มร. เรียว ซาคาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า บริษัทคาดว่าในต้นปี 2549นี้จะมีรถ “อีซูซุดีแมคซ์” วิ่งอยู่บนถนนเมืองไทยถึง 500,000 คัน ภายในระยะเวลา 3 ปีเศษของการออกสู่ตลาด ล่าสุดจึงได้แนะนำรถ “อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์คอมมอนเรล ใหม่สุด!” ที่ได้ปรับเปลี่ยนทุกรุ่น ทั้งในรุ่นสเปซแค็บ, โรดีโอ, ไฮแลนเดอร์, แค็บโฟร์, สปาร์ค และอีโคโนแวน รถปิกอัพตู้บรรทุกเพื่อสร้างผลกำไรสูงสุด รวมทั้ง “อีซูซุ มิว-เซเว่น ซูเปอร์ คอมมอนเรล โฉมใหม่” ด้วยบุคลิกใหม่ที่หรูหรามีสไตล์ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถมากยิ่งขึ้นในทุกรุ่น เพื่อให้เป็นรถที่คุ้มค่าเงินสูงสุดในยุควิกฤติน้ำมันแพง
“อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์คอมมอนเรล ใหม่สุด!” ได้ตอกย้ำความโดดเด่นยิ่งขึ้นในทุกรุ่น เสริมรูปลักษณ์ภายนอกและภายในเพื่อก้าวสู่มิติใหม่แห่งความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ ไฟเลี้ยวแบบ LED ใหม่! ที่กระจกมองข้างขนาดใหญ่สไตล์รถยนต์นั่งระดับหรู (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) สปอยเลอร์ใต้กันชนหน้าใหม่ (Air Dam) เสริมประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดปริมาณอากาศที่หมุนวนอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและเกาะถนนดียิ่งขึ้น (ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อทุกรุ่น ยกเว้นไฮแลนเดอร์)
กระจกมองข้างใหม่แบบคัลเลอร์คีย์ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ กล่องเก็บของอเนกประสงค์เหนือศีรษะ (Overhead Console) พร้อมไฟส่องแผนที่ขนาดใหญ่ 2 จุด (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) เครื่องเสียงใหม่แบบ Full Logic วิทยุ-เทป CD ขนาด 2 din ดีไซน์หรูหรามีสไตล์แบบ Silver Cluster (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) เสริมความสะดวกสบายดุจรถเก๋งด้วยกุญแจรีโมทใหม่ (Keyless entry) (ในรุ่น SLX, LS และ ไฮแลนเดอร์) และความมั่นใจอีกระดับกับกุญแจระบบ Immobilizer ใหม่! ป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจปลอม (ในรุ่นไฮแลนเดอร์ 4 ประตู, แค็บโฟร์ SLX และ LS)
ช่วงล่างใหม่ที่ปรับโครงสร้างระบบรองรับน้ำหนักทั้งทอร์ชั่นบาร์ ลีฟสปริงและยางรองเพลาทั้งหน้าและหลัง เสริมสมรรถนะออฟโรด ช่วยให้เกาะถนน เข้าโค้งมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งให้มิติของตัวรถสูงขึ้นอีก 25 มม. เท่เหนือระดับ เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น (ในรุ่นโรดีโอ, ไฮแลนเดอร์ และแค็บโฟร์ LS) พร้อมสีใหม่ให้เลือกมากขึ้นอีก 3 สี ได้แก่ สีฟ้าอ่อนเมทาลิค (Silky Blue Metallic) สีดำเมทาลิค (Starry Black Metallic) และสีเงินเมทาลิค (Sterling Silver Metallic)
สำหรับ “อีซูซุ มิว-เซเว่น ซูเปอร์คอมมอนเรล โฉมใหม่!” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ แบบ Part Time ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยที่สุด ช่วยประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษา ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ที่มีกิจกรรมหลากหลายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยได้ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่! ภายนอกหรูหราผสานความโฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้าใหม่! ดีไซน์ใหม่พร้อมลวดลายกราฟฟิกซึ่งใช้เทคโนโลยีสีแบบใหม่ Super Reflection Silver ครั้งแรกในเมืองไทยที่ให้ความเงาวาวเป็นพิเศษ เสาอากาศดีไซน์ใหม่สไตล์รถยนต์ระดับหรู และสีสันใหม่ที่บรรจงเลือกมาเฉพาะให้เหมาะกับรสนิยมที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้า ได้แก่ สีดำทูโทน (Two-tone Starry Black) สีฟ้าอ่อนทูโทน (Two-tone Silky Blue) สีบรอนซ์เงิน (Sterling Silver) และสียอดนิยม สีขาวมุกโอเมก้าทูโทน (Two-tone Omega Pearl White)
พร้อมยกระดับความอเนกประสงค์ภายในห้องโดยสารด้วยชุดลายไม้โทนสีคลาสสิกหรูที่คอนโซลหน้า, กลาง และที่วางแขนตรงประตูทั้ง 4 บาน พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้สีเทาเข้มใหม่ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีเทาเบจใหม่ (เป็นอุปกรณ์สั่งพิเศษ) เบาะนั่งแถว 3 เพิ่มความสบายยิ่งขึ้นด้วยพนักพิงศีรษะแบบ Built-in และสามารถปรับพับพนักพิงและยกเบาะนั่งพับไปด้านหน้าเพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระด้านท้ายได้มากขึ้นอีกด้วย
สำหรับการปรับโฉมและเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆในครั้งนี้ ทางบริษัทฯได้มีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 - 6,000 บาท โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ
“อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์คอมมอนเรล ใหม่สุด!” ได้ตอกย้ำความโดดเด่นยิ่งขึ้นในทุกรุ่น เสริมรูปลักษณ์ภายนอกและภายในเพื่อก้าวสู่มิติใหม่แห่งความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ ไฟเลี้ยวแบบ LED ใหม่! ที่กระจกมองข้างขนาดใหญ่สไตล์รถยนต์นั่งระดับหรู (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) สปอยเลอร์ใต้กันชนหน้าใหม่ (Air Dam) เสริมประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดปริมาณอากาศที่หมุนวนอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและเกาะถนนดียิ่งขึ้น (ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อทุกรุ่น ยกเว้นไฮแลนเดอร์)
กระจกมองข้างใหม่แบบคัลเลอร์คีย์ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ กล่องเก็บของอเนกประสงค์เหนือศีรษะ (Overhead Console) พร้อมไฟส่องแผนที่ขนาดใหญ่ 2 จุด (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) เครื่องเสียงใหม่แบบ Full Logic วิทยุ-เทป CD ขนาด 2 din ดีไซน์หรูหรามีสไตล์แบบ Silver Cluster (ในรุ่น SLX, LS และไฮแลนเดอร์) เสริมความสะดวกสบายดุจรถเก๋งด้วยกุญแจรีโมทใหม่ (Keyless entry) (ในรุ่น SLX, LS และ ไฮแลนเดอร์) และความมั่นใจอีกระดับกับกุญแจระบบ Immobilizer ใหม่! ป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจปลอม (ในรุ่นไฮแลนเดอร์ 4 ประตู, แค็บโฟร์ SLX และ LS)
ช่วงล่างใหม่ที่ปรับโครงสร้างระบบรองรับน้ำหนักทั้งทอร์ชั่นบาร์ ลีฟสปริงและยางรองเพลาทั้งหน้าและหลัง เสริมสมรรถนะออฟโรด ช่วยให้เกาะถนน เข้าโค้งมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งให้มิติของตัวรถสูงขึ้นอีก 25 มม. เท่เหนือระดับ เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น (ในรุ่นโรดีโอ, ไฮแลนเดอร์ และแค็บโฟร์ LS) พร้อมสีใหม่ให้เลือกมากขึ้นอีก 3 สี ได้แก่ สีฟ้าอ่อนเมทาลิค (Silky Blue Metallic) สีดำเมทาลิค (Starry Black Metallic) และสีเงินเมทาลิค (Sterling Silver Metallic)
สำหรับ “อีซูซุ มิว-เซเว่น ซูเปอร์คอมมอนเรล โฉมใหม่!” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ แบบ Part Time ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยที่สุด ช่วยประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษา ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ที่มีกิจกรรมหลากหลายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยได้ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่! ภายนอกหรูหราผสานความโฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้าใหม่! ดีไซน์ใหม่พร้อมลวดลายกราฟฟิกซึ่งใช้เทคโนโลยีสีแบบใหม่ Super Reflection Silver ครั้งแรกในเมืองไทยที่ให้ความเงาวาวเป็นพิเศษ เสาอากาศดีไซน์ใหม่สไตล์รถยนต์ระดับหรู และสีสันใหม่ที่บรรจงเลือกมาเฉพาะให้เหมาะกับรสนิยมที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้า ได้แก่ สีดำทูโทน (Two-tone Starry Black) สีฟ้าอ่อนทูโทน (Two-tone Silky Blue) สีบรอนซ์เงิน (Sterling Silver) และสียอดนิยม สีขาวมุกโอเมก้าทูโทน (Two-tone Omega Pearl White)
พร้อมยกระดับความอเนกประสงค์ภายในห้องโดยสารด้วยชุดลายไม้โทนสีคลาสสิกหรูที่คอนโซลหน้า, กลาง และที่วางแขนตรงประตูทั้ง 4 บาน พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้สีเทาเข้มใหม่ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีเทาเบจใหม่ (เป็นอุปกรณ์สั่งพิเศษ) เบาะนั่งแถว 3 เพิ่มความสบายยิ่งขึ้นด้วยพนักพิงศีรษะแบบ Built-in และสามารถปรับพับพนักพิงและยกเบาะนั่งพับไปด้านหน้าเพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระด้านท้ายได้มากขึ้นอีกด้วย
สำหรับการปรับโฉมและเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆในครั้งนี้ ทางบริษัทฯได้มีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 - 6,000 บาท โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ
