ข่าวในประเทศ - บีเอ็มดับเบิลยู เปิดฉากรุกตลาดรถผู้บริหารระลอกใหม่ ด้วยการเปิดตัว 525i โมเดลปี 2006 โดย 525i ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์ออปชั่นใหม่ๆ เพียบ แถมยืนยันราคาเดิม พร้อมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้

นายฟรังค์ เริสเลอร์ ประธานบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 525iโมเดลปี 2006 ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสแตนดาร์ด และรุ่นพิเศษ เอสอี โดยทั้ง2รุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์และออปชันใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ 525i นั้นกลายเป็นรถระดับผู้บริหารที่มีอุปกรณ์ครบสมบูรณ์มากที่สุดในตลาดรุ่นหนึ่ง
สำหรับอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในรุ่นพิเศษ หรือ 525i SE นั้น จะติดกล้องที่ใช้มองภาพมุมหน้าและมุมหลังของรถที่จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นด้านหน้าและด้านหลังของรถได้จากจอประมวลผลที่คอนโซล นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 18 นิ้ว ยางรันแฟลต , บันไดประตูแบบอลูมิเนียมเพิ่มความสปอร์ตและความหรูหรา
รุ่นสแตนดาร์ดของ 525i นั้นก็ได้รับการเพิ่มเติมออปชั่นใหม่อีกจำนวนมาก เช่น การผนวกเอาระบบไฟหน้าที่ปรับมุมตามองศาพวงมาลัย (Adaptive Headlight) แอคทีฟสเตียร์ริ่ง (ระบบปรับอัตราทดพวงมาลัยผันแปรตามความเร็วรถ) ชุดกระจกมองข้างแบบพับได้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นนัลแบบสปอร์ต ยางรันแฟลต ,ล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 17 นิ้ว

“เมื่อพิจารณาชุดออปชั่นและอุปกรณ์ที่มีอยู่ในทั้งสองรุ่นกับราคาที่ยังคงยืนอยู่ที่ 3.9 ล้านบาท ในรุ่นสแตนดาร์ด และ 4.3 ล้านบาท ในรุ่นพิเศษเอสอี ถือว่าคุ้มค่า” นายเริสเลอร์ กล่าว โดยทั้งสองเวอร์ชั่นของ 525i นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงขนาด 2.4 ลิตรที่สร้างกำลังสูงสุดได้ถึง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร เมื่อผนวกกับเกียร์อัตโนมัติหกสปีดแล้วจะทำให้ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ 525i โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.8 ลิตร ในการเดินทาง 100 กม.
เช่นเดียวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ทุกๆ รุ่นที่ 525i และ 525i SE นั้นมาพร้อมกับ โปรแกรมการดูแลรักษารถยนต์เต็มรูปแบบเป็นเวลา 5 ปี (BMW Service Inclusive, BSI) ด้วยโปรแกรมนี้จะทำให้ลูกค้า เป็นเจ้าของรถได้โดยไม่ต้องวิตกกับเรื่องการดูแลและซ่อมบำรุงรถเป็นเวลาห้าปี หรือ 100,000 กิโลเมตรในการขับขี่ นอกเหนือไปจาก 525i แล้ว ตลาดรถยนต์เมืองไทยยังมีซีรี่ส์ 5 รุ่นอื่นๆ อีกสองรุ่นได้แก่ 530i และ 520i ที่ราคา 4.9 ล้านบาท และ 3.8 ล้านบาทตามลำดับ
นายฟรังค์ เริสเลอร์ ประธานบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 525iโมเดลปี 2006 ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นสแตนดาร์ด และรุ่นพิเศษ เอสอี โดยทั้ง2รุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์และออปชันใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ 525i นั้นกลายเป็นรถระดับผู้บริหารที่มีอุปกรณ์ครบสมบูรณ์มากที่สุดในตลาดรุ่นหนึ่ง
สำหรับอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในรุ่นพิเศษ หรือ 525i SE นั้น จะติดกล้องที่ใช้มองภาพมุมหน้าและมุมหลังของรถที่จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นด้านหน้าและด้านหลังของรถได้จากจอประมวลผลที่คอนโซล นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 18 นิ้ว ยางรันแฟลต , บันไดประตูแบบอลูมิเนียมเพิ่มความสปอร์ตและความหรูหรา
รุ่นสแตนดาร์ดของ 525i นั้นก็ได้รับการเพิ่มเติมออปชั่นใหม่อีกจำนวนมาก เช่น การผนวกเอาระบบไฟหน้าที่ปรับมุมตามองศาพวงมาลัย (Adaptive Headlight) แอคทีฟสเตียร์ริ่ง (ระบบปรับอัตราทดพวงมาลัยผันแปรตามความเร็วรถ) ชุดกระจกมองข้างแบบพับได้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นนัลแบบสปอร์ต ยางรันแฟลต ,ล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 17 นิ้ว
“เมื่อพิจารณาชุดออปชั่นและอุปกรณ์ที่มีอยู่ในทั้งสองรุ่นกับราคาที่ยังคงยืนอยู่ที่ 3.9 ล้านบาท ในรุ่นสแตนดาร์ด และ 4.3 ล้านบาท ในรุ่นพิเศษเอสอี ถือว่าคุ้มค่า” นายเริสเลอร์ กล่าว โดยทั้งสองเวอร์ชั่นของ 525i นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงขนาด 2.4 ลิตรที่สร้างกำลังสูงสุดได้ถึง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร เมื่อผนวกกับเกียร์อัตโนมัติหกสปีดแล้วจะทำให้ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ 525i โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.8 ลิตร ในการเดินทาง 100 กม.
เช่นเดียวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ทุกๆ รุ่นที่ 525i และ 525i SE นั้นมาพร้อมกับ โปรแกรมการดูแลรักษารถยนต์เต็มรูปแบบเป็นเวลา 5 ปี (BMW Service Inclusive, BSI) ด้วยโปรแกรมนี้จะทำให้ลูกค้า เป็นเจ้าของรถได้โดยไม่ต้องวิตกกับเรื่องการดูแลและซ่อมบำรุงรถเป็นเวลาห้าปี หรือ 100,000 กิโลเมตรในการขับขี่ นอกเหนือไปจาก 525i แล้ว ตลาดรถยนต์เมืองไทยยังมีซีรี่ส์ 5 รุ่นอื่นๆ อีกสองรุ่นได้แก่ 530i และ 520i ที่ราคา 4.9 ล้านบาท และ 3.8 ล้านบาทตามลำดับ