บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด เตรียมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ในชื่อ “ไทรทัน” (TRITON ) อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกที่เมืองไทย ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ แต่ก่อนที่มิตซูบิชิจะเปิดตัวได้เชิญนักข่าวไปสัมผัสกับกระบะใหม่เมื่อปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จึงเก็บภาพมาให้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม พร้อมรายละเอียดของตัวรถ
นายกายู อู เอชูกิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์และรับผิดชอบโดยตรงในส่วนของรถกระบะใหม่และผลิตภัณฑ์ RVS กล่าวถึงการพัฒนารถกระบะมิตซูบิชิใหม่ว่า ประกอบไปด้วย 6 ข้อ คือ
1.เพื่อสานต่อชื่อเสียงของรถกระบะมิตซูบิชิในด้านความทนทานและความเชื่อถือได้ในสมรรถนะ 2.เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ 3.คุณภาพของรถกระบะ 4. ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ นั่นหมายความว่าลูกค้าจะสามารถรับรู้ถึงข้อดี จุดเด่นต่างๆ ผ่านการสัมผัสในตัวรถกระบะ 5. ปรับจำนวนของชิ้นส่วนในส่วนประกอบที่ไม่จำเป็น เน้นเฉพาะที่สำคัญและมีการออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน และ 6.เน้นการออกแบบทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน
ดังนั้นรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้น โดยได้รับการถ่ายทอด คุณสมบัติเด่นจาก Mitsubishi Racing Truck Evolution (RTE) รถต้นแบบของการพัฒนาที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (Technology) กับนวัตกรรมด้านรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและทันสมัย ด้วยการออกแบบที่เน้นคุณสมบัติทางด้านอากาศพลศาสตร์ ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันและได้ระยะทางในการขับเคลื่อนที่มากกว่า ความแข็งแกร่ง (Toughness) ของระบบช่วงล่างซึ่งมีการปรับเปลี่ยนใหม่หมด ด้วยโครงสร้างแชสซีส์ที่ใหญ่และหนาขึ้น จึงทำให้โครงสร้างรถแข็งแรงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และพลังขับเคลื่อน (Power) จากเครื่องยนต์ต้นแบบสายพันธุ์แชมป์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ซึ่งพิสูจน์แล้วจากสนามดาการ์ แรลลี่ ผสานการทำงานกับระบบหัวฉีดน้ำมันแรงดันสูง “ไฮเปอร์ คอมมอนเรล” เทคโนโลยีล่าสุดของระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงที่มาพร้อมกับความแรงและประหยัดน้ำมัน ซึ่งทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดมาสู่นวัตกรรมของรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน
3 คุณสมบัติเด่น
1. เทคโนโลยีเหนือความเป็นรถกระบะ (Technology)
รูปลักษณ์ที่ทันสมัย ด้วยนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีที่สูงสุด กระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่จึงถูกออกแบบให้ใหม่หมดทั้งคัน ด้วยการออกแบบให้มีเส้นสายที่สวยงามและเพรียวลม กับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้สอดคล้องกับเส้นสายโค้งมนของตัวรถในทุกๆ มุม ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ จึงต่ำสุดเพียง 0.46 นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดน้ำมันและเพิ่มความทรงตัวในการเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มาตรวัดสีฟ้า บนแผงหน้าปัดที่ถูกออกแบบให้ลงตัวและมีความโดดเด่นจากรถกระบะทั่วไป
ตัวถังแบบ RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) เอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับห้องโดยสารในการรับแรงกระแทก ด้วยการเสริมโครงสร้างของห้องโดยสาร ตัวถังที่หนาขึ้น และโครงสร้างแชสสีซ์ที่แข็งแรงขึ้นทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยถูกออกแบบให้ดูดซับแรงกระแทกไว้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันแรงกระแทกผู้โดยสารภายในรถ ในขณะเดียวกันยังติดตั้งคานกันกระแทกด้านในประตู และโครงสร้างห้องโดยสารทั่วทั้งคันให้ปลอดภัยจากแรงกระแทกจากการชน ไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสารภายใน
2. พลังขับเคลื่อน (Power)
เครื่องยนต์ 3.2 DI-D Hyper Common Rail 165 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล 4M41 3.2 DI-D ใหญ่ที่สุด แรงที่สุด ขุมพลัง 165 แรงม้า ที่พัฒนาโดยตรงจากสายพันธุ์แกร่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร่ เครื่องยนต์ คอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมเทอร์โบชาร์จอินเตอร์คูลเลอร์ สู่การจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบ พร้อมการเผาไหม้ที่หมดจด ขีดสุดแห่งพลังที่พลิกโฉมเพื่อนวัตกรรมขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง
เครื่องยนต์ 2.5 DI-D Hyper Common Rail Twin Swirl Intake Ports เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 140 แรงม้า ให้พลังมากที่สุดในกระบะระดับเดียวกัน ด้วยระบบวาล์วไอดี 2 ทิศทาง Twin Manifold ช่วยเพิ่มมวลอากาศให้หนาแน่น ไหลเข้าห้องเผาไหม้ของกระบอกสูบก่อให้เกิดกำลังอัดสูง แรงจุดระเบิดที่เหนือชั้นและการเผาไหม้ที่หมดจดกว่าในเครื่องยนต์ 4D56 เทอร์โบชาร์จ คอมมอนเรล เจนเนอชั่นล่าสุด เป็นที่สุดของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ลงตัว ทั้งพลังแรงและการใช้งานที่คุ้มค่า
3. ความแข็งแกร่ง (Toughness)
ด้วยโครงสร้างแชสซีส์ใหม่แข็งแรงขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น กับโครงสร้างแชสซีส์แบบขั้นบันได จึงให้ความแข็งแกร่งขึ้น และให้ความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดการชนช่วยลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ประกอบข้อต่อรับแรงชน ที่สามารถดูดซับแรง เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากขึ้น ป้องกันการโค้งงอเพิ่มขึ้น 70% รวมทั้งป้องกันการบิดตัวเพิ่มขึ้น 40%
ระบบช่วงล่างสำหรับรถ 4WD
ช่วงล่างหน้า 4WD เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมโช้กอัพ, คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลแม้บนทางที่ขรุขระ ให้การทรงตัวอย่างมั่นใจทุกสภาพถนน ช่วงล่างหลัง 4WD ได้ถูกพัฒนาถึงขั้นสูงสุด ด้วยการออกแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้กอัพไขว้ ช่วยให้ซึมซับแรงกระแทกบนถนนที่ขรุขระ ทำให้คุณสนุกสนานและสัมผัสกับทุกความสบายในการขับขี่
ระบบช่วงล่างสำหรับรถ 2WD
ช่วงล่างหน้า 2WD เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมโช้กอัพ, คอยล์สปริง และสตรัทบาร์ เสริมด้วยคานกันกระแทก (Compassion Rod Design) ให้การยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม แม้ขณะเข้าโค้ง ให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในทุกการขับขี่ของคุณ
ช่วงล่างหลัง 2WD เป็นโครงสร้างแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้กอัพไขว้ ช่วยลดช่วยลดการสั่นสะเทือน จึงทำให้ทุกการขับขี่มีความนุ่มนวลและสะดวกสบาย
ระบบขับเคลื่อน Easy Select 4WD
ระบบ Easy Select 4WD ให้อิสระในการเลือกขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่บนเส้นทางปกติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ บนเส้นทางขรุขระทุรกันดาร โดยไม่ต้องใช้การเบรกเข้าช่วย ระบบ Shift-on-the-fly ช่วยอำนวยความสะดวกในการเลือกระบบการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแบบใด
2H (ขับเคลื่อน 2 ล้อ ความเร็วสูง) ทางเลือกสำหรับการขับขี่บนเส้นทางปกติ ล้อหลังจะรับกำลังการขับเคลื่อนเพื่อให้การขับขี่อย่างนุ่มนวล ประหยัดน้ำมันและปราศจากเสียงรบกวน
4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วสูง) สำหรับเส้นทางทุรกันดารที่เต็มไปด้วยอันตราย ล้อทั้ง 4 จะเฉลี่ยกำลังการขับเคลื่อนให้เท่าๆ กันในทุกล้อ ทำให้การควบคุมการทรงตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4L (ขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วต่ำ) คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการควบคุมการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด ในตำแหน่งนี้จะมีการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มกำลังฉุดลาก เหมาะสำหรับเส้นทางทุรกันดารมากๆ เช่นบนถนนทรายหรือบ่อโคลน
ระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบ Hybrid LSD
ระบบลิมิเต็ดสลิปแบบไฮบริดจ์พร้อม VCU ระบบนี้ได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS เพื่อให้ได้แรงดึงที่มากขึ้นเมื่อต้องขับขี่บนถนนที่ลื่นช่วยให้รถผ่านเส้นทางทุรกันดารได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน
ระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบกลไก Mechanical LSD (LOM Type)
ระบบลิมิเต็ดสลิปแบบกลไก จะใช้คลัตช์ในการรักษาแรงบิดเมื่อล้อใดล้อหนึ่งเริ่มจะหมุนฟรี ช่วยให้รถผ่านเส้นทางทุรกันดารได้ง่ายขึ้น
ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด
สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความสะดวกสบายจากการใช้งาน ระบบเกียร์อัตโนมัติของกระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์แม่นยำมากขึ้น และระบบ INVECS II สำหรับ 4WD จะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ตามอัตราทดต่างๆ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของผู้ขับแต่ละคน ตอบสนองความต้องการของผู้ขับที่ต้องการความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง
ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
เหมาะสำหรับผู้ที่สนุกกับการขับขี่แบบควบคุมได้ด้วยตนเอง กระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ ยังมีระบบเกียร์ธรรมดาให้เลือกขับได้ตามความต้องการของคุณ การออกแบบใหม่ทำให้การเข้าเกียร์สามารถควบคุมได้ง่าย และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้น
รัศมีวงเลี้ยว
รัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.7 เมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 5.9 เมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยวงเลี้ยวแคบทำให้ควบคุมการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้สะดวกกว่า เข้าโค้งได้ดีแม่นยำมากขึ้น
ระบบพวงมาลัย
ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยในกระบะมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ ทำให้การเลี้ยวมีความแม่นยำมากขึ้น และรัศมีวงเลี้ยวแคบลงทำให้การเลี้ยวหรือกลับรถเป็นไปได้ง่าย และสะดวกกว่า
ระบบเบรก
จานเบรกใหม่ ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์พร้อมช่องระบายความร้อน และด้านหลังแบบดรัม ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับรถขนาดเดียวกัน รวมถึงประสิทธิภาพในการเบรก จึงช่วยให้แน่ใจได้ถึงการเบรกที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบเบรกอย่างกะทันหันในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกสถานการณ์
สำหรับราคายังไม่มีการเปิดเผยตอนนี้ ผู้บริหารมิตซูบิชิจะประกาศในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ พร้อมทั้งสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ทันทีหลังวันเปิดตัว
เครื่องยนต์ในกระบะมิตซูบิชิใหม่ มี 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
1. เครื่องยนต์ | รหัส 4D56 Indirect Turbo |
แรงม้าสูงสุด | 90 แรงม้า (Ps)/4,000 รอบต่อนาที (rpm) |
แรงบิดสูงสุด | 196 นิวตัน-เมตร (N-m) / 2,000 รอบ/นาที (rpm) |
2. เครื่องยนต์ | รหัส 4D56 DI- D Hyper Common Rail Turbo |
แรงม้าสูงสุด | 116 แรงม้า (Ps)/4,000 รอบต่อนาที (rpm) |
แรงบิดสูงสุด | 247 นิวตัน-เมตร (N-m) / 2,000 รอบ/นาที (rpm) |
3. เครื่องยนต์ | รหัส 4D56 DI- D Hyper Common Rail Turbo Inter Cooler |
แรงม้าสูงสุด | 140 แรงม้า (Ps)/4,000 รอบต่อนาที (rpm) |
แรงบิดสูงสุด | 321 นิวตัน-เมตร (N-m) / 2,000 รอบ/นาที (rpm) |
4. เครื่องยนต์ | รหัส 4M41 DI- D Hyper Common Rail Turbo Inter Cooler |
แรงม้าสูงสุด | 165 แรงม้า (Ps)/4,000 รอบต่อนาที (rpm) |
แรงบิดสูงสุด | 351 นิวตัน-เมตร (N-m) / 2,000 รอบ/นาที (rpm) |