xs
xsm
sm
md
lg

โทโมทากะ อิชิกาวา : พลิกชะตายามาฮ่าเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากความนิยมในรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งแต่งซิ่ง-วิ่งเท่ห์มีให้เห็นกันเต็มบ้านเต็มเมือง  โดยขาใสวัยโจ๋ต่างก็หันมาสนใจรถประเภทนี้จนฮิตติดลมบนแบบว่าใครไม่ขี่ถือว่าเชยแหลก  จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ ‘ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง’ ต้องจัดการหาตัวแม่ทัพที่นำตลาดรถประเภทนี้มาสร้างกระแสใหม่ให้วงการสองล้อบ้านเรากลับมีสีสันขึ้นมาอีกครั้ง


โทโมทากะ อิชิกาวา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด หัวเรือใหญ่และผู้กำหนดทิศทางต่างๆของยามาฮ่าในเมืองไทย ที่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและเห็นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารจากแดนปลาดิบผู้นี้

โทโมทากะ อิชิกาวา ในวัยเด็กเป็นอย่างไร?

เมื่อ 4-5 ขวบ ผมอยากเป็นอะไรอย่างที่แม่ผมบอก อยากเป็นคนขับแท็กซี่หรือคนขับรถไฟ ผมชอบขับยานพาหนะ และไม่ค่อยฝันอะไรมากมายนักในการจะมีอาชีพอะไร แต่ฝันอยากเป็นใครมากกว่า ครั้งหนึ่งผมอยากเป็นคนที่ทุกคนต้องการ คือถ้าไม่มีผมแล้วพวกเขาจะคิดถึงไหม, ถ้าไม่มีผมแล้วพวกเขาสามารถทำอะไรได้ไหม

ปรัชญาในการทำงานของคุณ?

ผมมีคติอยู่ 2 แบบ คติแรกเมื่อคุณรู้ว่าทำอะไรแล้วดีต่อบริษัท คุณต้องทำ คุณต้องมั่นใจที่จะทำ มันไม่ใช่การปฏิบัติงานโดยตรง แต่ต้องเป็นการปฏิบัติโดยพฤติกรรม
คติที่สอง คุณต้องเพลิดเพลินกับชีวิต แม้ในเวลาที่ลำบาก ต้องเปลี่ยนโลกให้สนุกสนาน และสนุกกับการทำงาน นั่นคือแนวคิดผม

การทำงานกับยามาฮ่า

ผมเริ่มทำงานที่ยามาฮ่าตั้งแต่ปี 1974 ปี โดยเริ่มเป็นพนักงานขาย ฝ่ายการตลาดในประเทศ หลังจากนั้นก็ได้รับแต่งตั้งให้ไปสังกัดการขายต่างประเทศ ดูแลประเทศในแถบทวีปแอฟริกา ก่อนจะย้ายไปอเมเริกาในปี 1985 ทำงานเกี่ยวกับกับการจัดจำหน่ายและบริหารงานขายรถ ATV และ สโนว์โมบิล จนถึงปี 1986 จึงย้ายกลับญี่ปุ่น

เหตุผลที่ย้ายมาประเทศไทย

ก็ได้รับการมอบหมายมานะซิ ซึ่งผมไม่รู้ว่าทำไมจึงได้รับตำแหน่งนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ผมคงอาสามาเพราะผมสนใจในตลาดนี้อยู่แล้ว มันคงไม่ดีถ้าผมจะยกมือแล้วบอกว่าท่านประธานผมอยากมาประเทศไทยมันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในญี่ปุ่น ดังนั้นคุณต้องรอคอยที่จะได้มาประเทศไทย...คุณรู้ไหมผมต้องการมาที่นี่จริงๆ

ภาพพจน์ของไทยยามาฮ่ามอเตอร์ในขณะนั้นเป็นอย่างไร?

จากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายภาคพื้นเอเชียในญี่ปุ่น ผมรู้มาว่ามันอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงมาก โดยไม่สามารถทำอะไรให้แย่ลงไปกว่านี้ได้อีกแล้ว ผลมันต้องดีกว่าเดิมจริงๆ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ลำบากและท้าทายมาก คุณได้แต่คิดว่าทำอย่างไรให้ดีขึ้น...มันต้องดีขึ้น

กังวลเรื่องอะไรเป็นพิเศษในการรับตำแหน่งนี้?

คงจะกังวลในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของผม เนื่องจากการฟื้นตลาดต้องใช้เวลา  ถึงแม้จะรอได้แต่รอได้ไม่นานเพราะผู้บริหารญี่ปุ่นใจร้อน โดยผมหวังว่าพวกเขาจะสามารถรอผลงานของผมได้ 

คุณวางแผนการตลาดสำหรับ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ไว้อย่างไร?

โชคดีตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นผมได้ทำกลยุทธ์ธุรกิจในประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) และแผนของเราคือ “ไม่ตามคู่แข่ง” ซึ่งฉัดเจน เมื่อมองถึงส่วนแบ่งทางการตลาดของประเทศแถบนี้เราไม่สามารถสู้กับคู่แข่งได้ เพราะฝ่ายตรงข้ามมีกำลังมากกว่าเราถึง 3 เท่า คุณไม่มีโอกาสสู้กันได้แบบตัวต่อตัว

คุณก็เลยซุ่มโจมตีด้วย ยามาฮ่า Nouvo กับ Mio ใช่ไหม?

ผมต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้านั่นคือสิ่งที่ผมทำ Nouvo และ Mio คือกลยุทธ์ของผม เราไปในเส้นทางออโตเมติกที่ไม่มีใครทำในเวลานั้น มันเหมือนการเสี่ยงโชคถ้าจะแพ้ก็แพ้ด้วยการท้าชิงจริงไหม

มองภาพไทยยามาฮ่าในอนาคตไว้อย่างไร?

ผมตั้งเป้าหมายอย่างจริงจังว่าเราจะเป็นบริษัทชั้นนำอันดับแรกเลย โดยเฉพาะการปฏิบัติงาน ผมต้องการให้มีคนไทยเกี่ยวข้องในระดับผู้บริหารจัดการ  ซึ่งอาจจะให้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ชี้นำช่วยเหลือ  ดังนั้นคุณจะมีอิสระในการจัดการในบริษัท  
ด้านภาพพจน์ของสินค้าที่ต้องเป็นหนึ่ง มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ผมหมายถึงเราต้องทำงานหนักและมุ่งมั่นในเส้นทางของเราต่อไป

ด้วยวิสัยทัศน์ของ โทโมทากะ อิชิกาวา คงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าทุกวันนี้ เขามีส่วนผลักดันให้ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ พลิกฟื้นกลับสู่เส้นทางความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทั้งส่งผลให้ตลาดรถสองล้อเมืองไทยกลับมาดุเดือดขึ้นอีกหลายองศา


ที่มา : บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนิตยสารยามาฮ่าวิชั่น


กำลังโหลดความคิดเห็น