องโดยสาร
ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงมาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท เจอตัวจริงเสียงจริงของ Grand Carnival ได้ที่ ไบเทค บางนา ระหว่าง 24 มี.ค.-2 เม.ย. นี้