xs
xsm
sm
md
lg

Honda Accord 2.0 L : "สปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน" หรือรถสปอร์ตในคราบของเก๋งซีดานระดับหรู เป็นคอนเซ็ปต์ที่ใช้ในการออกแบบ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ทายาทรุ่นที่ 7 ในตระกูลแอคคอร์ด ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี 2003 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรและ 3.0 ลิตร ปัจจุบันแม้จะมีโมเดลน้องเล็กออกมาเสริมไลน์ในช่วงน้ำมันขึ้นราคา โดยลดความจุของเครื่องยนต์ลงเหลือ 2.0 ลิตร แต่ก็ยังรักษาภาพลักษณ์ "สปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน" เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

จริงๆแล้ว ฮอนด้า แอคคอร์ด กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รหัส K20A นั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ อาจใหม่สำหรับบ้านเรา แต่ไม่ใหม่สำหรับญี่ปุ่นและยุโรป เพราะมีวางขายมาตั้งแต่ปี 2003 ก็ตั้งแต่เปิดตัวนั่นแหละ ในฐานะทางเลือก

ภายนอกไม่ต้องสาธยายกันมาก เพราะสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปตามท้องถนนเมืองไทย ซึ่งรุ่น 2.0 ลิตรก็ไม่ได้ต่างไปจากรุ่น 2.4 ลิตรเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นเครื่องหมายด้านท้ายรถ ที่ตัด "2.4" ออกไปเหลือเพียง "i-VTEC" เพื่อบอกให้รู้ว่า นี่คือเฟรชชี่

ภายในก็เช่นกัน รุ่น 2.0E ไม่ได้ต่างไปจากรุ่น 2.4E เลยแม้แต่น้อย มีเพียงบางอุปกรณ์เท่านั้นที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีและหรูหราขึ้น เช่น เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขณะที่รุ่น 2.4E ยังเป็นระบบแมนนวล, รุ่น 2.0E มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและมีเซ็นเซอร์กะระยะกันชนหลัง 4 จุดมาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน ขณะที่รุ่น 2.4E ไม่มี และเสียงแตรของรุ่น 2.0E จะออกสไตล์ยุโรป ขณะที่รุ่น 2.4E ยังเป็นแบบเอเชีย

เครื่องยนต์ของ ฮอนด้า แอคคอร์ด 2.0 ใหม่เป็นเครื่องบล็อก K20A ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับที่ใช้ใน Civic, CR-V และสตรีมแต่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมกับบอดี้ โดยในบอดี้แอคคอร์ด บล็อก K20A จะผลิตม้าออกมาได้ 150 ตัวที่ 6,000 รอบต่อนาทีและแรงบิด 186 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ไปยังล้อขนาด 15 นิ้วกับยาง 205/65 R15 ตามข้อมูลจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

เทียบกับม้า 155 ตัวที่ 6,500 รอบต่อนาทีและแรงบิดขนาด 177 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาทีของ Civic 2.0 สังเกตว่าแรงม้าและแรงบิดของ Accord จะมาที่รอบต่ำกว่าประมาณ 500 รอบ ซึ่ง "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" คิดว่าน่าจะทำให้แอคคอร์ดขับง่ายกว่า คือไม่ถึงกับต้องเหยียบคันเร่งจนมิด กำลังของเครื่องยนต์ก็มากพอจะพาบอดี้ใหญ่ๆ ให้พุ่งไปข้างหน้าได้อย่างสบาย

แต่ถ้าเทียบกับแอคคอร์ด 2.4 ที่มีแรงม้าสูงสุด 160 ตัวที่ 5,500 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุด 218 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีแล้ว จะเห็นว่าแรงบิดมาที่รอบเดียวกัน แต่เครื่อง 2.4 ให้กำลังสูงกว่าอยู่ 32 นิวตันเมตร ขณะเดียวกันม้าของเครื่อง 2.4 มาเร็วกว่าและมีมากกว่าเครื่อง 2.0 ลิตรอยู่ 5 ตัว ครั้งแรกที่ "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ได้เห็นตัวเลขเหล่านี้ คิดว่าแอคคอร์ด 2.0 น่าจะอืดกว่า Accord 2.4 พอสมควร

ลองของจริง

"เซอร์ไพรซ์" สมรรถนะของแอคคอร์ด 2.0 ไม่ได้ต่างไปจากแอคคอร์ด 2.4 นัก ออกจะขับสนุกกว่าด้วยซ้ำ เพราะที่รอบสูง "2.0" ไหลกว่า อีกทั้งจังหวะการทำงานของเกียร์ก็ต่อเนื่องกว่าด้วย ทำให้ได้อารมณ์แบบสปอร์ตอย่างยิ่ง ขณะที่ "2.4" จะออกอาการ "ตื้อ" เล็กๆ ก่อนเกียร์จะเปลี่ยนไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่า ส่งผลให้รู้สึกสะดุดบ้าง แต่ไม่ถึงกับหงุดหงิด

อัตราเร่งแซงในช่วง 60-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้กันบ่อยๆในชีวิตประจำวัน "2.0" ช้ากว่า "2.4" ประมาณ 1 วินาทีจากแรงบิดที่ต่างกันอยู่ 32 นิวตันเมตร โดยในช่วงรอบเครื่องไม่เกิน 4,500 รอบต่อนาที ถ้าไม่จ้องจับผิดกันแล้ว ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่ในช่วงรอบสูง "2.0" ให้กำลังที่ต่อเนื่องไปจนกระทั่งเปลี่ยนเกียร์ที่เกือบเรดไลน์แถวๆ 6,500 รอบต่อนาที ขณะที่แรงดึงจากเครื่อง "2.4" รู้สึกว่าจะหมดเร็วกว่า

