ปัจจุบันภาพรวมของตลาดรถยนต์มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์เติบโตตามไปด้วย ซึ่งธุรกิจเบาะหนังรถยนต์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มคึกคักจากผลกระทบของการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในขณะนี้ จึงทำให้ธุรกิจเบาะหนังรถยนต์เติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 15-20 %
บริษัท คิน ออโต ดีไซน์ จำกัด (KIN’S AUTO DESIGN Co., Ltd.) ผู้ผลิตเบาะหนังแท้ ยี่ห้อ KIN’S โดย คุณวีระ ศรีสงวนสัตย์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง"ว่า ธุรกิจเบาะหนังแท้นั้นมีการแข่งขันกันเพียงไม่กี่ยี่ห้อ จึงต้องหาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตนเอง ซึ่งคินก็เห็นความสำคัญของสุขภาพอนามัยของผู้ใช้รถจึงได้คิดค้นและพัฒนาเบาะหนังที่สามารถป้องกันแบคทีเรียได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรูจักมากนัก
“แต่ก่อนผู้บริโภคยังไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องของเบาะหนังแท้รถยนต์มากนัก เพราะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของเบาะหนังแท้และหนังเทียมคินเป็นเจ้าแรกที่เริ่มบุกเบิกธุรกิจเบาะหนังแท้รถยนต์ก็ว่าได้เพราะว่าต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตลาดเบาะหนังแท้รถยนต์และสร้างตลาดกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ที่ต้องการคุณภาพและดีไซน์ที่ต่างจากเดิมไม่เหมือนใคร จึงเป็นโอกาสอันดีของบริษัทที่ทำตลาดในส่วนนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีอยู่เพียง 10-12 % เท่านั้น ส่วนการผลิตที่เหลือบริษัทได้รับผลิตให้กับทางโออีเอ็มในประเทศ และผลิตเพื่อส่งออกไปขายในต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานคุณภาพการผลิตเป็นพิเศษ”
ธุรกิจเบาะหนังในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?
"การเริ่มต้นของตลาดเบาะรถยนต์ทั่วไปจะเริ่มบูมมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ที่ลูกค้าหันมาสนใจเรื่องเบาะหนังแท้มาก ก่อนหน้านั้นจะเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่รู้จัก แต่สมัยนั้นราคาค่อนข้างสูง การใช้หนังคุณภาพจึงเป็นไปตามราคา แต่ ณ วันนี้ การแข่งขันค่อนข้างสูง มีการตัดราคา คู่แข่งเยอะ บวกกับตลาดบูม ทำให้เบาะหนังแท้ต้องสู้ราคากับเบาะหนังเกรดสอง คู่แข่งหลายรายกระโดดมาทำตลาด การวัดคุณภาพด้วยตาเปล่าทำได้ยากมาก ณ วันนี้ถ้าเปรียบเทียบมาตรฐานของโออีเอ็ม ใช้มาตรฐานในการกำหนดสเปคโดยการผ่านแล็บ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาตลาดเบาะหนังแท้มีคู่แข่งมาทำกันเยอะ จึงทำให้คุณภาพลดหลั่นกันไป
ในตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รถที่ออกจากโชว์รูมแล้วเอามาเปลี่ยนเบาะหนัง ในกลุ่มนี้ไม่ได้มาจากโรงงานโดยตรง ที่มาจากโรงงานโดยตรงเขามีคุณภาพอยู่แล้ว มั่วไม่ได้ แข่งกันเยอะ ร้านเบาะหนังลงทุนไม่กี่หมื่นบาทก็เปิดร้านได้แล้ว มีร้าน 1 ร้าน มีจักร 1 ตัว คนงาน 2-3 คนลงทุนประมาณ 2-3 หมื่นก็เปิดร้านเบาะได้แล้ว ต้นทุนการลงทุนต่ำแต่จะได้ออเดอร์เยอะก็ต้องตัดราคา แล้วเอาของที่ไม่มีคุณภาพใส่ลงไปแทน”
คินเริ่มทำธุรกิจเบาะหนังมานานเท่าใด?
"คินเองพื้นฐานก็คือเป็นโรงงานฟอกหนังอยู่แล้ว ก่อตั้งมานานแล้ว ผลิตเบาะหนังรถยนต์มาตั้งแต่ปี 2528 ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2537-2538 ระหว่างนั้นคินขายแต่หนังให้ผู้ผลิตเบาะ ซึ่งคินไม่ได้ทำเองจนมาเกิดวิกฤต หนังเต็มโรงงานก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยคิดผลิตสินค้าสำเร็จรูป เปลี่ยนลักษณะการตลาด เปลี่ยนโครงสร้างการผลิต มาลงตัวที่เบาะหนังแล้วเราก่อตั้งบริษัท ออโตโมทีฟ เลทเธอร์ จำกัด โดยจำหน่ายและผลิตหนังของตัวเอง ตัดเย็บเอง ขายเอง ครบวงจร ของคินนอกจากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว ยังพัฒนาระบบไอเอสโอ นอกจากนี้คินมีแล็บทดลองคุณภาพของเราเองตามมาตรฐานโออีเอ็ม”
ผลิตภัณฑ์เบาะหนังป้องกันแบคทีเรียมีวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง?
"แนวคิดของโปรดักส์ตัวนี้เกิดจากความต้องการของลูกค้าเวลาเปลี่ยนเบาะ เขาต้องการหนีฝุ่น ความอับ น้ำซึม และคินเองก็ต้องการสร้างจุดเด่น เพิ่มมูลค่าให้สินค้า โดยไม่เพิ่มราคา เบาะหนังแท้ Anti Bacteria ช่วยป้องกันและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยขบวนการผลิตด้วยระบบซิลเวอร์ นาโนเทคโนโลยี (SIVER NANO TECHNOLOGY) ที่มีคุณสมบัติทำลายแบคทีเรียด้วยระบบชีวภาพ โดยสารซิลเวอร์ที่จะช่วยในการบล็อคจับโปรตีนในแบคทีเรียไว้ ทำให้แบคทีเรียทีเกาะติดที่เบาะหนังแท้ของ KIN’S ไม่สามารถเจริญเติบโตได้และตายไปในที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นการปกป้องคุณและครอบครัวจากเชื้อโรคต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจที่ปราศจากกลิ่นอับชื้นต่างๆ และยังได้รับการรับรองจากสถาบันในสหรัฐอเมริกา , JIS จากประเทศญี่ปุ่น และศูนย์วิจัยของมหิดล ว่าสามารถป้องกันแบคทีเรียได้จริง เช่นตอนเราออกกำลังกาย เอาขนมขึ้นมากินในรถด้วยความเป็นเด็กอาจจะหยิบขึ้นมากินต่อ ถ้าเป็นเบาะหนังทั่วไปแบคทีเรียก็จะเข้าปากไปแล้ว แต่ของคินก็จะไม่เป็นอะไร แบคทีเรียจะตายไม่สามารถจะอยู่บนเบาะหนังของคินได้ ที่สำคัญผมรับประกันได้ว่าในประเทศไทยนี้คินเป็นเจ้าแรกที่มี”
วิธีการดูแลรักษาเบาะป้องกันแบคทีเรียเป็นอย่างไร?
"การดูแลเหมือนกับหนังแท้ปกติทั่วไป ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าสารชนิดนี้อยู่ในหนังเลยเราไม่ได้เคลือบที่ชั้นผิวภายนอก อยู่ในชั้นสีของหนังเกาะติดอยู่ที่ชั้นนี้ ขูดเองก็ไม่ออก เบาะหนังไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง ควรทำ 3 เดือนครั้งก็พอ ถ้าเกิดทำมากกว่านั้นจะช้ำและเกินความจำเป็น โปรดักส์ชิ้นนี้ได้รับการพัฒนามาประมาณ 1 ปี ต้องมีการส่งเทสต์ที่ญี่ปุ่นหลายรอบกว่าจะผ่านมาได้ กำลังการผลิตตอนนี้ได้ประมาณ 1,500-2,000 ชุดต่อเดือน ซึ่งเราจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มองคุณภาพเป็นหลัก
ราคาของเบาะหนังป้องกันแบคทีเรียอยู่ที่ประมาณเท่าใด?
"ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 24,000 บาทครับ เพราะว่าเราใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพและทำเอง หนังวัวก็นำเข้ามาจากอเมริกา และยุโรป"
เบาะหนังแท้ต่างจากเบาะหนังเทียมอย่างไรบ้าง?
"ถ้าถามว่าเบาะหนังแท้มีกี่ประเภท ยกตัวอย่างวัว 1 ตัวจะมีหนัง 3 ชั้นด้วยกัน คือหนังชั้นล่างสุดนำไปทำเป็นของเล่นสุนัข หนังชั้นสองบริเวณท้องซึ่งถือว่าเป็นหนังแท้เช่นกันแต่จะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน ส่วนหนังชั้นผิวบนสุดก็จะแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ สเปคโออีเอ็ม และสเปคทั่วไป สเป็กโออีเอ็ม 3-5 ปีก็สบายอยู่แล้ว ถ้าสเปคทั่วไป 1-2 ปี นอกจากนี้ยังมองด้วยตาเปล่าไม่ได้ในการตัดสินว่าเบาะหนังของแท้หรือไม่ จุดด้อยของเบาะหนังแท้คือแพง และร้อนกว่าเบาะกำมะหยี่ แต่จะคายความร้อนเร็วกว่าเบาะพีวีซี บางร้านก็จะหลอกลูกค้าว่าหนังแท้แต่ราคาถูกกว่าลูกค้าก็เชื่อเพราะรู้ข้อมูลไม่มาก ผมเชื่อถ้ารู้ความแตกต่างเชื่อว่ายอมจ่ายแพงกว่าเพื่อที่จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ"
"เนื่องจากคินเป็นโรงงานฟอกหนังเอง ร้านเบาะทั่วไปไม่ได้เป็นโรงงานฟอกหนัง ฉะนั้นราคาของคินเองก็ไม่ได้แพง ถ้าหนังแท้ด้วยกันที่เป็นเกรดโออีเอ็ม เป็นสเปคมาตรฐานโออีเอ็ม กับไม่ได้เป็นสเปคมาตรฐานโออีเอ็ม แตกต่างกับหนังแท้ด้วยกัน ประมาณ 15-20 % โดยประมาณ คุณภาพก็ต่างกันมาก ตัวที่ไม่ได้คุณภาพโออีเอ็มหรือที่ทั่วไปที่ใช้แถมใช้ประมาณ 1-2 ปีก็หมดอายุแล้วอย่างดีสุดก็ 2 ปี ซึ่งก็น้อยมาก ซึ่งเป็นหนังแท้ แต่คุณภาพไม่ได้ กลุ่มผู้ขายทั้งหลายคิดว่าลูกค้าต้องการแค่คำว่าหนังแท้ แต่ไม่เคยรู้ว่าหนังแท้มีกี่ประเภท จึงทำให้มีบางเจ้าขายถูกบางเจ้าขายแพง"
ตอนนี้คินมีแผนการตลาดอะไรบ้าง?
