เบนซินหรือแก๊สโซลีน 90% ผสมกับเอธิลแอลกอฮอล์ 10% กลายเป็นแก๊สโซฮอล์แบบ อี10 ยังเกือบล้มเหลวกับการชักชวนให้ประชาชนใช้ ขายดีเพราะราคาถูกกว่าเบนซิน 95 เป็นสำคัญ สมมุติถ้าราคาพอกันก็คงแทบขายไม่ได้ เพราะมีน้อยคนมากที่ใช้เพราะเต็มใจและเข้าใจถึงคุณสมบัติ
แค่อี10 ยังถือว่าล้มเหลวในการรณรงค์ แต่ข้ามช็อตไปแล้ว ไทยกำลังจะมี อี20 ผสมเอธิลแอลกอฮอล์เพิ่มเป็น 20% มีทั้งรถที่ใช้ได้และมีน้ำมันขาย ความเป็นมาเป็นไปเป็นเช่นไร และอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
++ทำไม อี10 ร่อแร่หรือเกือบล้มเหลว++
เพราะขาดความจริงจังและจริงใจในการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งหน่วยงานราชการ ผู้จำหน่ายน้ำมัน บริษัทรถ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คนทั่วไปมีคำถามง่ายๆ ว่า ใช้แล้วเครื่องยนต์จะพังไหม กินน้ำมันมากขึ้นหรือเปล่า เร่งไม่ออกใช่ไหม หรือไม่พังในระยะสั้น ในระยะยาวก็แย่ใช่หรือเปล่า ไม่มีคำตอบที่จริงจังและจริงใจจากฝ่ายใดๆ มีเพียงบอกลอยๆ ว่าใช้ได้ก็ใช้ไปเถอะ

ยอดขาย อี10 ที่มีมากในปัจจุบัน มีผลสำเร็จโดยตรงมาจากการตรึงราคาไว้ให้ต่ำกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถึงลิตรละ 1.5 บาท กำลังซื้อส่วนน้อยมากที่เกิดจากความเข้าใจแท้จริงว่า สามารถใช้ทดแทนกันได้ เพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้ หรือซื้อเพื่อช่วยให้วงจรนี้เติบโตได้ อยากสนับสนุนเนื่องจากเอธิลแอลกอฮอล์ที่นำมาผสมผลิตจากพืชผลทางการเกษตรที่คนไทยปลูกได้เอง ยอดขายแก๊สโซฮอล์ อี10 ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจากราคาที่ถูกกว่าเป็นสิ่งชักชวนให้เติม ถ้าปรับราคาขึ้นให้เท่ากันหรือถูกเบนซิน 95 ลิตรละไม่ถึง 1 บาท ก็แน่นอนว่ายอดขายจะลดลง
ผลที่เกิดขึ้นอย่างนี้ ต้องนับเป็นความล้มเหลวของทางราชการหรือใครที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่สามารถทำให้ประชาชนเข้าใจถึงคุณสมบัติที่แท้จริงและเต็มใจใช้ เพราะเห็นผลดีด้านอื่น เช่น การลดมลพิษในไอเสีย หรือการลดการขาดดุลจากการนำเข้าน้ำมันดิบ
ความล้มเหลวนี้ น่าจะถูกมองข้ามจนกลายเป็นการหลอกตัวเองของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะมุ่งแต่ดูยอดขายของแก๊สโซฮอล์ว่าเพิ่มขึ้นจนโรงงานเอธิลแอลกอฮอล์ผลิตไม่ทัน จึงเป็นเหตุให้การรณรงค์และการให้ความรู้แก่ประชาชนให้เข้าใจจริงขาดความจริงจังและต่อเนื่อง ยังมีผู้ใช้รถยนต์อีกนับล้านคนไม่กล้าเติมแก๊สโซฮอล์ เพราะคิดว่าใช้แล้วเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหา โทรม หรือถึงขั้นพังได้ ไม่พังระยะสั้นก็พังในระยะยาว
ปัญหาที่คนไม่กล้าใช้ ถูกมองข้ามไปแน่ๆ เพราะปัจจุบันนี้ขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน และในอนาคตก็ใช้วิธีบังคับ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป จะไม่มีน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ขายในประเทศไทย จะมีแต่แก๊สโซฮอล์ 95 และเบนซิน 91 และในอีกไม่นานถัดไปก็จะยกเลิกเบนซิน 91 มีแต่แก๊สโซฮอล์ 91 กับ 95 เท่านั้น ใครที่ไม่เข้าใจ ไม่ต้องการใช้ หรือไม่เต็มใจใช้ ยังไงก็ต้องถูกบังคับให้ใช้ในอีกไม่นาน
