หายหน้าจากการวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกไปนาน สำหรับค่ายรถอย่าง โตโยต้า ไม่ว่าจะเป็นทางฝุ่นที่เคยครองความยิ่งใหญ่เมื่อต้นทศวรรต 90 กับรายการแรลลี่ชิงแชมป์โลก หรือ WRC แต่สำหรับทางเรียบ ยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบตัดสินใจกระโดดเข้าร่วม ฟอร์มูล่าวัน (F1) อย่างเต็มตัว โดยตั้งทีมของตัวเองเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ก็ถือว่าสร้างผลงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเข้าป้ายอันดับสี่ในประเภททีมผู้สร้าง

แต่สำหรับทางฝุ่นรายการใหญ่อย่างแรลลี่ชิงแชมป์โลก (WRC) ต้องบอกว่าเงียบไปเลย เพราะปล่อยให้เพื่อนร่วมชาติอย่างซูบารุ กับมิตซูบิชิ ขับเคี่ยวกับซีตรอง และเรโนลด์ สองชาติจากแดนน้ำหอมเพียงลำพัง

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปช่วง 10 กว่าปีที่แล้ว โตโยต้าสามารถครองความยิ่งใหญ่ในรายการแรลลี่ชิงแชมป์โลก โดยคว้าชัยเป็นว่าเล่น นับตั้งแต่ คาร์ลอส เซนซ์ ควบ Toyota Celica GT-Four คว้าแชมป์ในปี 1990,1992 ยูฮา คังคูเนน ในปี 1993 และ ดิดีเยร์ โอรีโอล ปี 1994 ซึ่งปีเดียวกันนี้โตโยต้าก็ประกาศถอนตัวออกจาก WRC อย่างเป็นทางการ
เห็นได้ว่าสมรรถนะของ Toyota Celica GT-4 ช่วงนั้นก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร ทำให้วันนี้“ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง” จะนำตำนานมาปัดฝุ่นเสนอเรื่องราวของ Toyota Celica GT สปอร์ตคูเป้สายพันธุ์แท้ ที่ถือเป็นต้นแบบการพัฒนาสู่รุ่นที่ประสบความสำเร็จบนสนามแข่งในเวลาต่อมา
ในปี 1971 ค่ายยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบ ทำการปล่อยโมเดลสปอร์ตคูเป้สายพันธุ์ใหม่นามว่า Toyota Celica ลุยตลาด ซึ่งมาพร้อมขุมพลังจุ๋มจิ่ม กับเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี 79 แรงม้าเท่านั้น จากนั้นในปี 1974 จึงจัดการเอาใจขาลุย ออกรุ่น GT ด้วยการวางเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์คู่ 1,955 ซีซี 4 สูบแถวเรียง โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 6,200 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม.

