"เหมย - วิภาวรรณ ธรรมมะ" สวยสวยหนึ่งในทีมประชาสัมพันธ์พิเศษ "ISUZU LADY 2004" ของค่ายตรีเพชรอีซูซุ ที่เธอจะมาประเดิมคอลัมน์ใหม่ "Pretty Zone" ของ "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" เป็นคนแรก ซึ่งคอลัมน์นี้จะเป็นการพูดคุยกับพริตตี้หรือประชาสัมพันธ์พิเศษของค่ายรถต่างๆสู่สายตาของท่านผู้อ่านในแบบไลฟ์สไตล์อีกด้านหนึ่งของพวกเธอเหล่านี้
เหมยเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทั้งที่เพิ่งอายุ 21 ปีเท่านั้น ตอนสมัยเรียนก็อยู่ชมรมการตลาด เพราะได้ประสบการณ์มากกว่าที่เรียน ได้ลองทำการตลาดจริงๆทำให้กล้าพูดกล้าคิดกล้าทำมากขึ้น เพราะต้องขายสินค้าให้ได้ ส่วนเข้ามาเป็นพริตตี้ได้ก็เพราะมีคนรู้จักแนะนำให้มาลองทำดู เหมยคิดว่าไม่เสียหายอะไรและอยากลองดู ก็เลยไปทำซึ่งงานแรกเป็นพริตตี้ของผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม ครั้งแรกตื่นเต้นมากๆพูดผิดๆถูกๆ เหมยบอกว่าตอนนี้ทำงานพริตตี้มาได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ถือว่ายังใหม่ในวงการนี้เพราะเธอเพิ่งมาเริ่มทำจริงจังเมื่อเรียนจบนี่เอง
เข้ามาเป็นอีซูซุ เลดี้ได้อย่างไร ?
"ตอนนั้นเหมยเรียนจบก่อนเพื่อนเพราะเรียนแค่ 3 ปีครึ่งก็เลยว่างๆอยู่ พอดีเห็นแผ่นป้ายรับสมัครที่มหาวิทยาลัยก็เลยลองไปสมัครดู แต่กว่าจะตัดสินใจไปสมัครก็วันสุดท้ายพอดีค่ะ ยิ่งตอนวันที่มาสัมภาษณ์เกรงมากเพราะคนเป็นพันๆไม่คิดว่าจะเข้ารอบ แล้วอีกอย่างเราก็ยังไม่เคยประกวดที่ไหนมาก่อน ก็เลยเขินๆหน่อย แต่คิดซะว่าทำเต็มความสามารถแล้ว"
ตั้งแต่การประกวดตอนนั้นถึงตอนนี้เป็นอีซูซุเลดี้กี่เดือนแล้ว?
"เดือนมีนานี้ก็ครบ 6เดือนแล้ว แล้วมีประสบการณ์ไรบ้างในการเป็นเลดี้ ก็รู้สึกดีนะ งานแรกที่ทำเป็นงานเปิดตัวอีซูซุ 3000 ดีดีไอ รุ่นใหม่เครื่องยนต์ใหม่ ทุกคนฝากความหวังไว้มาก ตื่นเต้น เพราะว่า วันแรก ก็พลาด ทุกคนพลาดหมด ก็คือกดดัน แล้วพอวันที่2 เป็นสื่อมวลชน รอบแรกก็ไม่เท่าไรเพราะเป็นดีลเลอร์ก็รู้ว่าทุกคนพลาดหมด ก็ไม่ได้ตั้งใจให้พลาด รู้ว่าทุกคนตื่นเต้น เห็นกล้องเห็นคนตื่นเต้นไปหมด พอวันที่ 2 เป็นงานรอบสื่อมวลชน ก็กดดัน แต่วันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี นี่ก็เป็นงานแรกที่ทำ หลังจากนั้นก็ออกต่างจังหวัดบ้าง พวกเปิดตัวมิว 7 ก็เริ่มคลายเครียดไปเยอะ แต่ว่างานแรกๆที่ออกต่างจังหวัดก็เครียดเหมือนกัน กลัวทำได้ไม่ดี"
เหมยคิดอย่างไรกับคำว่า "พริตตี้" ?
"สมัยก่อนคนอาจคิดว่าพริตตี้เป็นอาชีพเสริม แต่ว่าสมัยนี้ คนเป็นพริตตี้เยอะขึ้น เยอะมากๆเป็นหมื่นๆคนก็ว่าได้การที่เราก้าวมาตรงนี้แล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด มันเหมือนเป็นการสร้างให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นงานเอ็มซี ก็คือเป็นงานที่ท้าทาย คือเราต้องตีโจทย์ที่เค้าให้เรามาและเราก็ต้องทำให้ได้ ให้คนที่เข้ามาดูเรา ฟังในสิ่งที่เราพูด คือคนที่เข้ามาทำในตรงนี้ได้ก็ต้องมีความมั่นใจด้วย ก็ถือว่าอาชีพพริตตี้เป็นอาชีพที่ดีอาชีพหนึ่ง ทำรายได้ที่ดีด้วยอันดับแรก
อันดับสองคือทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้นในการพูดเหมือนเป็นพีอาร์เหมือนกันในการทำพริตตี้คนมักจะมองด้านลบแค่สวยอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะสวยอย่างเดียวไม่พอต้องมีการศึกษาที่ดีด้วย เท่าที่รู้จักเพื่อนมาบางคนก็ได้เกียรตินิยมเรียนเก่งๆทั้งนั้นเลย แต่ว่าเค้าก็อยากทดลองความสามารถของตน อย่าไปคิดเหมือนแต่ก่อนเลย พริตตี้ก็มีหลายประเภทมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนอยู่ก็เหมือนทุกๆอาชีพ ตรงนี้เราก็บอกไม่ได้ว่าใครดีไม่ดี แต่ว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ"
ย้อนมาถึงเรื่องการขับรถ?
