ปัจจุบันล้อแม็กซ์กลายเป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับรถยนต์และรถปิคอัพไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ประดับยนต์ที่เพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถ แต่ความจริงแล้ว “ล้อแม็กซ์” ไม่ได้มีแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว ยังส่งผลดีต่อการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วย
แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าปัญหาของล้อแม็กซ์ไม่มีคุณภาพ ที่มีผู้นำเข้าจากประเทศไต้หวันและจีนมาวางขายกันเกลื่อนตลาด จะกลายเป็นจุดที่ผู้ผลิตล้อแม็กซ์ในประเทศไทยนำขึ้นมาเป็นจุดกระตุ้นรัฐบาลให้หันมาใส่ใจดูแลกันบ้าง เพราะที่ผ่านมามีการเปิดเสรีให้นำเข้ามาจำหน่ายโดยไม่ได้มีการควบคุมมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่อย่างไร ใครคิดจะนำเข้ามาขาย ก็เปิดให้อย่างอิสระ โดยไม่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นการออกมาประกาศเรียกร้องเพื่อป้องกันส่วนแบ่งตลาดของบริษัทผู้ผลิตล้อแม็กซ์ไทยที่ต้องสูญเสียตลาดบางส่วนให้กับล้อแม็กซ์นำเข้า ซึ่งความจริงอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่ถ้าหากมองในแง่ของผู้บริโภคที่ไม่มีผลประโยชน์ในเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องของคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ควรหันมองกันบ้างเพราะเรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถมาเป็นเรื่องสำคัญและส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง
ทาง “ผู้จัดการมอเตอรริ่ง” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายสรรชัย บุญทวีกิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เลนโซ่วีล จำกัด ผู้ผลิต “ล้อแม็กซ์ เลนโซ่” เจ้าตลาดล้อแม็กซ์ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดทดแทนของเมืองไทย ถึงปัญหาในเรื่องของล้อแม็กซ์ที่ไม่มีคุณภาพ และมาตรฐานของล้อแม็กซ์ รวมถึงข้อคิดในการตัดสินใจซื้อล้อแม็กซ์ของผู้บริโภคไทย
ทำไมถึงคิดออกมาพูดเรื่องของล้อแม็กซ์ที่ไม่มีคุณภาพตอนนี้ ?
จริงๆแล้วที่ผ่านมาเราทำการสำรวจตลาดของล้อแม็กซ์มาโดยตลอด แต่ในช่วงหลังนี้เราเห็นว่ามีล้อแม็กซ์ที่นำเข้ามาจำหน่ายในตลาดเยอะมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นล้อแม็กซ์ที่ไม่มียี่ห้อ เพียงแต่ก๊อปปี้ลายล้อแม็กซ์ใหม่มาจำหน่าย และจากที่ไปสำรวจมาส่วนใหญ่เกินกว่า 50 % เป็นล้อแม็กซ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอุตสาหกรรม เราในฐานะผู้ผลิตล้อแม็กซ์ของไทยจึงไม่อยากให้คนไทยต้องถูกหลอกใช้ของที่ไม่มีคุณภาพซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคเอง
ส่วนใหญ่ล้อแม็กซ์นำเข้ามาจากที่ไหน ?
ล้อแม็กซ์ที่นำเข้ามาส่วนใหญ่จะมาจากผู้ผลิตในประเทศ ไต้หวัน และ จีน เพราะตลาดล้อแม็กซ์ที่ประเทศนั้นใหญ่มาก มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ผู้ผลิตรายเล็กๆส่วนใหญ่จึงแข่งขันกันที่จะออกลายใหม่ๆให้เร็วที่สุด เมื่อต้องแข่งขันการกระจายสินค้าให้เร็ว ขั้นตอนการตรวจคุณภาพจึงไม่มี สินค้าที่ออกมาจำหน่ายจึงไม่มีคุณภาพ เมื่อมีคนนำเข้ามาจำหน่ายในไทย ทางภาครัฐเองก็ไม่ได้มีการควบคุมมาตรฐานตรงนี้ เปิดขายกันอย่างเสรี ล้อแม็กซ์บางเจ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายจึงเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งบางทีอาจจะขายในราคาสูงกว่าแม็กซ์ที่ผลิตในไทยที่ได้คุณภาพเสียอีก เพราะอ้างว่าเป็นล้อแม็กซ์นำเข้าจากต่างประเทศก็สามารถโก่งราคาได้ ผลสุดท้ายผู้บริโภคเองที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ล้อแม็กซ์มีผลต่อการขับขี่ยังไงบ้าง และถ้าไม่มีคุณภาพจะเกิดปัญหาอะไร?
คนส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนล้อแม็กซ์หลักเลยคือเพื่อความสวยงามของตัวรถเองซึ่งก็ใช่ แต่ประโยชน์ก็มีเพราะการใส่ล้อแม็กซ์จะช่วยทำให้ร่นระยะการเบรกกระชั้นชินได้เร็วขึ้น เพราะล้อแม็กซ์จะมีพื้นผิวยางที่กว้างกว่า ช่วยให้เบรกได้ดีขึ้น รวมถึงจะช่วยในการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นด้วย ส่วนล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ตัวอย่างเช่น ถ้าล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อผู้ใช้รถขับขี่ด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. รถเกิดตกหลุม หรือกระแทกของแข็ง จะทำให้ล้อแม็กซ์แตก รถจะเสียการทรงตัว ยางอาจจะระเบิด ซึ่งแน่นอนผลที่ออกมาก็คือการสูญเสียทรัพย์สินหรือบางครั้งอาจถึงชีวิต
ในฐานะของผู้ผลิตล้อแม็กซ์รายใหญ่ในไทย เราทำการทดสอบอย่างไร ?
สำหรับล้อแม็กซ์ของเลนโซ่เอง เรามีมาตรฐานในการทดสอบและยอมรับจากสถาบัน JWL จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต้นที่ทุกบริษัทที่ผลิตล้อแม็กซ์ต้องมี โดยในการทดสอบเราจะซุ่มตัวอย่างจากล้อแม็กซ์ในไลน์การผลิต และจำลองสถานการณ์ที่เรียกว่า Impact Test ทดสอบด้วยแรงกระแทกที่เหมือนกับการขับขี่ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม และรถตกหลุมโดยการปล่อยทุ่นน้ำหนักขนาดประมาณ 800 กก.-1 ตัน ลงมาบนล้อแม็กซ์ที่มุม 13 องศา ซึ่งมีการคำนวณแล้ะว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเป็นมุมที่ได้รับแรงกระแทกมากที่สุด เช่น ขอบฟุตบาท หรือสิ่งกีดขวาง ซึ่งล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อเกิดแรงกระแทกจะเกิดรอยร้าว หรือแตกหัก ซึ่งจะส่งผลต่อการบังคับและการทรงตัวของรถ
นอกจากนั้นเรายังมีมาตรฐานในการทดสอบแบบ Redial Fatique Test คือการใส่ล้อแม็กซ์ไปในยางรถยนต์ และให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านรอบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะ ถ้าผ่านการทดสอบแล้วล้อแม็กซ์ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตก รอยร้าว ก็ถือว่าผ่านการทดสอบ
การทดสอบแบบ Bending Test เป็นการสร้างแรงกดและแรงบิดให้กับตัวของล้อแม็กซ์ โดยเป็นเครื่องมือที่ยึดติดกับล้อแม็กซ์ ทำให้เกิดแรงสั่น แรงบิด และแรงกด ต่างๆในหลายทิศทาง และดูผลทดสอบว่าล้อแม็กซ์มีรอยแตกร้าวหรือไม่ และสุดท้ายก็คือ Salt Spray Test คือการทดสอบการทดต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมได้ดีแค่ไหน โดยการนำน้ำเกลือที่มีความเข็มข้น 5 % มาพ่นลงบนล้อแม็กซ์ต่อเนื่อง 480 ชั่วโมง ถ้าครบตามกำหนดแล้วล้อแม็กซ์ไม่สึกกร่อน ไม่มีสนิม จึงถือว่าผ่านการทดสอบ เพราะในการใช้งานจริงรถจะต้องถูกจอดไว้ในที่ต่างๆ ตากแดด ตากฝน ล้อแม็กซ์จึงต้องทนต่อสภาพภูมิอากาศด้วย
จริงๆแล้วอายุการใช้งานของล้อแม็กซ์มีระยะเวลานานแค่ไหน ?
ถ้าถามกันจริงแล้วล้อแม็กซ์มีอายุการใช้งานจนกว่ารถคันนั้นจะพังไป แต่ถ้าหากนับเป็นปีแล้วคิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 30 ปี หลายคนคงจะเห็นว่ารถรุ่นเก่าๆ ก็ยังสามารถคงรักษาสภาพล้อแม็กซ์ได้เหมือนตอนที่ออกมาในครั้งแรก ถ้าหากเราดูแลรักษาหรือไม่เกิดอุบัติเหตุใดอยู่ได้นานมาก
ผู้บริโภคควรทำอย่างไรในการเลือกซื้อล้อแม็กซ์ ?
ถ้าเป็นไปได้อย่างแรกผู้บริโภคควรจะศึกษายี่ห้อของล้อแม็กซ์ก่อนว่า บริษัทผลิตล้อแม็กซ์นั้นๆเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานหรือไม่ แต่ถ้าหากเป็นล้อแม็กซ์นำเข้าก็คงจะยากในการตรวจสอบ ก็ควรจะดูที่ตัวล้อแม็กซ์เองว่ามาเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน มีเครื่องหมายการรับรองมาตรฐานอะไรหรือไม่ ตัวแทนจำหน่ายมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
สุดท้ายอยากให้ทางภาครัฐทำอย่างไรตอนนี้เพื่อผู้บริโภคและผู้ผลิตเอง ?
ถึงตอนนี้แล้วก็อยากให้ทางภาครัฐมีการควบคุมในเรื่องของคุณภาพของล้อแม็กซ์ มีการตรวจสอบโดย มอก. มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาสินค้าล้อแม็กซ์ไม่ได้มีการควบคุมเรื่องของคุณภาพเลย ทั้งที่เป็นสินค้าที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้บริโภค อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของล้อแม็กซ์นำเข้าที่หลีกเลี่ยงภาษีเข้ามาจำหน่ายในราคาถูก เพราะเท่าที่ได้ออกไปสำรวจตลาดมามีจำนวนไม่น้อยในตลาด ซึ่งตรงนี้ทางรัฐเองก็ต้องสูญเสียรายได้จากภาษีไปเป็นจำนวนไม่น้อย
แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าปัญหาของล้อแม็กซ์ไม่มีคุณภาพ ที่มีผู้นำเข้าจากประเทศไต้หวันและจีนมาวางขายกันเกลื่อนตลาด จะกลายเป็นจุดที่ผู้ผลิตล้อแม็กซ์ในประเทศไทยนำขึ้นมาเป็นจุดกระตุ้นรัฐบาลให้หันมาใส่ใจดูแลกันบ้าง เพราะที่ผ่านมามีการเปิดเสรีให้นำเข้ามาจำหน่ายโดยไม่ได้มีการควบคุมมาตรฐานอุตสาหกรรมแต่อย่างไร ใครคิดจะนำเข้ามาขาย ก็เปิดให้อย่างอิสระ โดยไม่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นการออกมาประกาศเรียกร้องเพื่อป้องกันส่วนแบ่งตลาดของบริษัทผู้ผลิตล้อแม็กซ์ไทยที่ต้องสูญเสียตลาดบางส่วนให้กับล้อแม็กซ์นำเข้า ซึ่งความจริงอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่ถ้าหากมองในแง่ของผู้บริโภคที่ไม่มีผลประโยชน์ในเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องของคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ควรหันมองกันบ้างเพราะเรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถมาเป็นเรื่องสำคัญและส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง
ทาง “ผู้จัดการมอเตอรริ่ง” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายสรรชัย บุญทวีกิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เลนโซ่วีล จำกัด ผู้ผลิต “ล้อแม็กซ์ เลนโซ่” เจ้าตลาดล้อแม็กซ์ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดทดแทนของเมืองไทย ถึงปัญหาในเรื่องของล้อแม็กซ์ที่ไม่มีคุณภาพ และมาตรฐานของล้อแม็กซ์ รวมถึงข้อคิดในการตัดสินใจซื้อล้อแม็กซ์ของผู้บริโภคไทย
ทำไมถึงคิดออกมาพูดเรื่องของล้อแม็กซ์ที่ไม่มีคุณภาพตอนนี้ ?
