งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 26 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ (25 มี.ค.) ในเวทีนี้นอกจากจะเป็นศูนย์แสดงรถยนต์ใหม่ของแต่บริษัทรถแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของคนช้ำใจจากการซื้อรถด้วย เพราะเพียงวันแรกได้มีการผู้บริโภคหลายคนทยอยมาประท้วง ความไม่รับผิดชอบต่อลูกค้าของบริษัทรถกันอย่างต่อเนื่อง
โดยงานนี้ค่ายโตโยต้าดูเหมือนจะถูกร้องเรียนมากที่สุด เริ่มจากนายธนกฤษ บุญญะเหมภาส อายุ 36 ปี ได้นำรถโตโยต้า อัลทิส เลขทะเบียน ษย 9465 กรุงเทพมหานคร ซึ่งซื้อมาได้ประมาณ 13 เดือน เข้าเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค โดยระบุว่าหลังจากซื้อรถมาได้เพียง 2 เดือน แต่ก็เกิดปัญหากับรถมาโดยตลอด ขณะที่ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ
“ผมซื้อรถป้ายแดงมาในราคา 1,039,000 บาท แต่เมื่อย่างเข้าเพียงเดือนที่2 ก็เริ่มเกิดปัญหา โดยระยะทาง 1,000 กิโลเมตรแรก มีอาการเบรกพัง พวงมาลัยสั่น ยางรถยนต์พังทั้งสี่เส้น เอาเข้าศูนย์บริการของโตโยต้า แต่ทางศูนย์ฯ ปัดความรับผิดชอบ จนกระทั่งได้นำรถเข้าศูนย์ฯ ใหญ่ของโตโยต้า ทางศูนย์ฯ ก็แจ้งปัญหาของรถทั้งหมด แต่ตนไม่อยากจะใช้รถคันนี้อีกต่อไป อยากให้ทางโตโยต้าซื้อรถคันนี้คืนไป จะหักค่าเสื่อมสภาพก็ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งทางสคบ. แล้ว แต่ไม่น่าจะช่วยอะไหรได้ เพราะดูจากกรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ จะเห็นสคบ.ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรผู้บริโภคได้เลย”
อีกรายเป็นลูกค้าของโตโยต้าเช่นกัน ชื่อนายมนัส เชื้อวุ้หลิม อายุ 32 ปี อาชีพขายเสื้อผ้า ใช้โตโยต้า ไฮลักซ์ ดีโฟร์ดี เลขทะเบียน ณง 3851 กาญจนบุรี ซื้อมาได้ 14 เดือน ในราคา 746,000 บาท โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มแรกตั้งแต่ถอยรถออกมาจากโชว์รูมเลย
“ผมเข้าศูนย์ 10 กว่าครั้งแล้ว ครั้งล่าสุดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาการเริ่มแรกคือถังน้ำมันเกิดเสียงดัง ทางศูนย์ก็ทำการเปลี่ยนให้แต่ก็ยังดังเหมือนเดิม ผมก็บอกให้เปลี่ยนรถใหม่ให้ โดยยอมออกเงิน 50-50 แต่ทางศูนย์บอกว่าไม่มีนโยบายนี้ ทำให้รู้สึกไม่พอใจและกำลังเข้าร้องเรียนสคบ.”