" ณ วันนี้ในกรุงเทพฯ เองมีสาขาใหญ่ทั้งหมด 3 สาขาคือบางนา รัชดา และตลิ่งชัน ต่างจังหวัดตอนนี้มีที่จังหวัดขอนแก่น และภูเก็ต มีแนวโน้มที่จะขยายในต่างจังหวัดให้ครอบคลุมเกือบทุกจังหวัด แต่จะเป็นลักษณะเฟรนไชส์ นอกจากนี้เราจะมีการทำประชาสัมพันธ์ ในสื่อสิ่งพิมพ์และการจัดอีเวนท์ต่างๆ และโรดโชว์ รวมถึงการให้ข้อมูลกับผู้จัดจำหน่ายของเราเพื่อให้ไปบอกกับลูกค้าของเขาด้วย จะใช้งบประมาณไปกับตรงนี้ประมาณ 30 %ของยอดขาย ประมาณ 8 แสนถึง1 ล้านบาท เราจะเจาะเฉพาะกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น งานมอเตอร์โชว์ หนังสือนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์ ส่วนงานด้านบริการหลังงานขาย(ติดตั้ง) เน้นบริการแบบ CRM อย่างใกล้ชิดกับลูกค้าด้านการให้คำปรึกษาเรื่องความแตกต่างของเบาะหนังแท้ การเข้ามาใช้บริการระหว่างการรับประกัน การบริการติดตั้งนอกสถานที่ เป็นต้น"
"นอกจากนี้คินก็มีการพัฒนาหนังซึ่งจะออกเป็นแนวแฟชั่น ยกตัวอย่างเช่น คือหนังลายเจาะรูไม่ทะลุ ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของคิน เจาะรูไม่ทะลุ น้ำหกก็จะไม่ซึมลงไปในหนัง และอีกตัวหนึ่งออกเป็นแนวเรซซิ่ง ทูอินวัน จะเป็นแบบในเบาะหนังชิ้นนั้นจะมีสีสองสีในตัวเดียวกัน นอกจากนี้คินก็มีผลิตภัณฑ์ หนังหุ้มพวงมาลัยแท้ หุ้มเกียร์แท้ เน้นตัวนี้เป็นหลัก ตัวเสริมคืออินทีเรียทั้งหมดบุหลังคา พรมรองพื้น ทำลายไม้ ตกแต่งภายในทั้งหมด"
ทางร้านมีบริการอะไรบ้าง?
"เรารับลูกค้าได้ประมาณวันละ 40 - 60 รายตามสาขาต่างๆ เปิดบริการตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. สาขาทุกสาขาจะมีบริการหลังการขาย เป็นบริการบำรุงรักษาเบาะหนังซึ่งร้านเบาะอื่นๆจะไม่มี ตรงนี้เป็นจุดเด่นของคิน ดูแลและทำความสะอาดตลอดอายุการใช้งาน บริการในราคาของลูกค้าเราเองคิดถูกกว่าที่อื่น ร้านเบาะมักจะไม่สนใจทางด้านนี้ทำแล้วก็จบกันไป แต่ของที่นี่ไม่ใช่ ของคินเองมีการรับสมัครสมาชิกเพื่อการบำรุงรักษาโดยเฉพาะอยู่แล้ว อย่างตอนนี้เรามีสมาชิกประมาณ 100-200คน ต่อสาขา การสมัครสมาชิกเป็นการประหยัดต้นทุนในการฟอกเบาะ ปกติครั้งละ 500 บาท ถ้าเป็นสมาชิกจะลดเหลือครึ่งหนึ่งทันที แต่จะเป็นสมาชิกราย 2 ปี เทียบกับคาร์แคร์ทั่วไปครั้งหนึ่งประมาณ1500-2000 บาท ถ้าเป็นของคินแค่ 200 กว่าบาทถูกกว่าเยอะมาก รวมทั้งล้างรถ ดูดฝุ่นด้วย อัตราสมาชิกคือ 2,500 บาท อายุสมาชิก 2 ปี ใช้บริการได้ 8 ครั้ง”
"ถ้าในกรณีลูกค้าอยู่ไกลจากสาขาแล้วต้องการติดตั้งเบาะ เรามีบริการถึงบ้านโดยที่ไปรับเบาะถึงบ้านลูกค้าแล้วนำมาทำเมื่อเสร็จแล้วก็นำไปส่ง โดยที่ลูกค้าจอดรถไว้ที่บ้านไม่ต้องนำรถมาก็ได้ แต่มีการคิดเงินเพิ่มค่าขนส่งนิดหน่อย แล้วแต่ใกล้ไกล ประมาณ 1000-1500 บาท"
คุณวีระ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องของเบาะหนังแท้เป็นเรื่องที่อธิบายยากจริงๆ เพราะจะต้องเป็นสิ่งที่เคยสัมผัสจึงจะรับรู้ถึงความแตกต่าง คินพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องเบาะหนังแท้รถยนต์ตลอดเวลา" หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ เบาะป้องกันแบคทีเรียของคินอาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่น่ามองข้าม
บริษัท คิน ออโต ดีไซน์ จำกัด (KIN’S AUTO DESIGN Co., Ltd.) ผู้ผลิตเบาะหนังแท้ ยี่ห้อ KIN’S โดย คุณวีระ ศรีสงวนสัตย์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง"ว่า ธุรกิจเบาะหนังแท้นั้นมีการแข่งขันกันเพียงไม่กี่ยี่ห้อ จึงต้องหาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตนเอง ซึ่งคินก็เห็นความสำคัญของสุขภาพอนามัยของผู้ใช้รถจึงได้คิดค้นและพัฒนาเบาะหนังที่สามารถป้องกันแบคทีเรียได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรูจักมากนัก
“แต่ก่อนผู้บริโภคยังไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องของเบาะหนังแท้รถยนต์มากนัก เพราะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของเบาะหนังแท้และหนังเทียมคินเป็นเจ้าแรกที่เริ่มบุกเบิกธุรกิจเบาะหนังแท้รถยนต์ก็ว่าได้เพราะว่าต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตลาดเบาะหนังแท้รถยนต์และสร้างตลาดกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ที่ต้องการคุณภาพและดีไซน์ที่ต่างจากเดิมไม่เหมือนใคร จึงเป็นโอกาสอันดีของบริษัทที่ทำตลาดในส่วนนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีอยู่เพียง 10-12 % เท่านั้น ส่วนการผลิตที่เหลือบริษัทได้รับผลิตให้กับทางโออีเอ็มในประเทศ และผลิตเพื่อส่งออกไปขายในต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานคุณภาพการผลิตเป็นพิเศษ”
ธุรกิจเบาะหนังในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?
"การเริ่มต้นของตลาดเบาะรถยนต์ทั่วไปจะเริ่มบูมมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ที่ลูกค้าหันมาสนใจเรื่องเบาะหนังแท้มาก ก่อนหน้านั้นจะเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่รู้จัก แต่สมัยนั้นราคาค่อนข้างสูง การใช้หนังคุณภาพจึงเป็นไปตามราคา แต่ ณ วันนี้ การแข่งขันค่อนข้างสูง มีการตัดราคา คู่แข่งเยอะ บวกกับตลาดบูม ทำให้เบาะหนังแท้ต้องสู้ราคากับเบาะหนังเกรดสอง คู่แข่งหลายรายกระโดดมาทำตลาด การวัดคุณภาพด้วยตาเปล่าทำได้ยากมาก ณ วันนี้ถ้าเปรียบเทียบมาตรฐานของโออีเอ็ม ใช้มาตรฐานในการกำหนดสเปคโดยการผ่านแล็บ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมาตลาดเบาะหนังแท้มีคู่แข่งมาทำกันเยอะ จึงทำให้คุณภาพลดหลั่นกันไป
ในตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รถที่ออกจากโชว์รูมแล้วเอามาเปลี่ยนเบาะหนัง ในกลุ่มนี้ไม่ได้มาจากโรงงานโดยตรง ที่มาจากโรงงานโดยตรงเขามีคุณภาพอยู่แล้ว มั่วไม่ได้ แข่งกันเยอะ ร้านเบาะหนังลงทุนไม่กี่หมื่นบาทก็เปิดร้านได้แล้ว มีร้าน 1 ร้าน มีจักร 1 ตัว คนงาน 2-3 คนลงทุนประมาณ 2-3 หมื่นก็เปิดร้านเบาะได้แล้ว ต้นทุนการลงทุนต่ำแต่จะได้ออเดอร์เยอะก็ต้องตัดราคา แล้วเอาของที่ไม่มีคุณภาพใส่ลงไปแทน”
คินเริ่มทำธุรกิจเบาะหนังมานานเท่าใด?
"คินเองพื้นฐานก็คือเป็นโรงงานฟอกหนังอยู่แล้ว ก่อตั้งมานานแล้ว ผลิตเบาะหนังรถยนต์มาตั้งแต่ปี 2528 ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2537-2538 ระหว่างนั้นคินขายแต่หนังให้ผู้ผลิตเบาะ ซึ่งคินไม่ได้ทำเองจนมาเกิดวิกฤต หนังเต็มโรงงานก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยคิดผลิตสินค้าสำเร็จรูป เปลี่ยนลักษณะการตลาด เปลี่ยนโครงสร้างการผลิต มาลงตัวที่เบาะหนังแล้วเราก่อตั้งบริษัท ออโตโมทีฟ เลทเธอร์ จำกัด โดยจำหน่ายและผลิตหนังของตัวเอง ตัดเย็บเอง ขายเอง ครบวงจร ของคินนอกจากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว ยังพัฒนาระบบไอเอสโอ นอกจากนี้คินมีแล็บทดลองคุณภาพของเราเองตามมาตรฐานโออีเอ็ม”
ผลิตภัณฑ์เบาะหนังป้องกันแบคทีเรียมีวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง?
"แนวคิดของโปรดักส์ตัวนี้เกิดจากความต้องการของลูกค้าเวลาเปลี่ยนเบาะ เขาต้องการหนีฝุ่น ความอับ น้ำซึม และคินเองก็ต้องการสร้างจุดเด่น เพิ่มมูลค่าให้สินค้า โดยไม่เพิ่มราคา เบาะหนังแท้ Anti Bacteria ช่วยป้องกันและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยขบวนการผลิตด้วยระบบซิลเวอร์ นาโนเทคโนโลยี (SIVER NANO TECHNOLOGY) ที่มีคุณสมบัติทำลายแบคทีเรียด้วยระบบชีวภาพ โดยสารซิลเวอร์ที่จะช่วยในการบล็อคจับโปรตีนในแบคทีเรียไว้ ทำให้แบคทีเรียทีเกาะติดที่เบาะหนังแท้ของ KIN’S ไม่สามารถเจริญเติบโตได้และตายไปในที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นการปกป้องคุณและครอบครัวจากเชื้อโรคต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจที่ปราศจากกลิ่นอับชื้นต่างๆ และยังได้รับการรับรองจากสถาบันในสหรัฐอเมริกา , JIS จากประเทศญี่ปุ่น และศูนย์วิจัยของมหิดล ว่าสามารถป้องกันแบคทีเรียได้จริง เช่นตอนเราออกกำลังกาย เอาขนมขึ้นมากินในรถด้วยความเป็นเด็กอาจจะหยิบขึ้นมากินต่อ ถ้าเป็นเบาะหนังทั่วไปแบคทีเรียก็จะเข้าปากไปแล้ว แต่ของคินก็จะไม่เป็นอะไร แบคทีเรียจะตายไม่สามารถจะอยู่บนเบาะหนังของคินได้ ที่สำคัญผมรับประกันได้ว่าในประเทศไทยนี้คินเป็นเจ้าแรกที่มี”
วิธีการดูแลรักษาเบาะป้องกันแบคทีเรียเป็นอย่างไร?
"การดูแลเหมือนกับหนังแท้ปกติทั่วไป ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าสารชนิดนี้อยู่ในหนังเลยเราไม่ได้เคลือบที่ชั้นผิวภายนอก อยู่ในชั้นสีของหนังเกาะติดอยู่ที่ชั้นนี้ ขูดเองก็ไม่ออก เบาะหนังไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง ควรทำ 3 เดือนครั้งก็พอ ถ้าเกิดทำมากกว่านั้นจะช้ำและเกินความจำเป็น โปรดักส์ชิ้นนี้ได้รับการพัฒนามาประมาณ 1 ปี ต้องมีการส่งเทสต์ที่ญี่ปุ่นหลายรอบกว่าจะผ่านมาได้ กำลังการผลิตตอนนี้ได้ประมาณ 1,500-2,000 ชุดต่อเดือน ซึ่งเราจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มองคุณภาพเป็นหลัก
ราคาของเบาะหนังป้องกันแบคทีเรียอยู่ที่ประมาณเท่าใด?
"ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 24,000 บาทครับ เพราะว่าเราใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพและทำเอง หนังวัวก็นำเข้ามาจากอเมริกา และยุโรป"
เบาะหนังแท้ต่างจากเบาะหนังเทียมอย่างไรบ้าง?
"ถ้าถามว่าเบาะหนังแท้มีกี่ประเภท ยกตัวอย่างวัว 1 ตัวจะมีหนัง 3 ชั้นด้วยกัน คือหนังชั้นล่างสุดนำไปทำเป็นของเล่นสุนัข หนังชั้นสองบริเวณท้องซึ่งถือว่าเป็นหนังแท้เช่นกันแต่จะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน ส่วนหนังชั้นผิวบนสุดก็จะแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ สเปคโออีเอ็ม และสเปคทั่วไป สเป็กโออีเอ็ม 3-5 ปีก็สบายอยู่แล้ว ถ้าสเปคทั่วไป 1-2 ปี นอกจากนี้ยังมองด้วยตาเปล่าไม่ได้ในการตัดสินว่าเบาะหนังของแท้หรือไม่ จุดด้อยของเบาะหนังแท้คือแพง และร้อนกว่าเบาะกำมะหยี่ แต่จะคายความร้อนเร็วกว่าเบาะพีวีซี บางร้านก็จะหลอกลูกค้าว่าหนังแท้แต่ราคาถูกกว่าลูกค้าก็เชื่อเพราะรู้ข้อมูลไม่มาก ผมเชื่อถ้ารู้ความแตกต่างเชื่อว่ายอมจ่ายแพงกว่าเพื่อที่จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ"
"เนื่องจากคินเป็นโรงงานฟอกหนังเอง ร้านเบาะทั่วไปไม่ได้เป็นโรงงานฟอกหนัง ฉะนั้นราคาของคินเองก็ไม่ได้แพง ถ้าหนังแท้ด้วยกันที่เป็นเกรดโออีเอ็ม เป็นสเปคมาตรฐานโออีเอ็ม กับไม่ได้เป็นสเปคมาตรฐานโออีเอ็ม แตกต่างกับหนังแท้ด้วยกัน ประมาณ 15-20 % โดยประมาณ คุณภาพก็ต่างกันมาก ตัวที่ไม่ได้คุณภาพโออีเอ็มหรือที่ทั่วไปที่ใช้แถมใช้ประมาณ 1-2 ปีก็หมดอายุแล้วอย่างดีสุดก็ 2 ปี ซึ่งก็น้อยมาก ซึ่งเป็นหนังแท้ แต่คุณภาพไม่ได้ กลุ่มผู้ขายทั้งหลายคิดว่าลูกค้าต้องการแค่คำว่าหนังแท้ แต่ไม่เคยรู้ว่าหนังแท้มีกี่ประเภท จึงทำให้มีบางเจ้าขายถูกบางเจ้าขายแพง"
ตอนนี้คินมีแผนการตลาดอะไรบ้าง?