Toyota Celica GT มีระบบส่งกำลังเป็บแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ สำหรับตัวรถมีมิติ กว้าง 1,610 ยาว 4,165 สูง 1,310 น้ำหนัก 970 กิโลกรัม...รถคันนี้ดำน้ำไม่ได้ แต่สมัยนั้นก็สามารถทำให้ตีนผีรุ่นพ่อถึงกับเวียนว่ายติดอยู่กับเสน่ห์ของสปอร์ตคูเป้อย่างชนิดที่ว่าลืมภรรยากันไปเลย
ด้วยรูปลักษณ์ปราดเปรียว ขนาดกะทัดรัด มีเส้นสายโค้งมนรอบคัน เมื่อพินิจดีๆแล้วอาจพาใจเตลิดเปิดเปิงคิดไปถึงสาวสวยหุ่นดี หน้าตาซื่อๆซักคน...!
พร้อมกับการที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังจึงสนองตอบความต้องการของตีนผีที่นิยมทางฝุ่น รวมถึงผู้ที่พิสมัยกับอาการโอเวอร์สเตียร์ คงสะใจของเจ้าสปอร์ตคูเป้คันนี้ไม่น้อย และราคาที่สามารถจับต้องได้ ทำให้ Toyota Celica GT ขายดีจนกลายเป็นรถยอดนิยมในสมัยนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ปัจจุบัน Toyota Celica เดินทางมาสู่เจเนอเรชันที่ 7 แล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีการพัฒนารูปแบบไปตามยุคตามสมัย ด้านยอดขายก็มีทั้งรุ่งและดับสลับกันไป แต่สำหรับ Toyota Celica GT คงต้องยกให้เป็นตำนานในการบุกเบิก และสร้างชื่อเสียงเอาไว้ให้รุ่นน้องหากินอีกกว่า 30 ปี
แต่สำหรับทางฝุ่นรายการใหญ่อย่างแรลลี่ชิงแชมป์โลก (WRC) ต้องบอกว่าเงียบไปเลย เพราะปล่อยให้เพื่อนร่วมชาติอย่างซูบารุ กับมิตซูบิชิ ขับเคี่ยวกับซีตรอง และเรโนลด์ สองชาติจากแดนน้ำหอมเพียงลำพัง
แต่เมื่อมองย้อนกลับไปช่วง 10 กว่าปีที่แล้ว โตโยต้าสามารถครองความยิ่งใหญ่ในรายการแรลลี่ชิงแชมป์โลก โดยคว้าชัยเป็นว่าเล่น นับตั้งแต่ คาร์ลอส เซนซ์ ควบ Toyota Celica GT-Four คว้าแชมป์ในปี 1990,1992 ยูฮา คังคูเนน ในปี 1993 และ ดิดีเยร์ โอรีโอล ปี 1994 ซึ่งปีเดียวกันนี้โตโยต้าก็ประกาศถอนตัวออกจาก WRC อย่างเป็นทางการ
เห็นได้ว่าสมรรถนะของ Toyota Celica GT-4 ช่วงนั้นก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร ทำให้วันนี้“ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง” จะนำตำนานมาปัดฝุ่นเสนอเรื่องราวของ Toyota Celica GT สปอร์ตคูเป้สายพันธุ์แท้ ที่ถือเป็นต้นแบบการพัฒนาสู่รุ่นที่ประสบความสำเร็จบนสนามแข่งในเวลาต่อมา
ในปี 1971 ค่ายยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบ ทำการปล่อยโมเดลสปอร์ตคูเป้สายพันธุ์ใหม่นามว่า Toyota Celica ลุยตลาด ซึ่งมาพร้อมขุมพลังจุ๋มจิ่ม กับเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี 79 แรงม้าเท่านั้น จากนั้นในปี 1974 จึงจัดการเอาใจขาลุย ออกรุ่น GT ด้วยการวางเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์คู่ 1,955 ซีซี 4 สูบแถวเรียง โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 6,200 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม.
Toyota Celica GT มีระบบส่งกำลังเป็บแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ สำหรับตัวรถมีมิติ กว้าง 1,610 ยาว 4,165 สูง 1,310 น้ำหนัก 970 กิโลกรัม...รถคันนี้ดำน้ำไม่ได้ แต่สมัยนั้นก็สามารถทำให้ตีนผีรุ่นพ่อถึงกับเวียนว่ายติดอยู่กับเสน่ห์ของสปอร์ตคูเป้อย่างชนิดที่ว่าลืมภรรยากันไปเลย
ด้วยรูปลักษณ์ปราดเปรียว ขนาดกะทัดรัด มีเส้นสายโค้งมนรอบคัน เมื่อพินิจดีๆแล้วอาจพาใจเตลิดเปิดเปิงคิดไปถึงสาวสวยหุ่นดี หน้าตาซื่อๆซักคน...!
พร้อมกับการที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังจึงสนองตอบความต้องการของตีนผีที่นิยมทางฝุ่น รวมถึงผู้ที่พิสมัยกับอาการโอเวอร์สเตียร์ คงสะใจของเจ้าสปอร์ตคูเป้คันนี้ไม่น้อย และราคาที่สามารถจับต้องได้ ทำให้ Toyota Celica GT ขายดีจนกลายเป็นรถยอดนิยมในสมัยนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัจจุบัน Toyota Celica เดินทางมาสู่เจเนอเรชันที่ 7 แล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีการพัฒนารูปแบบไปตามยุคตามสมัย ด้านยอดขายก็มีทั้งรุ่งและดับสลับกันไป แต่สำหรับ Toyota Celica GT คงต้องยกให้เป็นตำนานในการบุกเบิก และสร้างชื่อเสียงเอาไว้ให้รุ่นน้องหากินอีกกว่า 30 ปี