เมื่อเปิดบัญชีตรวจสอบทรัพย์สินของพ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็จะพบว่าท่านมีหุ้น ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆอีกมาก หนึ่งในนั้นก็คือ “รถยนต์” แต่ถ้าถามว่ามีกี่คนที่รู้ว่าท่านชอบขับรถอะไรกัน ก็อาจจะยังเดาไม่ออกเพราะเมื่อสำรวจโรงรถของบ้านจันทร์ส่องหล้าดูแล้ว จะพบว่ามีรถอยู่หลายสิบคันทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ , เฟอร์รารี่ (คันนี้ของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โอ๊ค-พานทองแท้) , บีเอ็มดับเบิลยู ฯลฯ แถมราคาค่าตัวของแต่ละคันก็ไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาท
แต่หนึ่งในนั้นมีรถหรูสัญชาติเยอรมันอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู” ซึ่งแหล่งข่าววงในกระซิบกับ “ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง” มาว่าท่านมียี่ห้อนี้อยู่ถึง 4 คัน แต่ที่เราทราบมาแน่นอน 2 รุ่นด้วยกันก็คือ ซีรี่ส์ 7 กันกระสุนและซีรี่ส์ 6 คูเป้ ส่วนอีกสองรุ่นนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรถหรูสายพันธุ์เยอรมันนี้ถึงได้โดนใจผู้นำประเทศขนาดนี้ เรามีคำตอบให้แล้ว
ซีรี่ส์ 7 กันกระสุนสุดแพง
ในเมื่อชีวิตต้องเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศหรือคนธรรมดาที่มีศัตรูเยอะ หลายคนคงสงสัยว่าในเมื่อความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดแล้ว พวกเขาจะเดินทางกันอย่างไร แค่มีบอดี้การ์ดเดินตามคุมเห็นทีจะยังไม่เพียงพอ ระดับผู้นำประเทศจึงต้องมีรถกันกระสุนเพิ่มอีก ซึ่งนับตั้งแต่ครั้งการประชุมเอเปกปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูก็เคยได้รับความไว้วางใจให้เป็นยานพาหนะต้อนรับ 21 สุดยอดผู้นำ นอกจากซีรี่ส์ 7 ตัวที่ขายทั่วไปแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังนำเวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งได้ติดเกราะกันกระสุนนำเข้ามาจากประเทศเยอรมันนี โดยรุ่นที่ท่านนายกนั่งก็คือซีรี่ส์ 7 รุ่น E66 ที่เป็นพวงมาลัยขวาเพียงคันเดียวที่มีอยู่
ซีรี่ส์ 7 คันนี้จะเป็นเครื่องเจเนอเรชั่นใหม่ วาล์วโทรนิก และไดเร็กอินเจ็กชั่น ขนาด 6 ลิตร ซึ่ง และรถยนต์หุ้มเกราะที่ปราดเปรียวที่สุดคันหนึ่ง เพราะได้มีการประกอบในโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยูเอง ไม่ใช่ผลิตแล้วไปติดเกราะภายหลัง ซึ่งแบบนั้นจะทำให้น้ำหนักของรถยนต์สูงขึ้น จนทำให้รถยนต์กลายเป็นเป้านิ่งเคลื่อนที่ โดยภายในก็ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์กระจกนิรภัยชนิดหนาเป็นหุนแล้วยังมีตัวถังที่หนาเป็นเกราะแต่ดีไซน์รูปร่างเหมือนเดิม พร้อมกับแผ่นเกราะใต้ท้องรถ เพื่อป้องกันการระเบิดที่วางใต้ท้องรถ และท่อออกซิเจนป้องกันการโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา เป็นต้น
สนนราคาบีเอ็มฯคันนี้จึงเริ่มต้นที่ 57 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับความปลอดภัยในชีวิต
ซีรี่ส์ 6 คูเป้ คันใหม่ในคอเลกชั่น
มาต่อกันที่ซีรี่ส์ 645 Ci คันสีเทาเข้ม ที่เห็นนี้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เพราะทางบีเอ็มดับเบิลยูไม่ได้ทำการผลิตมาเกือบ 20 ปีมาแล้ว แต่เมื่อรถสปอร์ตคูเป้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง ทางโรงงานจึงได้เริ่มหันมาผลิต ซีรี่ส์ 6 ออกสู่ตลาด โดยในครั้งนี้ได้มีการออกแบบให้ออกมาคล้ายกับของเดิมมากที่สุด แต่ก็ก็ใส่ความหูรหราแบบซีรี่ส์ 7 ลงไปด้วย ซึ่งได้เริ่มผลิตรุ่นพวงมาลัยซ้ายไปเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนพวงมาลัยขวานั้นได้ผลิตในไทยเป็นที่แรกในโลก และได้เปิดตัวไปเมื่องานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
สำหรับซีรี่ส์ 6 คันนี้เป็นรถสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่นั่ง เครื่องยนต์ วี8 333 แรงม้า มีระบบวาว์ลโทรนิค ช่วยควบคุมระบบจ่ายน้ำมันให้ประหยัดถึง 13 % และยังมีความพิเศษตรงที่ ซีรี่ส์ 6 คันนี้ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผสมผสานการใช้วัสดุต่างๆในการประกอบตัวถัง อาทิเช่น อลูมิเนียม, เหล็ก ,เทอร์โมพลาสติก และ วัสดุพิเศษที่เรียกว่า Sheet Molded Compound (SMC) เอสเอ็มซี การผสมผสานอย่างลงตัวนี้มีผลทำให้น้ำหนักตัวของรถ คันนี้อยู่ที่ 1,620 กิโลกรัม ซึ่งจัดได้ว่าน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาดเดียวกัน เกียร์ Sequential Manual Gearbox หรือ SMG 6 สปีด
ทำให้ซี่รีส์ 6 คันนี้สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 ในเวลาเพียง 5.6 วินาที ด้วยสมรรถนะแบบนี้จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจท่านนายกเป็นอย่างมากจนยอมควักกระเป๋าจ่ายไป 12 ล้านบาทเพื่อมาขับเล่นๆอีกคัน
บริการพิเศษสำหรับท่านนายก?
