บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 3 รุ่นสำหรับงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 26 คือ ซีรี่ส์ 3 โฉมใหม่, มินิ เปิดประทุนและสุดท้าย ซีรี่ส์ 7 รุ่นไมเนอร์เชนจ์
ครั้งนี้ขอพูดถึงซีรี่ส์ 7 ไมเนอร์เชนจ์ ก่อน สำหรับ ซีรี่ส์ 7 รุ่นนี้มีรหัสตัวถังอี 65 เปิดตัวและทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2001 พร้อมกับฉีกแนวคิดของการออกแบบที่ทำให้คนทั่วโลกได้ทราบถึงทิศทางใหม่แห่งการสร้างสรรค์รูปลักษณ์ภายใต้การนำของคริส แบงเกิล ซึ่งเน้นความสปอร์ตบน ความหรูหราด้วยเส้นสายบนตัวถังที่สอดผสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัว
สำหรับการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ที่สามารถสัมผัสได้จากไมเนอร์เชนจ์ของซีรี่ส์ 7 คือ การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้าใหม่ ทั้งฝากระโปรงหน้า, กรอบไฟหน้าทรงเพรียวขึ้นและยังฝังไฟคู่หน้าดวงกลมคู่ไว้ภายในเหมือนเดิม, กันชนหน้าทรงสปอร์ต และกระจังหน้ารูปไตคู่ซึ่งได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้น
ด้านท้ายเปลี่ยนกันชนท้ายใหม่ และฝากระโปรงที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น, ไฟท้ายยังเป็นแบบแยก 2 ส่วน แต่ส่วนที่อยู่บนฝากระโปรงหลังมีการเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมเป็นเพียงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ ส่วนภายในยังคงใช้แผงหน้าปัดชุดเดิม แต่เพิ่มความสวยให้กับชุดมาตรวัดด้วยการเปลี่ยนสีพื้นข้างในให้เป็นสีอ่อน และพวงมาลัยเปลี่ยนจากแบบ 4 ก้านมาเป็น 3 ก้าน
สำหรับ 740 Li นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ วี 8 ที่ได้รับการปรับแต่งล่าสุด โดยมีกำลังสูงสุด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที
สำหรับรุ่น 730 Li นั้นมากับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง 219 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้าแล้ว แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรสามารถทำได้ตั้งแต่ที่รอบเครื่องยนต์ 2,500 รอบต่อนาที และดำเนินต่อเนื่องไปได้ถึง 4,250 รอบต่อนาที (แตกต่างจากเดิมที่ทำได้ ณ 3,500 รอบต่อนาที) โดยน้ำหนักเครื่องยนต์6 สูบใหม่นี้ จะเบาลงถึง 10 กิโลกรัม และทำให้เพลาหน้ารถยนต์รับน้ำหนักน้อยลง อันมีผลต่อความปราดเปรียวที่จะสูงขึ้น
ราคาของซีรี่ส์ 7 นั้นแยกออกเป็น 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ 740Li ที่ราคา 8.7 ล้านบาท 730 Li ที่ราคา 6.5 ล้านบาท รุ่น 730 LiSE ที่ราคา 7.0 ล้านบาท ตามลำดับ โดยทางบีเอ็มดับเบิลยู กำหนดเวลาส่งมอบของรถยนต์รุ่นปรับโฉมนี้เอาไว้ที่ช่วง ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกเหนือไปจากสองรุ่นที่โชว์แล้วยัง เผยราคาของ 750 Li เอาไว้ที่ 14.5 ล้านบาทอีกด้วย