เหมยบอกว่าตอนนี้ขับรถฮอนด้า ซิตี้ มาตั้งแต่ตอนเรียนปี 2 ซึ่งพ่อกับแม่เป็นคนซื้อให้ ที่ตัดสินใจใช้รถตั้งแต่อายุน้อยๆเพราะว่าระยะทางที่บ้านกับที่มหาวิทยาลัยไกลกันมาก ก่อนหนานี้เคยนั่งรถเมล์แต่ต้องไปหลายต่อจนบางครั้งไปเรียนไม่ทันก็มีจึงซื้อรถเป็นของตัวเอง ถามถึงรถในฝันเหมยบอกว่าเธอชอบรถยุโรปอย่างบีเอ็มดับเบิลยู
"ชอบบีเอ็ม เพราะเป็นอะไรที่คลาสิกเท่าที่เห็นในท้องถนน ขนาดบีเอ็มรุ่นเก่าๆ 20 ปีแล้วก็ยังดูสวยอยู่ แต่รถยี่ห้ออื่นไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เราก็แค่อยากมีเท่านั้นเอง ถ้าถามว่าชอบรุ่นไหนมากที่สุดก็คงเป็นซีรี่ส์ 3 เพราะว่าคันไม่เล็กไม่ใหญ่มาก
นอกจากนี้เวลาที่ซื้อรถ เหมยจะให้ความสำคัญกับรูปทรงและการใช้งานเป็นอันดับแรก อันดับสองการประหยัดน้ำมัน เป็นความแข็งแกร่งของรถ เรียกได้ว่าศูนย์อะไหล่ เยอะไหม แพงแค่ไหน ถ้าเรามีเงินซื้อรถแต่ไม่มีเงินเปลี่ยนอะไหล่ก็แย่นะ ก็ต้องดูควบคู่กันว่าระหว่างดีไซน์ของรถและก็ประหยัดในด้านต่างๆ น้ำมัน ทนทาน แข็งแกร่ง ไม่บุบสลายง่าย เลือกสีที่ถูกโฉลกกับเรา เชื่อดวงนิดหน่อย ถ้าเป็นสีเขียวก็จะได้งานเยอะ ส่วนก็เรื่องสมรรถนะก็อาจจะไม่เน้นรถเท่าผู้ชาย"
การเป็น"ISUZU LADY 2004" ทำให้มีมุมมองต่อแบรนด์นี้อย่างไร?
"ถ้าเป็นรถกระบะก็ต้องเป็นอีซูซุแน่นอน เพราะว่าที่บ้านก็ใช้อยู่เอาไว้ใช้ส่งของ เพราะว่าประหยัดน้ำมันด้วย ยิ่งรุ่นนี้2500 ประหยัดมากกว่าเดิมถึง 20% แบรนด์นี้เป็นรถที่เหมาะสมกับคนไทยเพราะถนนในบ้านเรานั้นค่อนข้างมีปัญหาเยอะ อีซูซุเป็นรถที่ความแข็งแกร่ง ทนทาน และประหยัดน้ำมัน ซึ่งออกแบบได้ตรงกับความนิยมของคนไทยค่ะ แล้วการที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมของอีซูซุก็รู้สึกดีใจมากเพราะว่ามีไม่กี่คนที่ได้ก้าวเข้ามาทำตรงนี้ได้ อีซูซุก็เซ็นสัญญาด้วย 1ปี ก็เท่ากับว่าเราเป็นประชาสัมพันธ์พิเศษให้เขา 1 ปี ถือว่ามันก็ดี ตั้งแต่เริ่มการประกวดแล้ว คิดว่าบริษัทนี้ดีมีมาตรฐานที่ดี ก็รวมไปถึงผู้บริหารทุกท่านด้วยที่ให้โอกาสมาทำงานที่จุดนี้ เขาได้ให้ความไว้วางใจกับเรา"
เหตุการณ์ประทับใจสุดๆ?
"เหมยไม่ค่อยเหตุการณ์ประทับใจเท่าไหร่ค่ะ จะมีก็แต่แบบแปลกๆมากกว่า อย่างงานเปิดตัวเวบไซต์ เราก็พูดไป เป็นเวบไซต์อย่างไร แล้วก็มีคนเข้ามาถามว่า ข้อต่อเป็นอย่างไร เขานึกว่าเรามาพรีเซนต์เรื่องข้อต่อ เป็นแพทย์ เขาก็ยังยืนยันว่าข้อต่อนี่มันไม่ดี แล้วจะให้เราทำอย่างไร ก็ตอบว่าเราไม่ได้ทำเกี่ยวกับข้อต่อ เค้าก็ไม่เชื่อนะ เราก็มุขไปเลย แล้วก็มีงานตลกอีกเยอะ เพราะนิสัยของตัวเองก็เป็นแบบตลก เปิ่นๆ โก๊ะๆ พี่ๆที่อีซูซุเรียกว่า น้องโก๊ะ พี่ช่างภาพก็เรียกน้องโก๊ะ แต่เวลาทำงานก็ตะจริงจัง ส่วนนอกเวลางานก็อีกแบบหนึ่ง"
ถามถึงคนรู้ใจเหมยบอกว่าตอนนีมีแค่คนรู้ใจที่คอยให้คำปรึกษา และคิดวางแผนในอนาคตว่าอาจจะทำงานพริตตี้ไปอีก2-3 ปีแล้วไปเรียนต่อระดับปริญญาโท หรือไม่ก็ทำธุรกิจส่วนตัวแต่ตอนนี้ขอทำงานในหน้าที่อีซูซุ เลดี้ ให้ดีที่สุดก่อน