" ณ วันนี้ในกรุงเทพฯ เองมีสาขาใหญ่ทั้งหมด 3 สาขาคือบางนา รัชดา และตลิ่งชัน ต่างจังหวัดตอนนี้มีที่จังหวัดขอนแก่น และภูเก็ต มีแนวโน้มที่จะขยายในต่างจังหวัดให้ครอบคลุมเกือบทุกจังหวัด แต่จะเป็นลักษณะเฟรนไชส์ นอกจากนี้เราจะมีการทำประชาสัมพันธ์ ในสื่อสิ่งพิมพ์และการจัดอีเวนท์ต่างๆ และโรดโชว์ รวมถึงการให้ข้อมูลกับผู้จัดจำหน่ายของเราเพื่อให้ไปบอกกับลูกค้าของเขาด้วย จะใช้งบประมาณไปกับตรงนี้ประมาณ 30 %ของยอดขาย ประมาณ 8 แสนถึง1 ล้านบาท เราจะเจาะเฉพาะกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น งานมอเตอร์โชว์ หนังสือนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์ ส่วนงานด้านบริการหลังงานขาย(ติดตั้ง) เน้นบริการแบบ CRM อย่างใกล้ชิดกับลูกค้าด้านการให้คำปรึกษาเรื่องความแตกต่างของเบาะหนังแท้ การเข้ามาใช้บริการระหว่างการรับประกัน การบริการติดตั้งนอกสถานที่ เป็นต้น"
"นอกจากนี้คินก็มีการพัฒนาหนังซึ่งจะออกเป็นแนวแฟชั่น ยกตัวอย่างเช่น คือหนังลายเจาะรูไม่ทะลุ ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของคิน เจาะรูไม่ทะลุ น้ำหกก็จะไม่ซึมลงไปในหนัง และอีกตัวหนึ่งออกเป็นแนวเรซซิ่ง ทูอินวัน จะเป็นแบบในเบาะหนังชิ้นนั้นจะมีสีสองสีในตัวเดียวกัน นอกจากนี้คินก็มีผลิตภัณฑ์ หนังหุ้มพวงมาลัยแท้ หุ้มเกียร์แท้ เน้นตัวนี้เป็นหลัก ตัวเสริมคืออินทีเรียทั้งหมดบุหลังคา พรมรองพื้น ทำลายไม้ ตกแต่งภายในทั้งหมด"
ทางร้านมีบริการอะไรบ้าง?
"เรารับลูกค้าได้ประมาณวันละ 40 - 60 รายตามสาขาต่างๆ เปิดบริการตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. สาขาทุกสาขาจะมีบริการหลังการขาย เป็นบริการบำรุงรักษาเบาะหนังซึ่งร้านเบาะอื่นๆจะไม่มี ตรงนี้เป็นจุดเด่นของคิน ดูแลและทำความสะอาดตลอดอายุการใช้งาน บริการในราคาของลูกค้าเราเองคิดถูกกว่าที่อื่น ร้านเบาะมักจะไม่สนใจทางด้านนี้ทำแล้วก็จบกันไป แต่ของที่นี่ไม่ใช่ ของคินเองมีการรับสมัครสมาชิกเพื่อการบำรุงรักษาโดยเฉพาะอยู่แล้ว อย่างตอนนี้เรามีสมาชิกประมาณ 100-200คน ต่อสาขา การสมัครสมาชิกเป็นการประหยัดต้นทุนในการฟอกเบาะ ปกติครั้งละ 500 บาท ถ้าเป็นสมาชิกจะลดเหลือครึ่งหนึ่งทันที แต่จะเป็นสมาชิกราย 2 ปี เทียบกับคาร์แคร์ทั่วไปครั้งหนึ่งประมาณ1500-2000 บาท ถ้าเป็นของคินแค่ 200 กว่าบาทถูกกว่าเยอะมาก รวมทั้งล้างรถ ดูดฝุ่นด้วย อัตราสมาชิกคือ 2,500 บาท อายุสมาชิก 2 ปี ใช้บริการได้ 8 ครั้ง”
"ถ้าในกรณีลูกค้าอยู่ไกลจากสาขาแล้วต้องการติดตั้งเบาะ เรามีบริการถึงบ้านโดยที่ไปรับเบาะถึงบ้านลูกค้าแล้วนำมาทำเมื่อเสร็จแล้วก็นำไปส่ง โดยที่ลูกค้าจอดรถไว้ที่บ้านไม่ต้องนำรถมาก็ได้ แต่มีการคิดเงินเพิ่มค่าขนส่งนิดหน่อย แล้วแต่ใกล้ไกล ประมาณ 1000-1500 บาท"
คุณวีระ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องของเบาะหนังแท้เป็นเรื่องที่อธิบายยากจริงๆ เพราะจะต้องเป็นสิ่งที่เคยสัมผัสจึงจะรับรู้ถึงความแตกต่าง คินพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องเบาะหนังแท้รถยนต์ตลอดเวลา" หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจในสุขภาพ เบาะป้องกันแบคทีเรียของคินอาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่น่ามองข้าม