จริงๆแล้วที่ผ่านมาเราทำการสำรวจตลาดของล้อแม็กซ์มาโดยตลอด แต่ในช่วงหลังนี้เราเห็นว่ามีล้อแม็กซ์ที่นำเข้ามาจำหน่ายในตลาดเยอะมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นล้อแม็กซ์ที่ไม่มียี่ห้อ เพียงแต่ก๊อปปี้ลายล้อแม็กซ์ใหม่มาจำหน่าย และจากที่ไปสำรวจมาส่วนใหญ่เกินกว่า 50 % เป็นล้อแม็กซ์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอุตสาหกรรม เราในฐานะผู้ผลิตล้อแม็กซ์ของไทยจึงไม่อยากให้คนไทยต้องถูกหลอกใช้ของที่ไม่มีคุณภาพซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคเอง
ส่วนใหญ่ล้อแม็กซ์นำเข้ามาจากที่ไหน ?
ล้อแม็กซ์ที่นำเข้ามาส่วนใหญ่จะมาจากผู้ผลิตในประเทศ ไต้หวัน และ จีน เพราะตลาดล้อแม็กซ์ที่ประเทศนั้นใหญ่มาก มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ผู้ผลิตรายเล็กๆส่วนใหญ่จึงแข่งขันกันที่จะออกลายใหม่ๆให้เร็วที่สุด เมื่อต้องแข่งขันการกระจายสินค้าให้เร็ว ขั้นตอนการตรวจคุณภาพจึงไม่มี สินค้าที่ออกมาจำหน่ายจึงไม่มีคุณภาพ เมื่อมีคนนำเข้ามาจำหน่ายในไทย ทางภาครัฐเองก็ไม่ได้มีการควบคุมมาตรฐานตรงนี้ เปิดขายกันอย่างเสรี ล้อแม็กซ์บางเจ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายจึงเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งบางทีอาจจะขายในราคาสูงกว่าแม็กซ์ที่ผลิตในไทยที่ได้คุณภาพเสียอีก เพราะอ้างว่าเป็นล้อแม็กซ์นำเข้าจากต่างประเทศก็สามารถโก่งราคาได้ ผลสุดท้ายผู้บริโภคเองที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ล้อแม็กซ์มีผลต่อการขับขี่ยังไงบ้าง และถ้าไม่มีคุณภาพจะเกิดปัญหาอะไร?
คนส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนล้อแม็กซ์หลักเลยคือเพื่อความสวยงามของตัวรถเองซึ่งก็ใช่ แต่ประโยชน์ก็มีเพราะการใส่ล้อแม็กซ์จะช่วยทำให้ร่นระยะการเบรกกระชั้นชินได้เร็วขึ้น เพราะล้อแม็กซ์จะมีพื้นผิวยางที่กว้างกว่า ช่วยให้เบรกได้ดีขึ้น รวมถึงจะช่วยในการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นด้วย ส่วนล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ตัวอย่างเช่น ถ้าล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อผู้ใช้รถขับขี่ด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. รถเกิดตกหลุม หรือกระแทกของแข็ง จะทำให้ล้อแม็กซ์แตก รถจะเสียการทรงตัว ยางอาจจะระเบิด ซึ่งแน่นอนผลที่ออกมาก็คือการสูญเสียทรัพย์สินหรือบางครั้งอาจถึงชีวิต
ในฐานะของผู้ผลิตล้อแม็กซ์รายใหญ่ในไทย เราทำการทดสอบอย่างไร ?
