บริษัท นิชคาร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์ระดับซูเปอร์พรีเมียม ได้เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นช่วงส่งท้ายปีคือ “ลัมโบร์กินี กัลลาร์โด สไปเดอร์ (Lamborghini Gallardo Spyder ) จากประเทศอิตาลี และออฟโรดพันธุ์แกร่ง “ฮัมเมอร์” (Hummer) จากอเมริกา โดยจะทำการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ธันวาคม 2548 นี้ ณ ศูนย์การค้าระดับหรู “สยามพารากอน”
วันนี้เราขอนำเสนอออฟโรดพันธุ์แท้จากอเมริกาอย่าง “ฮัมเมอร์ เอช 3” ก่อนหลังจากนั้นจะเป็นคิว “ลัมโบร์กินี กัลลาร์โด สไปเดอร์
ฮัมเมอร์ เอช 3 เป็นแบรนด์ออฟโรดในเครือจีเอ็ม หรือเจเนลรัลมอเตอร์ส ซึ่งจีเอ็มผลิตขึ้นมาเพื่อกิจกรรมทางการทหารโดยเฉพาะแต่ด้วยความสามารถในการลุยรวมถึงความอึดที่เป็นจุดเด่นส่งผลให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยสนใจที่จะได้ครอบครอง จีเอ็มจึงตัดสินใจผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปในชื่อว่า เอช 1 แต่ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่ไม่สะดวกสำหรับการขับขี่ เอช1จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
จากนั้นไม่นานจีเอ็มจึงได้เปิดตัวรุ่นต่อมาในชื่อ เอช2 โดยปรับขนาดให้เล็กลงส่งผลให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นและทางบริษัทนิชคาร์ก็นำมาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 7.8 ล้านบาท กระทั้งล่าสุดได้ถึงเวลาของน้องเล็กอย่างเอช 3 ที่จะมาสานต่อนานจอมตะลุยจากรุ่นพี่ พร้อมขนาดเรือนร่างที่เล็กลงกว่าเดิมสามารถใช้งานในเมืองได้เหมือนเอสยูวีทั่วไป
เอช 3 เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยขนาดตัวถังแบบ 5 ประตู ที่มีความยาวใกล้เคียงกับรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่างฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยความยาว 4,742 มิลลิเมตร กว้าง 2,170 มิลลิเมตร สูง 1,893 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,842 มิลลิเมตร
รูปลักษณ์ภายนอกยังเน้นความบึกบึนในสไตล์ตัวถังทรงเหลี่ยมเหมือนกล่องตามแบบฉบับของฮัมเมอร์เหมือนเดิม ด้วยฝากระโปรงที่แบนราบ กระจกหน้าตั้งตรง พร้อมช่องระบายความร้อน 7 ช่อง โคมไฟหน้าทรงกลม โป่งล้อที่กว้างสามารถคลุมล้อขนาดใหญ่ได้พอดีกับฐานล้อที่กว้าง โอเวอร์แฮงค์สั้นและยางขนาดใหญ่ทำให้เป็นรถที่มีความมั่นคง ระยะห่างใต้ท้องรถสูงเป็นพิเศษและมีความสามารถในการปีนป่าย
ภายในห้องโดยสาร หรูหราด้วยเบาะหนังแท้พร้อมฮีทเตอร์ ซันรูฟ พวงมาลัยระบบผ่อนแรงอิเลคทรอนิค เครื่องเสียงชั้นดี ระบบเนวิเกเตอร์ โครงสร้างห้องโดยสารเสริมความแข็งแกร่งด้วยโครงเหล็กถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนั้นยังมีออฟชั่นพิเศษเป็นม่านนิรภัยด้านข้างเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการพลิกคว่ำ
เครื่องยนต์เป็นแบบบล็อก 5 สูบเรียง 3500 ซีซี 220 แรงม้า ที่ 5600 รอบ/นาที แรงบิดมหาศาลถึง 305 นิวตัน-เมตรที่ 2800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีค ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองนอกเมือง 8.5 กิโลเมตรต่อลิตร และในเมือง 6.8 กิโลเมตรต่อลิตร
ฮัมเมอร์ขึ้นสายการผลิตเอช 3 ที่โรงงานเชรฟพอร์ต เมืองลาฟาเยตต์
โดยราคาที่ขายในเมืองลุงแซมประมาณ 30,000-35,000 เหรียญสหรัฐหรือ 1.2-1.4 ล้านบาท ขณะเดียวกันจีเอ็มคาดหวังว่าเอช 3 จะมียอดจำหน่ายในปี 2005 ถึง 50,000 คัน
สำหรับในเมืองไทยบริษัท นิชคาร์ ตั้งราคาค่าตัวไว้ 4.9 ล้านบาท