การที่มีกลุ่มคนที่ไม่เต็มใจหรือไม่ต้องการใช้แก๊สโซฮอล์ในสังคม เพราะขาดความรู้ที่แท้จริง และรัฐบาลหรือราชการไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องถูกบังคับใช้ นับเป็นการสกัดกั้นการพัฒนาเพิ่มการใช้เปอร์เซ็นต์ที่จะผสมเอธิลแอลกอฮอล์ลงไปในน้ำมันเบนซินมากขึ้นเป็น อี15 อี20 อี30 หรือมากกว่านั้น
++อี20 เงียบเกือบสนิท++
กลางปี 2004 มีการเปลี่ยนแปลงลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ที่ใช้ อี20 ได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่โรงงานผลิตโดยไม่ต้องดัดแปลง ซึ่งน่าจะทำให้มีราคาขายรถยนต์ไม่แพงและขายได้ง่าย
ผ่านมา 1 ปีแล้วยังไม่มีการขยับตัวของบริษัทรถยนต์ แม้แต่รถยนต์ที่สามารถใช้ อี10 ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ยังไม่มีบริษัทรถยนต์รายใดทำ มีแต่เครื่องยนต์ที่เกิดมาเพื่อใช้แก๊สโซลีน และสามารถใช้กับอี10 แล้วเพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้และไม่เกิดปัญหา แต่ไม่มีรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่ออี10 โดยเฉพาะ และใช้กับแก๊สโซลีนแล้วเพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้ ขนาดแค่ อี10 ยังไม่มีรายใดเดินหน้าเต็มตัวแล้ว อี20 คงยากจะหวังว่าจะมีการขยับตัวในระยะเวลาอันใกล้
ราชการเอื้อประโยชน์โดยการลดภาษีบางส่วน แต่บริษัทรถยนต์ก็นิ่ง อีกทั้งผู้ผลิตน้ำมันก็นิ่ง เพราะผลิตออกมาก็ไม่มีใครซื้อ การผสมอี20 ก็ไม่ง่ายเหมือนอี20 ต้องการการคลุกเคล้ามากขึ้น บางกรณีอาจต้องมีตัวช่วยอื่นเป็นตัวกลาง
ในช่วงที่ผ่านมา มีเพียงการประกาศของบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่เท่านั้นว่า รถยนต์รุ่นใดปีใดใช้แก๊สโซฮอล์ อี10 ได้ แต่ไม่บอกถึงรุ่นที่ใช้ไม่ได้ว่า ถ้าอยากใช้หรือจำเป็นต้องใช้ในอีกไม่นาน จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร

++ฟอร์ด กับ อี20++
ตัดหน้าหลายบริษัทรถยนต์ โดยจัดงานแถลงข่าว ฟอร์ดประกาศพร้อมนำเทคโนโลยีแก๊สโซฮอล์ vu20 สนับสนุนนโยบายรัฐ โดยมีภาพและเอกสาร โดยยังไม่มีรถยนต์คันจริงในงานฯ อธิบายได้ว่าฟอร์ดได้ผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลาย (FFV-FLEXIBLE FUEL VEHICLE) ขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 1 ล้านคัน หมายถึงรถแต่ละคันสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอธิลแอลกอฮอล์ในหลายอัตราส่วนได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนใดๆ เลย
ฟอร์ด เอสเคป รุ่นปัจจุบันสามารถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อี10 ได้เป็นปกติ จะสลับหรือผสมกันเติมอย่างไรก็ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ดได้จัดทดลองขับรถยนต์เอสเคปที่ใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ที่มีบางจากผสมให้ ที่สนามพีระเซอร์กิต พัทยา โดยมีผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และสถาบันยานยนต์ไทยเข้ารวมการทดสอบ โดยทุกฝ่ายล้วนพึงพอใจกับผลของการทดสอบที๋เป็นไปอย่างราบรื่นว่า ทั้งตัวรถยนต์และน้ำมันสามารถใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าฟอร์ด จะนำเข้าเอสเคปรุ่นที่สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ได้ หรือจะใช้อี10 รวมถึงเบนซินทั่วไปก็ได้ โดยระบบจะมีการอ่านและปรับตัวเองให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยน่าจะมีผู้ผลิตน้ำมันอย่างบางจาก เริ่มต้นผลิตอี20 ออกจำหน่ายตามปั้มทั่วไปรองกับกับรถยนต์ที่ออกขายด้วย
++อนาคต อี10 อี20 ในไทย++
แม้การเพิ่มขึ้นของการใช้อี10 มีอย่างต่อเนื่อง แต่น่าแปลกว่ายังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดออกมาระบุว่า โปรแกรมควบคุมเครื่องยนต์ของรถยนต์ของตนเอง ถูกปรับตั้งมาให้ใช้แก๊สโซฮอล์ได้สมบูรณ์ ไม่ใช่ใช้กับเบนซินได้ดี แต่ใช้กับแก๊สโซฮอล์แล้วพอใช้ได้หรือเพี้ยนแบบยอมรับได้
ช่วงใกล้สิ้นปี 2549 ก็น่าจะมีความเคลื่อนไหวของบริษัทรถยนต์มากกว่านี้ ในการประกาศออกมาและผลิตรถยนต์ของตนเองให้ใช้แก๊สโซฮอล์ได้อย่างสมบูรณ์ โปรแกรมและระบบต่างๆ ทำออกมารองรับไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะ 1 มกราคม 2550 จะมีแต่แก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 91 และอีกไม่นานแก๊สโซฮอล์ 91 ก็จะมาแทนเบนซิน 91 ตามการบังคับของกฎหมายใหม่
ส่วนอี20 ตัวน้ำมันน่าจะเริ่มมีขายตั้งแต่ปลายปีนี้ประปราย และเพิ่มขึ้นอย่างช้ามาก ทั้งปั้มที่มีขายและรุ่นรถยนต์ไปจนถึงในปี 2550 ถึงจะเริ่มแพร่หลายขึ้น แต่ก็เพิ่มจำนวนทั้งปั้มและรถยนต์ อี20 ทีละน้อย คาดว่าในปี 2550 จะมีรถยนต์ที่ใช้อี20 ได้จากโรงงานไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์เครื่องเบนซินทั้งหมดที่ขายออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน
บทความนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวของการใช้แก๊สโซฮอล์ในระดับสูงกว่า อี10 ให้ทราบเท่านั้นว่า รัฐออกกฎหมายลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประเภทนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ทุกฝ่ายเงียบงัน มีเพียงฟอร์ดเท่านั้นที่จัดแถลงว่าพร้อม มีรถยนต์เคยมาทดสอบในไทยแล้ว มีรถยนต์ประเภทนี้ขายทั่วโลกแล้วกว่า 1 ล้านคัน แม้รายงานทั้งหมดเป็นแค่กระดาษ เพราะตัวรถยนต์จริงรุ่นเอสเคปที่ทำมาสำหรับอี20 จะเริ่มขายปลายปี แต่ก็ยังดีกว่าหลายบริษัทรถยนต์ที่ขนาดอี10 ยังอ้ำๆ อึ้งๆ เลยว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ดังนั้นกับอี20 ก็จึงเดาได้ว่ากว่าจะคึกคักคงอีกนาน
พลังงานทดแทน มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ แต่ต้องเรียนรู้ทั้งแง่บวกและลบโดยปราศจากอคติ เบนซินหรือแก๊สโซลีน 90% ผสมกับเอธิลแอลกฮอล์ 10% กลายเป็นแก๊สโซฮอล์แบบ อี10 ยังเกือบล้มเหลวกับการชักชวนให้ประชาชนใช้ ขายดีเพราะราคาถูกกว่าเบนซิน 95 เป็นสำคัญ สมมุติถ้าราคาพอกันก็คงแทบขายไม่ได้ เพราะมีน้อยคนมากที่ใช้เพราะเต็มใจและเข้าใจถึงคุณสมบัติ
แค่อี10 ยังถือว่าล้มเหลวในการรณรงค์ แต่ข้ามช็อตไปแล้ว ไทยกำลังจะมี อี20 ผสมเอธิลแอลกอฮอล์เพิ่มเป็น 20% มีทั้งรถที่ใช้ได้และมีน้ำมันขาย
แค่อี10 ยังถือว่าล้มเหลวในการรณรงค์ แต่ข้ามช็อตไปแล้ว ไทยกำลังจะมี อี20 ผสมเอธิลแอลกอฮอล์เพิ่มเป็น 20% มีทั้งรถที่ใช้ได้และมีน้ำมันขาย ความเป็นมาเป็นไปเป็นเช่นไร และอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
++ทำไม อี10 ร่อแร่หรือเกือบล้มเหลว++
เพราะขาดความจริงจังและจริงใจในการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งหน่วยงานราชการ ผู้จำหน่ายน้ำมัน บริษัทรถ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คนทั่วไปมีคำถามง่ายๆ ว่า ใช้แล้วเครื่องยนต์จะพังไหม กินน้ำมันมากขึ้นหรือเปล่า เร่งไม่ออกใช่ไหม หรือไม่พังในระยะสั้น ในระยะยาวก็แย่ใช่หรือเปล่า ไม่มีคำตอบที่จริงจังและจริงใจจากฝ่ายใดๆ มีเพียงบอกลอยๆ ว่าใช้ได้ก็ใช้ไปเถอะ
ยอดขาย อี10 ที่มีมากในปัจจุบัน มีผลสำเร็จโดยตรงมาจากการตรึงราคาไว้ให้ต่ำกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถึงลิตรละ 1.5 บาท กำลังซื้อส่วนน้อยมากที่เกิดจากความเข้าใจแท้จริงว่า สามารถใช้ทดแทนกันได้ เพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้ หรือซื้อเพื่อช่วยให้วงจรนี้เติบโตได้ อยากสนับสนุนเนื่องจากเอธิลแอลกอฮอล์ที่นำมาผสมผลิตจากพืชผลทางการเกษตรที่คนไทยปลูกได้เอง ยอดขายแก๊สโซฮอล์ อี10 ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจากราคาที่ถูกกว่าเป็นสิ่งชักชวนให้เติม ถ้าปรับราคาขึ้นให้เท่ากันหรือถูกเบนซิน 95 ลิตรละไม่ถึง 1 บาท ก็แน่นอนว่ายอดขายจะลดลง
ผลที่เกิดขึ้นอย่างนี้ ต้องนับเป็นความล้มเหลวของทางราชการหรือใครที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่สามารถทำให้ประชาชนเข้าใจถึงคุณสมบัติที่แท้จริงและเต็มใจใช้ เพราะเห็นผลดีด้านอื่น เช่น การลดมลพิษในไอเสีย หรือการลดการขาดดุลจากการนำเข้าน้ำมันดิบ
ความล้มเหลวนี้ น่าจะถูกมองข้ามจนกลายเป็นการหลอกตัวเองของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะมุ่งแต่ดูยอดขายของแก๊สโซฮอล์ว่าเพิ่มขึ้นจนโรงงานเอธิลแอลกอฮอล์ผลิตไม่ทัน จึงเป็นเหตุให้การรณรงค์และการให้ความรู้แก่ประชาชนให้เข้าใจจริงขาดความจริงจังและต่อเนื่อง ยังมีผู้ใช้รถยนต์อีกนับล้านคนไม่กล้าเติมแก๊สโซฮอล์ เพราะคิดว่าใช้แล้วเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหา โทรม หรือถึงขั้นพังได้ ไม่พังระยะสั้นก็พังในระยะยาว
ปัญหาที่คนไม่กล้าใช้ ถูกมองข้ามไปแน่ๆ เพราะปัจจุบันนี้ขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน และในอนาคตก็ใช้วิธีบังคับ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป จะไม่มีน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ขายในประเทศไทย จะมีแต่แก๊สโซฮอล์ 95 และเบนซิน 91 และในอีกไม่นานถัดไปก็จะยกเลิกเบนซิน 91 มีแต่แก๊สโซฮอล์ 91 กับ 95 เท่านั้น ใครที่ไม่เข้าใจ ไม่ต้องการใช้ หรือไม่เต็มใจใช้ ยังไงก็ต้องถูกบังคับให้ใช้ในอีกไม่นาน