จุดนี้ทำให้ แอคคอร์ด 2.0 กับ แอคคอร์ด 2.4 ที่แม้จะเป็นสปอร์ตพรีเมี่ยมซีดานเหมือนกัน แต่มีบุคลิกที่ต่างกัน รุ่น "2.4" จะสุภาพนุ่มนวลแบบผู้ใหญ่ แรงแบบนิ่มๆ ไม่ต้องกดคันเร่งกันลึก ก็แซงรถบรรทุกคันใหญ่ๆได้อย่างสบาย ส่วนรุ่น "2.0" จะออกแนววัยรุ่น ที่ต้องกดกันมิด ลากรอบสูง รถถึงจะพุ่ง แซงรถคันหน้า และฉีกหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

แม้ต้องกดคันเร่งกันลึกหน่อยถึงจะได้เรื่องสำหรับเครื่อง 2.0 แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าน้ำมัน เพราะจากการทดสอบของบริษัทฮอนด้าฯ พบว่า วิ่งนอกเมือง เส้นกรุงเทพ-บางแสน ที่ความเร็ว 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 13.32 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนในเมืองก็ทำได้ดี ที่ 10.07 กิโลเมตรต่อลิตร กับเส้นทางรถติด สุขุมวิท-สำโรง-บางนา-ศรีนครินทร์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่หรูหราทีเดียวสำหรับสำหรับรถที่มีน้ำหนักตัวระดับ 1,435 กิโลกรัม

สำหรับความเร็วปลายแอคคอร์ด 2.0 ทำได้ประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วง 0-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว แต่หลังจากผ่าน 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้ว ต้องใช้เวลาและระยะทางพอสมควร ก่อนเข็มไมล์จะชี้ที่เลข 200

นุ่ม หนึบ ไม่นิ่ม แต่ไม่กระด้าง

ในส่วนของช่วงล่าง ทางบริษัทฮอนด้าฯ แจ้งว่า "ไม่ได้แตะต้องอะไร ทุกอย่างยังคงเหมือนกับรุ่น 2.4 ลิตร" ด้านหน้าแบบดับเบิลวิชโบน อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบไฟว์ลิงค์ ดับเบิลวิชโบน อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง

โดยส่วนตัวของ "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ซึ่งปกติเป็นคนขับรถเร็ว รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับช่วงล่างของ แอคคอร์ด ที่ออกไปทางแข็งนิดๆ พอที่จะให้ผู้ขับขี่รับรู้ได้ถึงสภาพผิวถนน แต่ไม่ถึงกับหัวสั่นหัวคลอน การเข้าโค้งหนึบแน่น มีแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางให้ได้รู้สึกกันบ้าง แต่ไม่ถึงกับโคลง และยังคงให้ความมั่นใจในระดับสูง

พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง มีการตอบสนองที่ฉับไว น้ำหนักกำลังดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการขับขี่ในเมืองที่ต้องมีการหักเลี้ยวกันบ่อยๆ แต่สำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง รู้สึกว่าจะไวไปนิด

ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้งหน้าและหลัง พร้อมระบบป้องกันล้อก็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบส่งเสริมแรงเบรก BA น้ำหนักแป้นเบรกกำลังดี ให้ความมั่นใจได้ทุกครั้งที่เหยียบลงไป

เรื่องความสะดวกสบาย ไม่เป็นรองใคร "เงียบ-สบาย-แอร์เย็น-เพลงเพราะ" ห้องโดยสารจัดว่าเงียบมากแม้จะใช้ความเร็วและลากรอบเครื่องสูง เบาะนั่งกระชับพอดีๆ ไม่แน่นจนอึดอัด และไม่หลวมจนรู้สึกลอย ที่สำคัญคือไม่เมื่อย แอร์อัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา เผื่อสำหรับคนขี้ร้อนกับคนขี้หนาวมารวมกัน พวงมาลัยกระชับมือพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ระบบเสียงที่แม้จะมีลำโพงมาให้แค่ 6 ตัว มีทวีตเตอร์ 1 คู่ แต่คุณภาพเสียงที่ออกมาจัดว่าใช้ได้ทีเดียว

สรุปว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด 2.0 ยังคงเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ "สปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน" เครื่องยนต์สมรรถนะสูง รอบจัด ช่วงล่างออกไปทางแข็ง เน้นการยึดเกาะถนนเป็นหลัก ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความนุ่มนวลประเภทตกหลุมไม่สะเทือนแล้ว "ผู้จัดการมอเตอริ่ง" เชื่อว่าฮอนด้า แอคคอร์ด 2.0 ไม่เหมาะกับคุณแน่ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเรื่องสมรรถนะมากกว่าความนุ่มนวล โดยยังไม่ทิ้งเรื่องความสะดวกสบายแล้ว ฮอนด้า แอคคอร์ด 2.0 ใหม่จะสร้างความประทับใจให้คุณได้ไม่ยาก

ราคาของแอคคอร์ด 2.0 S ตั้งไว้ที่ 1,168,000  บาท และรุ่น 2.0 E อยู่ที่ 1,218,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น