สำหรับล้อแม็กซ์ของเลนโซ่เอง เรามีมาตรฐานในการทดสอบและยอมรับจากสถาบัน JWL จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต้นที่ทุกบริษัทที่ผลิตล้อแม็กซ์ต้องมี โดยในการทดสอบเราจะซุ่มตัวอย่างจากล้อแม็กซ์ในไลน์การผลิต และจำลองสถานการณ์ที่เรียกว่า Impact Test ทดสอบด้วยแรงกระแทกที่เหมือนกับการขับขี่ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม และรถตกหลุมโดยการปล่อยทุ่นน้ำหนักขนาดประมาณ 800 กก.-1 ตัน ลงมาบนล้อแม็กซ์ที่มุม 13 องศา ซึ่งมีการคำนวณแล้ะว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเป็นมุมที่ได้รับแรงกระแทกมากที่สุด เช่น ขอบฟุตบาท หรือสิ่งกีดขวาง ซึ่งล้อแม็กซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อเกิดแรงกระแทกจะเกิดรอยร้าว หรือแตกหัก ซึ่งจะส่งผลต่อการบังคับและการทรงตัวของรถ
นอกจากนั้นเรายังมีมาตรฐานในการทดสอบแบบ Redial Fatique Test คือการใส่ล้อแม็กซ์ไปในยางรถยนต์ และให้ล้อหมุนไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านรอบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะ ถ้าผ่านการทดสอบแล้วล้อแม็กซ์ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตก รอยร้าว ก็ถือว่าผ่านการทดสอบ
การทดสอบแบบ Bending Test เป็นการสร้างแรงกดและแรงบิดให้กับตัวของล้อแม็กซ์ โดยเป็นเครื่องมือที่ยึดติดกับล้อแม็กซ์ ทำให้เกิดแรงสั่น แรงบิด และแรงกด ต่างๆในหลายทิศทาง และดูผลทดสอบว่าล้อแม็กซ์มีรอยแตกร้าวหรือไม่ และสุดท้ายก็คือ Salt Spray Test คือการทดสอบการทดต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมได้ดีแค่ไหน โดยการนำน้ำเกลือที่มีความเข็มข้น 5 % มาพ่นลงบนล้อแม็กซ์ต่อเนื่อง 480 ชั่วโมง ถ้าครบตามกำหนดแล้วล้อแม็กซ์ไม่สึกกร่อน ไม่มีสนิม จึงถือว่าผ่านการทดสอบ เพราะในการใช้งานจริงรถจะต้องถูกจอดไว้ในที่ต่างๆ ตากแดด ตากฝน ล้อแม็กซ์จึงต้องทนต่อสภาพภูมิอากาศด้วย
จริงๆแล้วอายุการใช้งานของล้อแม็กซ์มีระยะเวลานานแค่ไหน ?
ถ้าถามกันจริงแล้วล้อแม็กซ์มีอายุการใช้งานจนกว่ารถคันนั้นจะพังไป แต่ถ้าหากนับเป็นปีแล้วคิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 30 ปี หลายคนคงจะเห็นว่ารถรุ่นเก่าๆ ก็ยังสามารถคงรักษาสภาพล้อแม็กซ์ได้เหมือนตอนที่ออกมาในครั้งแรก ถ้าหากเราดูแลรักษาหรือไม่เกิดอุบัติเหตุใดอยู่ได้นานมาก
ผู้บริโภคควรทำอย่างไรในการเลือกซื้อล้อแม็กซ์ ?
ถ้าเป็นไปได้อย่างแรกผู้บริโภคควรจะศึกษายี่ห้อของล้อแม็กซ์ก่อนว่า บริษัทผลิตล้อแม็กซ์นั้นๆเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานหรือไม่ แต่ถ้าหากเป็นล้อแม็กซ์นำเข้าก็คงจะยากในการตรวจสอบ ก็ควรจะดูที่ตัวล้อแม็กซ์เองว่ามาเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน มีเครื่องหมายการรับรองมาตรฐานอะไรหรือไม่ ตัวแทนจำหน่ายมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
สุดท้ายอยากให้ทางภาครัฐทำอย่างไรตอนนี้เพื่อผู้บริโภคและผู้ผลิตเอง ?
ถึงตอนนี้แล้วก็อยากให้ทางภาครัฐมีการควบคุมในเรื่องของคุณภาพของล้อแม็กซ์ มีการตรวจสอบโดย มอก. มาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมาสินค้าล้อแม็กซ์ไม่ได้มีการควบคุมเรื่องของคุณภาพเลย ทั้งที่เป็นสินค้าที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้บริโภค อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของล้อแม็กซ์นำเข้าที่หลีกเลี่ยงภาษีเข้ามาจำหน่ายในราคาถูก เพราะเท่าที่ได้ออกไปสำรวจตลาดมามีจำนวนไม่น้อยในตลาด ซึ่งตรงนี้ทางรัฐเองก็ต้องสูญเสียรายได้จากภาษีไปเป็นจำนวนไม่น้อย