xs
xsm
sm
md
lg

Chevrolet Captiva ตัวลุยคู่ปรับ CR-V

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวที่ว่าเชฟโรเลตจะผลิตเอสยูวีขนาดคอมแพกต์ออกมาขายในตลาดโลกโดยอาศัยสายสัมพันธ์กับจีเอ็ม แดท หรือจีเอ็ม แดวู ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจีเอ็ม มีออกมาตั้งแต่ปลายปี 2004 และในตอนนั้นมีการเผยรายละเอียดและภาพออกมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาจึงมีการเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม


เอสยูวีรุ่นนี้ มีชื่อว่า แคปติว่า หรือมีรหัสโครงการว่า ซี100 และเป็นอีกผลผลิตที่มาจากการนำรถยนต์ของแดวูซึ่งขายในเกาหลีใต้มาตีตราใหม่ ซึ่งมีกระแสข่าวเปิดเผยว่าคนเกาหลีใต้จะได้สัมผัสก่อนใครในช่วงเดือนเมษายน หลังจากที่ได้ตัวครั้งแรกที่ เจนีวา มอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

การพัฒนามีขึ้นบนพื้นตัวถังรุ่นเธต้า (Theta Platform) ซึ่งใช้ในการผลิตเอสยูวีหลายรุ่นในเครือจีเอ็ม เช่นแคดิลแล็ก เอสอาร์เอ็กซ์, ปอนเตี๊ยก ทอร์เรนต์ และแซทเทิร์น วู ส่วนรูปลัษณ์ถอดแบบมาจากเวอร์ชันต้นแบบที่ชื่อเอส 3 เอ็กซ์ ซึ่งเปิดตัวในปารีส มอเตอร์โชว์ 2004

บนตัวถังแบบ 5 ประตู แคปติว่ามาพร้อมกับความยาว 4,639 มิลลิเมตร กว้าง 1,849 มิลลิเมตร สูง 1,726 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร เบาะนั่งข้างในมีให้เลือกทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง หรือ 3 แถว 7 ที่นั่ง และแน่นอนว่าคู่ปรับในตลาดกลุ่มนี้หนีไม่พ้นฮอนด้า ซีอาร์-วี, โตโยต้า ราฟโฟร์, มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ และคู่ปรับร่วมชาติอย่างจี๊ป คอมแพสส์ และดอดจ์ คาลิเบอร์

โดยนอกจากการทำตลาดด้วยแบรนด์เชฟโรเลต และแดวูแล้ว ในโอเชียเนียอย่างออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็จะขายในผ่านยี่ห้อโฮลเด้นด้วย


เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ คือ เบนซิน 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2400 ซีซี 142 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที มีอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 12.1 กิโลเมตร/ลิตร และรุ่นเทอร์โบดีเซลที่จีเอ็มร่วมพัฒนากับวีเอ็ม มอเตอรี่ แห่งอิตาลี

บล็อกคอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว 2000 ซีซี 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที มีอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 15.8 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นเบนซินเครื่องยนต์วี6 3200 ซีซีจะตามออกมาขายทีหลัง


นอกจากนั้น เชฟโรเลตยังนำเทคโนโลยีทันสมัยมาติดตั้ง เช่น ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ หรือ ARP (Active Rollover Protection) ระบบไต่ลงทางลาดชันด้วยความเร็วต่ำ หรือ HDC (Hill Descent Control) และระบบเสริมแรงเบรก HBA (Hydraulic Brake Assist)

สำหรับเลย์เอาต์ของระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ ยึด 4 จุดที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองกับความนุ่มนวลในการขับทั้งออนโรด และออฟโรด

โดยที่ติดตั้งดิสก์เบรก 4 ล้อ และลอขนาด 65X16 นิ้วพร้อมยาง 215/70R6 มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เชฟโรเลต แคปติว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2006 เดือนมีนาคมนี้ จากนั้นจะเริ่มทยอยทำตลาดทั่วโลก และน่าจะรวมถึงเมืองไทยด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น