การที่มีกลุ่มคนที่ไม่เต็มใจหรือไม่ต้องการใช้แก๊สโซฮอล์ในสังคม เพราะขาดความรู้ที่แท้จริง และรัฐบาลหรือราชการไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องถูกบังคับใช้ นับเป็นการสกัดกั้นการพัฒนาเพิ่มการใช้เปอร์เซ็นต์ที่จะผสมเอธิลแอลกอฮอล์ลงไปในน้ำมันเบนซินมากขึ้นเป็น อี15 อี20 อี30 หรือมากกว่านั้น
++อี20 เงียบเกือบสนิท++
กลางปี 2004 มีการเปลี่ยนแปลงลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ที่ใช้ อี20 ได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่โรงงานผลิตโดยไม่ต้องดัดแปลง ซึ่งน่าจะทำให้มีราคาขายรถยนต์ไม่แพงและขายได้ง่าย
ผ่านมา 1 ปีแล้วยังไม่มีการขยับตัวของบริษัทรถยนต์ แม้แต่รถยนต์ที่สามารถใช้ อี10 ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ยังไม่มีบริษัทรถยนต์รายใดทำ มีแต่เครื่องยนต์ที่เกิดมาเพื่อใช้แก๊สโซลีน และสามารถใช้กับอี10 แล้วเพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้และไม่เกิดปัญหา แต่ไม่มีรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่ออี10 โดยเฉพาะ และใช้กับแก๊สโซลีนแล้วเพี้ยนบ้างแบบยอมรับได้ ขนาดแค่ อี10 ยังไม่มีรายใดเดินหน้าเต็มตัวแล้ว อี20 คงยากจะหวังว่าจะมีการขยับตัวในระยะเวลาอันใกล้
ราชการเอื้อประโยชน์โดยการลดภาษีบางส่วน แต่บริษัทรถยนต์ก็นิ่ง อีกทั้งผู้ผลิตน้ำมันก็นิ่ง เพราะผลิตออกมาก็ไม่มีใครซื้อ การผสมอี20 ก็ไม่ง่ายเหมือนอี20 ต้องการการคลุกเคล้ามากขึ้น บางกรณีอาจต้องมีตัวช่วยอื่นเป็นตัวกลาง
ในช่วงที่ผ่านมา มีเพียงการประกาศของบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่เท่านั้นว่า รถยนต์รุ่นใดปีใดใช้แก๊สโซฮอล์ อี10 ได้ แต่ไม่บอกถึงรุ่นที่ใช้ไม่ได้ว่า ถ้าอยากใช้หรือจำเป็นต้องใช้ในอีกไม่นาน จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
++ฟอร์ด กับ อี20++
ตัดหน้าหลายบริษัทรถยนต์ โดยจัดงานแถลงข่าว ฟอร์ดประกาศพร้อมนำเทคโนโลยีแก๊สโซฮอล์ vu20 สนับสนุนนโยบายรัฐ โดยมีภาพและเอกสาร โดยยังไม่มีรถยนต์คันจริงในงานฯ อธิบายได้ว่าฟอร์ดได้ผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลาย (FFV-FLEXIBLE FUEL VEHICLE) ขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 1 ล้านคัน หมายถึงรถแต่ละคันสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอธิลแอลกอฮอล์ในหลายอัตราส่วนได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนใดๆ เลย
ฟอร์ด เอสเคป รุ่นปัจจุบันสามารถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ อี10 ได้เป็นปกติ จะสลับหรือผสมกันเติมอย่างไรก็ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ดได้จัดทดลองขับรถยนต์เอสเคปที่ใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ที่มีบางจากผสมให้ ที่สนามพีระเซอร์กิต พัทยา โดยมีผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และสถาบันยานยนต์ไทยเข้ารวมการทดสอบ โดยทุกฝ่ายล้วนพึงพอใจกับผลของการทดสอบที๋เป็นไปอย่างราบรื่นว่า