รายที่สามยังคงเป็นลูกค้าโตโยต้าเหมือน 2 คันแรก เป็นปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ ดีโฟร์ดี ทะเบียนบจ 9451 กรุงเทพมหานคร ของนางวิภา พฤกษ์ภัทรกุล อายุ 53 ปี ซื้อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2545 อาการเริ่มแรกแชสซีซ้ายหัก หลังจากใช้งานไปได้เพียง 29 เดือนเท่านั้น
“สามีของตนได้ซื้อรถรุ่นนี้มาเพื่อบรรทุกสินค้า โดยมิได้เสริมแหนบเพื่อการบรรทุกหนัก แต่ได้เสริมแม็กโหลดพลัสเพื่อความนุ่มนวลตามที่โฆษณา การใช้งานก็ปกติทุกอย่าง จนใช้งานมาได้เกือบ 3 ปี จึงเกิดปัญหาดังกล่าว และได้ให้ทางโตโยต้าบอดี้ดูและได้ถ่ายรูปไว้ โดยจอดรถทิ้งไว้เดือนครึ่ง ทางโตโยต้าจึงได้เชื่อมให้และนำกลับมาใช้งานจนกระทั่งประมาณ 3-4 เดือน แชสซีได้เกิดหักอีกที่จุดเดิม เหตุนี้ตนจึงเคยขอให้โตโยต้าซื้อคืนตามสภาพรถ และจะเพิ่มเงินเพื่อซื้อรุ่นใหม่ของทางโตโยต้าด้วย แต่ปรากฎว่าไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด”
ส่วนลูกค้าค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่ทยอยมาเรียกร้องหน้างานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เป็นลูกค้ารถยนต์นิสสัน ชื่อนายองอาจ กองแสง อายุ 38 ทำธุรกิจท่องเที่ยว ซื้อรถตู้ นิสสันเออร์แวนมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2546 จากดีลเลอร์ที่ลาดพร้าว แต่ใช้งานไปได้ระยะหนึ่งเริ่มเกิดปัญหา
“ผมเคยแจ้งไปทางศูนย์แล้ว กลับบอกว่ารถของผมวิ่งเร็วเกินไป ทำให้เกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนควบคุมเปิดปิดไอดี-ไอเสีย ทั้งที่รถวิ่งเพียง 70,000 กิโลเมตรเท่านั้น ผมต้องจอดไว้เพื่อซ่อมถึง 5 เดือน และรายการที่ต้องซ่อมมีทั้งหมด 35 รายการ อาทิ เสื้อสูบ ฝาสูบ เพลาลูกเบี้ยว ชุดแหวนลูกสูบ แหวนรอง หัวเผา มูลค่าอะไหล่ที่ต้องซ่อมทั้งหมดเกือบ 200,000 บาท”
ส่วนที่มาเรียกร้องครั้งนี้ นายองอาจกล่าวว่า ต้องการให้ทางผู้บริหารรถยนต์นิสสันเข้ามารับรู้ถึงปัญหาของลูกค้าบ้าง เพราะที่ผ่านมาไม่ยอมออกมาแสดงตัวรับผิดชอบเลย แต่ตนก็ไม่อยากฟ้องกลับ เพราะทางดีลเลอร์ที่ซื้อมาเขาก็บริการดีอยู่แล้ว
ขณะที่อีกรายเป็นลูกค้ารถยนต์นิสสัน เออร์แวนเหมือนกัน ได้แก่ นายชลเดช ผลทาสี อายุ 33 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง ซื้อรถยนต์นิสสัน รุ่นเออร์แวน E 25 ทะเบียน อห 7733 กรุงเทพมหานคร มาเมื่อสองปีที่แล้ว ในราคากว่า 9 แสนบาท โดยตั้งแต่ซื้อมาได้มีปัญหาเปลี่ยนวาล์วไปสองครั้ง ปั๊มน้ำแตก ลูกปืนล้อพัง และซ่อมมาตลอด
โดยครั้งล่าสุดได้เอาเข้าศูนย์ซ่อมเมื่อเดือนที่ผ่านมา และได้ไปร้องเรียนกับบริษัทนิสสัน แต่ได้รับคำตอบว่าบริษัทฯ ไม่มีนโยบายเปลี่ยนรถคืนให้ลูกค้า ตนจึงได้ไปร้องเรียนที่สคบ. มาเมื่อวานนี้ สำหรับการมาประท้วงที่งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ต้องการให้นิสสันเข้ามารับผิดชอบโดยด่วน
“ตอนนี้ผมอยากให้ทางนิสสันมาซื้อรถคืนไป อาจจะไม่ซื้อคืนในราคาเต็มก็ได้ แต่ที่ผมต้องการจริงๆ คือการแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของบริษัท ผมใช้รถคันนี้มาได้สองปีกว่าแล้ว ก็ต้องเข้าศูนย์ซ่อมตลอดและไม่รู้ว่าวันใดรถอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่ใช่ผมคนเดียวที่จะเสียชีวิต อาจจะเป็นลูกค้าที่ผมรับมาด้วยก็ได้”
