ประธานจัดงานมอเตอร์โชว์ ไม่หวั่นสถานการณ์การเมือง เชื่อคนยังกล้าซื้อรถ มั่นใจกระทบระยะสั้น แต่คาดยอดขายในงานต่ำกว่าครั้งที่แล้ว พร้อมแนะฝ่ายค้านเห็นแก่ในหลวง รอแก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วค่อยกลับมาอย่างสง่าผ่าเผย
ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 27 เปิดเผยว่า “การจัดมอเตอร์โชว์ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองยังมีความไม่แน่นอน คาดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากเพราะเป็นงานประจำปี ไม่ใช่งานรื่นเริงทั่วไป และรถยนต์เป็นสินค้าชิ้นใหญ่ ที่คนซื้อมีความตั้งใจที่จะซื้ออยู่แล้วไม่เหมือนกับอาหารหรือของกินที่อาจจะเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แต่ในส่วนของรถที่มีราคาแพง ขนาดเครื่องยนต์ใหญ่อาจจะยังไม่มีการตัดสินใจ นักธุรกิจเขาต้องรอดูสถานการณ์บ้านเมืองและภาวะเศรษฐกิจ ส่วนรถกระบะ หรือรถขนาดเครื่องยนต์ขนาดเล็กราคาไม่ถึงล้าน น่าจะขายได้ดี”

“สำหรับตัวเลขยอดขาย คงไม่ได้คาดหวังไว้อย่างชัดเจนในปีนี้แต่ก็คาดหวังว่าไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะอย่างไรรถก็เป็นปัจจัยที่ 5 ถ้าเศรษฐกิจดีผู้คนก็จะซื้อรถเพิ่ม ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องดูกันยาวๆ ตลอดทั้งปี และเราก็พึ่งผ่านมาแค่ไตรมาสแรกเท่านั้น”
ปราจิน กล่าวเสริมเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า “ผมอยู่ในธุรกิจนี้มา 36 ปี เหตุการณ์แบบนี้ก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว เศรษฐกิจของบ้านเรามีขึ้นมีลง ประเทศเคยผ่านปัญหามาเยอะแยะ ปัญหาครั้งนี้คงไม่หนักเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งเราเคยเจอรัฐบาลที่ครอบงำเรามาเป็นสิบๆ ปี เรายังทนได้ คราวนี้อีกแค่ปีเศษๆ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็เลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านก็หาข้อเสนอที่ดีๆ ไปคุยกับประชาชน ว่ารัฐบาลมีช่องโหว่ตรงไหน ประชาชนเขาก็จะได้ตัดสินใจได้ ให้โอกาสซึ่งกันและกัน มันมีเวลา ไม่ใช่จะต้องมาเอาจะชนะกันใน 15 วัน 20 วันหรือเดือน มันไม่ใช่
“อยากให้ฝ่ายค้านหรือพวกที่เรียกร้องอยู่อดใจรออีกสักหนึ่งปี มันแก้ไขได้ครั้งสมัยที่ทรราชขึ้นมาอยู่มาเป็นสิบๆ ปี ยังทนได้ แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก อะไรที่มันยังกำกวมอยู่อย่างนี้ ล้มเขาไม่ได้หรอก ให้มันเป็นไปตามกติกาดีกว่า แล้วรออีกสักปีเศษ ถ้าเขาไม่ดีจริง เขาก็อยู่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเขาก็ต้องไปเอง”
ประธานจัดงานกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ปีนี้เป็นปีที่ในหลวงของเราครองราชย์ครบ 60 ปี เรารักพ่อของเรา แต่เรากลับมาทะเลาะกันหน้าบ้านท่าน อยากให้เห็นแก่ท่าน อดใจรออีกสักหนึ่งปี ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ และยิ่งเขามีจุดเสียมากๆ อย่างนี้ ผมเชื่อว่าเอาชนะเขาในวันหน้าตามกติกาอย่างสง่าผ่าเผยดีกว่า อย่าเพิ่งมาหักกันไปในวันนี้เลย อดใจรอสักหน่อยแล้วฝ่ายค้านจะอยู่สัก 8 ปี หรือ 12 ปีแบบได้ใจคนทั้งประเทศน่าจะเหมาะสมกว่า”
ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 27 เปิดเผยว่า “การจัดมอเตอร์โชว์ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองยังมีความไม่แน่นอน คาดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากเพราะเป็นงานประจำปี ไม่ใช่งานรื่นเริงทั่วไป และรถยนต์เป็นสินค้าชิ้นใหญ่ ที่คนซื้อมีความตั้งใจที่จะซื้ออยู่แล้วไม่เหมือนกับอาหารหรือของกินที่อาจจะเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แต่ในส่วนของรถที่มีราคาแพง ขนาดเครื่องยนต์ใหญ่อาจจะยังไม่มีการตัดสินใจ นักธุรกิจเขาต้องรอดูสถานการณ์บ้านเมืองและภาวะเศรษฐกิจ ส่วนรถกระบะ หรือรถขนาดเครื่องยนต์ขนาดเล็กราคาไม่ถึงล้าน น่าจะขายได้ดี”
“สำหรับตัวเลขยอดขาย คงไม่ได้คาดหวังไว้อย่างชัดเจนในปีนี้แต่ก็คาดหวังว่าไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะอย่างไรรถก็เป็นปัจจัยที่ 5 ถ้าเศรษฐกิจดีผู้คนก็จะซื้อรถเพิ่ม ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องดูกันยาวๆ ตลอดทั้งปี และเราก็พึ่งผ่านมาแค่ไตรมาสแรกเท่านั้น”
ปราจิน กล่าวเสริมเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า “ผมอยู่ในธุรกิจนี้มา 36 ปี เหตุการณ์แบบนี้ก็มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว เศรษฐกิจของบ้านเรามีขึ้นมีลง ประเทศเคยผ่านปัญหามาเยอะแยะ ปัญหาครั้งนี้คงไม่หนักเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งเราเคยเจอรัฐบาลที่ครอบงำเรามาเป็นสิบๆ ปี เรายังทนได้ คราวนี้อีกแค่ปีเศษๆ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็เลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านก็หาข้อเสนอที่ดีๆ ไปคุยกับประชาชน ว่ารัฐบาลมีช่องโหว่ตรงไหน ประชาชนเขาก็จะได้ตัดสินใจได้ ให้โอกาสซึ่งกันและกัน มันมีเวลา ไม่ใช่จะต้องมาเอาจะชนะกันใน 15 วัน 20 วันหรือเดือน มันไม่ใช่
“อยากให้ฝ่ายค้านหรือพวกที่เรียกร้องอยู่อดใจรออีกสักหนึ่งปี มันแก้ไขได้ครั้งสมัยที่ทรราชขึ้นมาอยู่มาเป็นสิบๆ ปี ยังทนได้ แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก อะไรที่มันยังกำกวมอยู่อย่างนี้ ล้มเขาไม่ได้หรอก ให้มันเป็นไปตามกติกาดีกว่า แล้วรออีกสักปีเศษ ถ้าเขาไม่ดีจริง เขาก็อยู่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเขาก็ต้องไปเอง”
ประธานจัดงานกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ปีนี้เป็นปีที่ในหลวงของเราครองราชย์ครบ 60 ปี เรารักพ่อของเรา แต่เรากลับมาทะเลาะกันหน้าบ้านท่าน อยากให้เห็นแก่ท่าน อดใจรออีกสักหนึ่งปี ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ และยิ่งเขามีจุดเสียมากๆ อย่างนี้ ผมเชื่อว่าเอาชนะเขาในวันหน้าตามกติกาอย่างสง่าผ่าเผยดีกว่า อย่าเพิ่งมาหักกันไปในวันนี้เลย อดใจรอสักหน่อยแล้วฝ่ายค้านจะอยู่สัก 8 ปี หรือ 12 ปีแบบได้ใจคนทั้งประเทศน่าจะเหมาะสมกว่า”