ทั้งตัวรถยนต์และน้ำมันสามารถใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าฟอร์ด จะนำเข้าเอสเคปรุ่นที่สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ได้ หรือจะใช้อี10 รวมถึงเบนซินทั่วไปก็ได้ โดยระบบจะมีการอ่านและปรับตัวเองให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยน่าจะมีผู้ผลิตน้ำมันอย่างบางจาก เริ่มต้นผลิตอี20 ออกจำหน่ายตามปั้มทั่วไปรองกับกับรถยนต์ที่ออกขายด้วย
++อนาคต อี10 อี20 ในไทย++
แม้การเพิ่มขึ้นของการใช้อี10 มีอย่างต่อเนื่อง แต่น่าแปลกว่ายังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดออกมาระบุว่า โปรแกรมควบคุมเครื่องยนต์ของรถยนต์ของตนเอง ถูกปรับตั้งมาให้ใช้แก๊สโซฮอล์ได้สมบูรณ์ ไม่ใช่ใช้กับเบนซินได้ดี แต่ใช้กับแก๊สโซฮอล์แล้วพอใช้ได้หรือเพี้ยนแบบยอมรับได้
ช่วงใกล้สิ้นปี 2549 ก็น่าจะมีความเคลื่อนไหวของบริษัทรถยนต์มากกว่านี้ ในการประกาศออกมาและผลิตรถยนต์ของตนเองให้ใช้แก๊สโซฮอล์ได้อย่างสมบูรณ์ โปรแกรมและระบบต่างๆ ทำออกมารองรับไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะ 1 มกราคม 2550 จะมีแต่แก๊สโซฮอล์ 95 กับเบนซิน 91 และอีกไม่นานแก๊สโซฮอล์ 91 ก็จะมาแทนเบนซิน 91 ตามการบังคับของกฎหมายใหม่
ส่วนอี20 ตัวน้ำมันน่าจะเริ่มมีขายตั้งแต่ปลายปีนี้ประปราย และเพิ่มขึ้นอย่างช้ามาก ทั้งปั้มที่มีขายและรุ่นรถยนต์ไปจนถึงในปี 2550 ถึงจะเริ่มแพร่หลายขึ้น แต่ก็เพิ่มจำนวนทั้งปั้มและรถยนต์ อี20 ทีละน้อย คาดว่าในปี 2550 จะมีรถยนต์ที่ใช้อี20 ได้จากโรงงานไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์เครื่องเบนซินทั้งหมดที่ขายออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน
บทความนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวของการใช้แก๊สโซฮอล์ในระดับสูงกว่า อี10 ให้ทราบเท่านั้นว่า รัฐออกกฎหมายลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประเภทนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ทุกฝ่ายเงียบงัน มีเพียงฟอร์ดเท่านั้นที่จัดแถลงว่าพร้อม มีรถยนต์เคยมาทดสอบในไทยแล้ว มีรถยนต์ประเภทนี้ขายทั่วโลกแล้วกว่า 1 ล้านคัน แม้รายงานทั้งหมดเป็นแค่กระดาษ เพราะตัวรถยนต์จริงรุ่นเอสเคปที่ทำมาสำหรับอี20 จะเริ่มขายปลายปี แต่ก็ยังดีกว่าหลายบริษัทรถยนต์ที่ขนาดอี10 ยังอ้ำๆ อึ้งๆ เลยว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ดังนั้นกับอี20 ก็จึงเดาได้ว่ากว่าจะคึกคักคงอีกนาน
พลังงานทดแทน มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ แต่ต้องเรียนรู้ทั้งแง่บวกและลบโดยปราศจากอคติ เบนซินหรือแก๊สโซลีน 90% ผสมกับเอธิลแอลกฮอล์ 10% กลายเป็นแก๊สโซฮอล์แบบ อี10 ยังเกือบล้มเหลวกับการชักชวนให้ประชาชนใช้ ขายดีเพราะราคาถูกกว่าเบนซิน 95 เป็นสำคัญ สมมุติถ้าราคาพอกันก็คงแทบขายไม่ได้ เพราะมีน้อยคนมากที่ใช้เพราะเต็มใจและเข้าใจถึงคุณสมบัติ
แค่อี10 ยังถือว่าล้มเหลวในการรณรงค์ แต่ข้ามช็อตไปแล้ว ไทยกำลังจะมี อี20 ผสมเอธิลแอลกอฮอล์เพิ่มเป็น 20% มีทั้งรถที่ใช้ได้และมีน้ำมันขาย