จากเป้าหมายยอดขายรถยนต์ "เล็กซัส" ในปีนี้ไม่กี่ร้อยคัน หากเทียบกับรถหรูยี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู ยังถือว่าห่างไกลกันเยอะ แต่ตัวเลขแค่นี้กับการเริ่มทำตลาดจริงจังเพียงปีเศษๆ ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์รุ่น RX330 อย่างไรก็ตามเล็กซัสไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่ เพราะล่าสุดได้ส่ง....... ES300 ใหม่ ลงมาทุบกระเป๋าเศรษฐีไทยกันแล้ว
เลกซัส อีเอส300 ใหม่ เป็นเพียงการไมเนอร์เชนจ์ ปรับเปลี่ยนเพียงบางส่วนเพื่อให้มีความลงตัวมากขึ้น แน่นอนเป็นไม่รู้เป็นกฎระเบียบของผู้ผลิตรถยนต์ทุกยี่ห้อเลยหรือเปล่า? ปรับโฉมแต่ละครั้งสิ่งแรกก็ต้องเป็นกระจังหน้ากันทุกครั้ง เช่นเดียวกันกับอีเอส300 ที่ได้ปรับกระจังหน้าให้ดูดูหรูหราและสปอร์ตมากขึ้น โดยเดิมจะเป็นลายเส้นนอนตามขวาง 6 เส้น ตัดเหลือเพียง 5 เส้นในกรอบเหลี่ยม
ที่ชัดเจนอีกอย่างเห็นจะเป็นไฟสปอร์ตไลท์ จากเดิมเป็นแบบสีเหลี่ยมถูกเปลี่ยนเป็นวงกลม เพื่อให้เข้ากับลักษณะของตัวรถที่เพรียวลม ส่วนเส้นสายส่วนอื่นๆ ยังคงรูปแบบเดิม โดยเติมเต็มให้ดุดันด้วยชุดไฟหน้าและหลังแบบโปรเจคเตอร์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้อีเอส 300 แตกต่างไปจากกฎเกณฑ์ของรถหรูหราทั่วๆ ไป เห็นจะล้อแม็กที่สร้างความแตกต่างไปอีก แม้จะยังคงลวดลายและขนาดเท่าเดิม แต่จากที่เคยชุบโครเมี่ยมมันวาววับเปลี่ยนเป็นแบบสีด้านๆ ธรรมดา ซึ่งก็ทำให้ดูหรูหรามีราคา และมีรสนิยม ที่สำคัญฉีกตลาดไปอีกแบบ เช่นเดียวกับภายที่มาในสไตล์ดุดันด้วยเบาะหนังสีดำทะมึนดูสปอร์ตทีเดียว ขณะที่รถหรูส่วนใหญ่จะหุ้มด้วยหนังแท้สีอ่อนๆ แต่ที่เปลี่ยนและรักษาความเหมือนแบบชาวบ้านคงจะเป็นพวงมาลัยสีลายไม้โอ๊คนี่แหละ
ในการจัดให้สื่อมวลชนทดสอบ เล็กซัส อีเอส300 ทางแผนกรถยนต์เลกซัสของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (ในไทยเล็กซัสยังเป็นแผนกหนึ่งของโตโยต้าอยู่) ใช้เส้นทางสายกระบี่-พังงา-ภูเก็ต เป็นสังเวียนในการทดสอบ ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักอีกเส้นทางหนึ่งของหลายค่าย โดยเฉพาะโตโยต้าที่ชอบใช้เส้นทางแถบนี้มาก เนื่องจากมีความหลากหลายของสภาพถนนให้เฆี่ยนกันได้ ทั้งเส้นโค้งให้สาดกันได้แบบสุดๆ หรือทางตรงที่ทำสปีดความเร็วกันได้เต็มที่ และยังเป็นถนน 4 เลน ไม่ต้องห่วงเรื่องรถสวนทาง
หลังจากลงจากเครื่องบินที่สนามบินกระบี่ และรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลของรถรุ่นนี้ รวมถึงเส้นทางทดสอบกันแล้ว ทันทีที่ล้อหมุนเครื่องยนต์รหัส 1MZ-FE ขนาด 3,000 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 212 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที พร้อมระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติ Super ECT (Electronic Controlled Tranmission) 5 สปีด เริ่มทำงานทันที
ตลอดเส้นทางที่หลากหลายสภาพบนถนนสายกระบี่ ผ่านพังงาน ไปสู่จังหวัดภูเก็ต การตอบสนองของเครื่องยนต์ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะอยู่ในรอบต่ำและรอบสูง การเร่งแซงแต่ละครั้งทำได้ตามใจสั่ง ดังนั้นหากเห็นว่าสภาพเอื้ออำนวย เป็นกดคันเร่งกระชากทันใจและทำให้มั่นใจในการเร่งเซงแต่ละครั้ง เมื่อใดที่กดคันเร่งลงไปคุณรู้ได้ทันที่ว่าม้า 212 ตัวออกจากคอก โดยไม่มีการแตกฝูงให้เสียกำลังแต่อย่างใด
ขณะที่จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลต่อเนื่อง ไม่มีการกระชากให้เสียอารมณ์ การออกตัวจะนิ่มนวลและไหลอย่างสบายๆ แต่เมื่อคิกดาวน์มีการสะดุดและรอรอบเล็กน้อย ทำให้เสียจังหวะการลื่นไหลของเครื่องยนต์ไปบ้าง อรรถรสที่จะได้รับจากขับขี่จึงเสียไป
สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ หากใครที่ชอบขับรถแบบเอามันส์ คงต้องผิดหวังกับการขับขี่เจ้าเลกซัสคันนี้ คงเป็นเพราะวัตถุประสงค์ที่เป็นรถยนต์ระดับบิสสิเนสคลาส มันจึงค่อนข้างนุ่มนวลไปเสียหมด ดังนั้นเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ มีอาการการโยนตัวค่อนข้างชัดเจน ยิ่งเห็นไม่มีรถข้างหน้าขวางอยู่ซัดเข้ามาเต็มแล้ว จึงไม่แปลกที่จะเจอกับอาการท้ายสะบัดนิดๆ เพราะฉะนั้นหากจะขับรถคันนี้ให้สบายอารมณ์แล้วต้องทำตัวเป็นผู้ดีหน่อย
บทสรุปของ เล็กซัส อีเอส300 ใหม่ บอกได้เลยว่า...... ใครที่ชอบขับรถแบบสบายๆ ง่ายๆ นุ่มนวลในทุกการขับขี่ และมีเงินในกระเป๋าอีก 3.47 ล้านบาท ก็ถือเป็นตัวเลือกทีน่าสนใจทีเดียว