กิจกรรม "Racing Truck Evolution Track Days" ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้จัดขึ้นตามนโยบายการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นจุดยืนหนึ่งเดียวของมิตซูบิชิทั่วโลก ที่ สนามบ้านบึง สปีด คอร์ส บ้านบึง ชลบุรี ทาง ผู้จัดการมอเตอริ่ง ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 นักแข่งแรลลี่ โลก ถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาสำหรับการแข่งขันในทะเลทราย รวมถึงประวัติส่วนตัวที่น่าสนใจของ 2 นักแข่ง ขอเริ่มจาก
ฌ็องปีแยร์ ฟงเตอเน่ (Jean-Pierre Fontenay )
สัญชาติ: ฝรั่งเศส
สถานภาพ : สมรสแล้ว
วันเกิด : วันที่ 24 กรกฎาคม 1957
ตำแหน่ง : Test Driver of MMSP SAS
ฌ็องปีแยร์ ฟงเตอเน่ สั่งสมประสบการณ์มากมายในฐานะช่างเทคนิคที่ Sonauto-RALLIART และได้ทดสอบสมรรถนะของรถ Mitsubishi Pajero ที่ใช้ในการแข่งขัน Dakar Rally ทุกรุ่นก่อนการแข่งขัน ในที่สุดเมื่อปี 1982 เขาก็ได้เริ่มต้นอาชีพการเป็นนักแข่งแรลลี่และได้เข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่ทางวิบากมากมายตั้งแต่นั้นมา
ฌ็องปีแยร์ ฟงเตอเน่ จากช่างเทคนิคผู้มากประสบการณ์สู่นักแข่งผู้คว้าชัยชนะจาก Dakar มานับไม่ถ้วนจากสายงานด้านช่างเทคนิคก้าวสู่การเป็นนักขับในทีมรถช่วยเหลือและเลื่อนขั้นมาถึงนักทดสอบขับรถของทีมโรงงาน ( Factory pilot) มิตซูบิชิ
จากประสบการณ์ตรงนี้ทำให้ ฌ็องปีแยร์ ได้สัมผัสกับยานยนต์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดของรถแข่งแรลลี่ มิตซูบิชิ ปาเจโร ทุกรุ่นในการทดสอบบนทุกสภาพถนนตลอด 12 ปี จนมาถึงวันที่ ฌ็องปีแยร์ เข้าร่วมแข่งขันในรายการดาการ์ แรลลี่ ปี 1983 ในฐานะนักขับร่วม (co-driver)
ความสำเร็จครั้งแรกของ ฌ็องปีแยร์ เกิดขึ้นเมื่ออายุ 32 ปี ในการเข้าร่วมกลุ่มนักทดสอบขับรถของทีมโรงงานในปี 1990 และได้พิสูจน์ความสามารถอันโดดเด่นของเขาท่ามกลางสายตาของทุกคนอย่างชัดเจน โดย ฌ็องปีแยร์ เป็นนักขับหน้าใหม่ที่สามารถสร้างความกดดันให้กับ อาริ วาตาเน่ (Ari Vatanen ) นักแข่งคนดังของการแข่งขันรายการดาการ์ แรลลี่ได้อย่างน่าประทับใจ และในโอกาสนั้น ฌ็องปีแยร์ ก็ก้าวสู่ตำแหน่งนักแข่งของทีมโรงงานตั้งแต่ปี 1993 และตำนานของแชมเปี้ยนก็เริ่มขึ้นด้วยการสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันถึง 5 รายการติดต่อกันในประเภท T2 ของซีรี่ส์ FIA Cross-Country World Cup
ฌ็องปีแยร์ ฟงเตอเน่ ได้สั่งสมประสบการณ์จากสนามแข่งระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนว่าการแข่งขันที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับฌ็องปีแยร์ ได้มากที่สุด คือการข้ามผ่านความท้าทายในการแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ ที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลา 16 ปี โดยจุดสูงสุดของอาชีพของเขาก็คือชัยชนะประเภทเวลารวม(overall) ในการแข่งขัน ปารีส –กรานาดา-ดาการ์ แรลลี่ ปี 1998 และต่อเนื่องมาในปี 2000 ฌ็องปีแยร์ ซึ่งกลายเป็นแชมเปี้ยนผู้โด่งดังก็สามารถทะยานเข้าเส้นชัยอีกครั้งเป็นอันดับ 3 ในการแข่งขัน ปารีส- ดาการ์-ไคโร แรลลี่ และคว้าอันดับที่ 3 ของการแข่งขัน โมรอคโค แรลลี่ รวมถึงการคว้าอันดับที่ 4 ในประเภทเวลารวม (overall) ของการแข่งขัน ยูเออี เดสเซิร์ต ชาล์เลนจ์ ( UAE Desert Challenge) นั่นคือชัยชนะที่ ฌ็องปีแยร์ สามารถคว้ามาได้มากมายในปีนั้นเพียงปีเดียว