ไม่เพียงผู้บริโภคที่เพิ่งใช้รถได้ไม่นานเท่านั้น ที่เข้ามาเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ รถยนต์ที่มีอายุประมาณ 10 ปีแล้ว ก็เข้าร่วมในการเรียกร้องครั้งนี้ด้วย โดยนายเสถียร ทัพมะลิผล อายุ 49 ปี พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้ซื้อรถยนต์มาสด้า V6 เลขทะเบียน 4ษ 8280 มาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่ต้องทนกับการการรถมีปัญหามาตลอด นับตั้งแต่รถเพิ่งซื้อมาได้เพียง 4 เดือน
ทั้งนี้อาการเริ่มตั้งแต่เพลาหลุด พอเอาเข้าศูนย์ฯ ก็บอกว่าไม่มีแหวนล็อกล้อ อาการเริ่มแรกที่เกิดขึ้นคือ เบรกไม่อยู่ แต่ทางศูนย์ฯ บอกไม่เป็นไร ที่สำคัญรถคันนี้ได้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ถึงได้รู้ว่าไม่ถุงลมนิภัยตั้งแต่แรก ส่วนเบรกเอบีเอสก็ใส่รุ่นที่ต่ำกว่าสินค้าป้ายแดงมาให้ จนกระทั้งเพลาหลุดก็เคยมี แต่พอเอาเข้าศูนย์ฯ ก็ได้รับการตอบว่า ไม่มีแหวนล็อคล้อ ชิ้นส่วนรถส่วนใหญ่เป็นของไทยทั้งที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น
“ผมอยากรู้ว่าจะมีใครออกมารับผิดชอบปัญหาบ้าง ผมจอดรถคันนี้ไว้เฉยๆ กว่า9 ปีแล้ว หลังจากบอกยกเลิกสัญญาไป จะได้รู้ว่ารัฐบาลกับบริษัทรถมีผลประโยชน์อย่างไรบ้าง ร้องเรียนมาเมื่อปี 39 ฟ้องร้องผมก็ชนะ เหลืออุทธรณ์ ศาลสั่งให้ผมชนะแล้วให้มีการคืนเงินผม แต่ตอนนี้ทางบริษัทก็ไม่ได้ทำตามคำสั่งศาล การที่ผมออกมาร้องสิทธิ ก็เพื่อให้คนอื่นทั่วไปทราบว่า มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อแบบผม”
สำหรับรถยนต์มาสด้ารุ่นนี้ จากประวัติของรถที่นายเสถียรกล่าวอ้าง รถคันนี้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร วิ่งมาได้เพียง 12,000 กิโลเมตร ซึ่งเคยร้องเรียนปัญหาที่สคบ. และกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
นอกจากรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นแล้ว มาถึงคราวรถจากยุโรปบ้าง โดยนายทวี โต๊ะสมัน อายุ 46 ปี อาชีพพนักงานขับรถ รับหน้าที่มาร้องเรียนแทนเจ้านาย ด้วยการอ้างว่าซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น S 280 มาได้ประมาณ 40 ปี วิ่งได้ประมาณ 90,000 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ไปไหนไกล โดยปัญหาเกิดขึ้นครั้งแรก ระบบไฟบนหน้าปัดเกิดอาการรวน ทำให้ต้องเข้าศูนย์ซ่อม และที่เหยียบคันเร่งก็มีปัญหา เมื่อเหยียบไปแล้วเครื่องไม่เร่ง ต้องเหยียบซ้ำหลายที เกรงว่าจะเกิดอันตราย
“ผมเอารถเข้าศูนย์ตลอดทั้งตอนเกิดปัญหา และไม่เกิดปัญหา เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เข้ามาหลายสิบครั้ง ล่าสุดเมื่อ 2 เดือนก่อน ตามความรู้สึกเบนซ์ช่วงล่างแย่มาก แถมเอาอะไหล่ญี่ปุ่นมาใส่ให้ผม ทั้งที่เป็นรถเยอรมนี เจ้านายทนไม่ไหวก็เลยให้ผมออกมาเรียกร้อง”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ลูกค้ารถยนต์เหล่านี้ มาเรียกร้องสิทธิและความรับผิดชอบตั้งแต่เช้า แต่จนขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหาร หรือตัวแทนบริษัทรถยนต์ออกมาแสดงความรัดผิดชอบ มีเพียงผู้บริหารจากเดมเลอร์ไคสเลอร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มารับฟังปัญหา แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงเจรจาใดๆทั้งสิ้น