จนมาถึงปี 2002 ในรายการ ดาการ์ แรลลี่ ครั้งที่ 24th ฌ็องปีแยร์ ก็ไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวังด้วยการควบรถแข่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร / มอนเตโร เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ในประเภทเวลารวม และอันดับที่ 3 ในประเภทเวลารวม (overall) ของการแข่งขัน อิตาเลี่ยน บาจา และตำแหน่งรองชนะเลิศในการแข่งขัน ยูเออี เดสเซิร์ต ชาล์เลนจ์ สำหรับในปี 2003 เป็นปีที่น่าจดจำของ ฌ็องปีแยร์ กับการแข่งขันในรายการ ดาการ์ แรลลี่ซึ่งเริ่ม สตาร์ทจากเมือง Marseille ในประเทศฝรั่งเศสและไปสิ้นสุดที่เมือง Sharm El Sheikh ในประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในสนามสุดท้ายที่ ฌ็องปีแยร์ สามารถคว้าอันดับที่ 2 ในประเภท overall มาได้ก่อนที่จะยุติการใช้ชีวิตในฉากหน้าในฐานะนักแข่งและผันมาสู่การใช้ชีวิตในฉากหลังในฐานะ Test Driver of MMSP SAS ของทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เรปซอย เอทีเอส สตูดิโอในปัจจุบัน
ฮิโรชิ มาสุโอกะ ( Hiroshi Masuoka)
สัญชาติ : ญี่ปุ่น
สถานภาพ:สมรสแล้ว
วันเกิด :มีนาคม 1960
ตำแหน่ง : Driver
ฮิโรชิ มาสุโอกะ เริ่มเข้าสู่การแข่งขันในปี 1979 ในสนามออฟโรด แต่อีก 11 ปีต่อมา ชื่อ ฮิโรชิ มาสุโอกะ กลับกลายเป็นที่รู้จักกันดีในสนามแข่งขัน “ดาการ์ แรลลี่” เมื่อเขาสามารถคว้าชัยเป็นครั้งแรกในปี 1990 และคว้าแชมป์ ดาการ์ แรลลี่ ปี 2002-0-2003 และแชมป์ ยูเออี เดสเซิร์ต ชาล์เลนจ์
ฮิโรชิ มาสุโอกะ เริ่มเข้าสู่การแข่งขันครั้งแรกในประเภทออฟโรดในปี 1979 และเข้าแข่งขันรายการ ดาการ์ แรลลี่ เป็นครั้งแรกในปี 1987 หลังจากนั้นในปี 1990 เขาสามารถคว้าชัยชนะโดยเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในประเภท T2 และอันดับที่ 10ในประเภทเวลารวม (overall) และในอีก4ปีต่อมา เขาก็คว้าอันดับที่ 4 ในประเภทเวลารวม (overall)
นอกจากนี้ ระหว่างปี 1995-2000 ฮิโรชิ มาสุโอกะ สามารถรักษาระดับผลการแข่งขันได้อย่างน่าพอใจ โดยติดอันดับ 10 คนแรกที่เข้าเส้นชัยถึง 6 ครั้ง ซึ่งผลการแข่งขันที่โดดเด่น คือ การได้อันดับที่ 4 ติดต่อกันในปี 1997-1998 และในปี 2002 นับเป็นช่วงเวลาแห่งชัยชนะ เมื่อเขาเป็นนักขับคนที่สองที่ชนะดาการ์ แรลลี่ร่วมกับทีมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ในปี 2003 ฮิโรชิ มาสุโอกะ สามารถคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในการแข่งขัน บาจา อิตาลี ( Baja Italy ) และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับสองรองจาก สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล เพื่อนร่วมทีมในปี 2004 รวมถึงการคว้าชัยชนะในการแข่งขันยูเออี เดสเซิร์ต ชาล์เลนจ์ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้เข้าร่วมแข่งในรายการนี้ ถึง 6 ครั้ง
2 นักแข่งให้แง่คิดเกี่ยวกับการแข่งรถ
คุณสมบัติของการเป็นนักแข่ง?
นักแข่งที่ดีต้องรู้จักทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะการแข่งรายการ ดาการ์ แรลลี่ เพราะทุกคนมีความสำคัญหมดไม่ว่าจะเป็นคนขับ ช่างเทคนิค เนวิเกเตอร์ รถช่วยเหลือ ทุกคนต้องทำงานช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ขัดแย้ง ไม่โทษกันเวลาเกิดความผิดพลาดขึ้นมา นักขับมีหน้าที่ขับอย่างเดียว และต้องเชื่อคนบอกทาง ไม่ควรสงสัยในตัวเนวิเกเตอร์
ตอนที่จะแข่งและหลังแข่ง นักแข่งต้องทำอะไร?
ต้องมีการเตรียมตัวเกือบทั้งปีก่อนจะแข่ง ดาการ์ แรลลี่ และต้องทำการทดสอบรถประมาณ 20,000 กิโลเมตร และการทดสอบอย่างหนักนี้เองที่ทำให้ทีมมิตซูบิชิชนะในหลายรายการ
ตอนแข่งขันถือว่ายากกว่าตอนเตรียมตัว เพราะมันจะมีความกดดันแยะมาก มีนักแข่งเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก นักแข่งจะตื่นเต้น ที่สำคัญการแข่งขันรายการนี้ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียว เราทำงานทั้งปีเพื่อการแข่งขันในวันนั้น และเป็นการแข่งขันที่ยาวนานถึง 2 อาทิตย์ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ ถ้าเราล้มเหลวเราก็ต้องรออีกหนึ่งปี
หลังจบการแข่งขันในแต่ละวันก็ต้องมีการวางแผนกันใหม่ และทุกวันก็ต้องมารอลุ้นว่ารถเซอร์วิสจะมาถึงในตอนเย็นหรือไม่ บางที่รถเซอร์วิสหลงทางก็วุ่นวายพอสมควร เพราะจะต้องมาซ่อมรถ ดูความพร้อมของรถ ขณะที่นักแข่งกับเนวิเกเตอร์ก็ต้องมาวางแผนสำหรับวันรุ่งขึ้น
มีแข่งมาหลายครั้งเคยออกจากการแข่งขันก่อนหรือไม่?
ฮิโรชิ มาสุโอกะ บอกว่า เคยออกนอกการแข่งขัน 3 ครั้ง ที่ผ่านมาแข่ง 18 ครั้ง เขาถึงเส้นชัย 15 ครั้ง อีก 3 ครั้ง ออกนอกสนามไปก่อน สำหรับการแข่งขันรายการ ดาการ์ แรลลี่ จะมีนักแข่งที่เข้าเส้นชัยประมาณ 50 คัน จากนักแข่งที่เข้ารายการนี้ประมาณ 300 กว่าคัน
มาสุโอกะ เพิ่มเติมว่าเขาเริ่มแข่งตอนอายุ 18 ปี แต่มาแข่งรายการ ดาการ์ แรลลี่ ตอนอายุ 27 ปี ตอนนี้อายุ 45 ปี เขาบอกว่ายังแข็งแรงดีอยู่ และอยากจะแข่งรถต่อไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่แล้วนักแข่งจะเลิกตอนอายุ 50 ปีสำหรับเขายังเหลือเวลาอีก 5 ปี สายตาเป็นเรื่องสำคัญมากและเขายังสามารถมองไปได้ไกลถึง 1-2 กิโลเมตร หลังจากอายุ 50ปีขึ้นไป สายตาจะเสื่อมลง
คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจจะเป็นนักแข่ง?
มันต้องใช้เวลา ไม่มีนักขับหน้าใหม่ที่ไปครั้งแรกแล้วชนะเลย ถ้าแข่งครั้งแรกขอให้ไปถึงเส้นชัยก่อนไม่ต้องพะวงว่าจะได้ที่เท่าไร และไปอย่างสบายๆ ขับไม่ต้องเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร เราต้องออมกำลังไว้ เพราะไม่ได้แข่งวันเดียวจบ นักแข่งบางคนบ้าเลือด รถเกิดอุบัติเหตุ ก็ต้องออกจากการแข่งขัน ที่สำคัญ การแข่งขันรายการ ดาการ์ แรลลี่ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสนามเป็นอย่างไร และควรจะไปซ้อมที่ไหน เพราะมันแข่งในทะเลทราย เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ดังนั้นในเวลาดังกล่าวเราต้องเจออุปสรรคมากมาย
ที่สำคัญคนที่สนใจอยากจะเข้าร่วมแข่งในรายการนี้ควรจะสามารถซ่อมรถได้ เพราะเป็นการแข่งขันในทะเลทราย หากรถเสียคุณก็สามารถช่วยกันซ่อมได้ ซึ่งเรื่องนี้ ฌ็องปีแยร์ บอกว่า “ถึงแม้คุณจะมีเครดิตการ์ดที่ดีที่สุดในโลก 10 ใบ คุณก็ไม่สามารถเรียกใครมาซ่อมรถได้ ดังนั้นความรู้ในเรื่องนี้จะช่วยให้คุณผ่านอุปสรรคไปได้”