ถึงแม้ว่าทางบีเอ็มดับเบิลยูออกมาปฏิเสธว่าการบริการหลังการขายของทางบริษัทนั้นบริการให้กับลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซ่อมรถหรือบริการอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้ทางบีเอ็มดับเบิลยูได้ทีการเปิดศูนย์บริการยูโรป้า ธนบุรีไปเมื่อไม่นานมานี้ที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ซึ่งใกล้กับบ้านพักของท่านนายกซึ่งอยู่ที่ซอย 69 งานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายแบบพิเศษหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆถ้าท่านนายกก็มีรถหรูยี่ห้อนี้ถึง 4 คัน จะแปลกอะไรถ้าทางบีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีกสักแห่ง เพื่อลูกค้าคนพิเศษเช่นนี้
เห็นความพิเศษของรถแต่ละคันแล้วอาจจะหาคำตอบได้ว่าเหตุใดท่านนายกทักษิณจึงเป็นเจ้าของรถหรูยี่ห้อนี้ถึง 4 คัน เพระรวมมูลค่ารถทั้งหมดนี้ก็ร่วม 100 ล้านแล้ว!!
แต่หนึ่งในนั้นมีรถหรูสัญชาติเยอรมันอย่าง “บีเอ็มดับเบิลยู” ซึ่งแหล่งข่าววงในกระซิบกับ “ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง” มาว่าท่านมียี่ห้อนี้อยู่ถึง 4 คัน แต่ที่เราทราบมาแน่นอน 2 รุ่นด้วยกันก็คือ ซีรี่ส์ 7 กันกระสุนและซีรี่ส์ 6 คูเป้ ส่วนอีกสองรุ่นนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรถหรูสายพันธุ์เยอรมันนี้ถึงได้โดนใจผู้นำประเทศขนาดนี้ เรามีคำตอบให้แล้ว
ซีรี่ส์ 7 กันกระสุนสุดแพง
ในเมื่อชีวิตต้องเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศหรือคนธรรมดาที่มีศัตรูเยอะ หลายคนคงสงสัยว่าในเมื่อความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดแล้ว พวกเขาจะเดินทางกันอย่างไร แค่มีบอดี้การ์ดเดินตามคุมเห็นทีจะยังไม่เพียงพอ ระดับผู้นำประเทศจึงต้องมีรถกันกระสุนเพิ่มอีก ซึ่งนับตั้งแต่ครั้งการประชุมเอเปกปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูก็เคยได้รับความไว้วางใจให้เป็นยานพาหนะต้อนรับ 21 สุดยอดผู้นำ นอกจากซีรี่ส์ 7 ตัวที่ขายทั่วไปแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังนำเวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งได้ติดเกราะกันกระสุนนำเข้ามาจากประเทศเยอรมันนี โดยรุ่นที่ท่านนายกนั่งก็คือซีรี่ส์ 7 รุ่น E66 ที่เป็นพวงมาลัยขวาเพียงคันเดียวที่มีอยู่
ซีรี่ส์ 7 คันนี้จะเป็นเครื่องเจเนอเรชั่นใหม่ วาล์วโทรนิก และไดเร็กอินเจ็กชั่น ขนาด 6 ลิตร ซึ่ง และรถยนต์หุ้มเกราะที่ปราดเปรียวที่สุดคันหนึ่ง เพราะได้มีการประกอบในโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยูเอง ไม่ใช่ผลิตแล้วไปติดเกราะภายหลัง ซึ่งแบบนั้นจะทำให้น้ำหนักของรถยนต์สูงขึ้น จนทำให้รถยนต์กลายเป็นเป้านิ่งเคลื่อนที่ โดยภายในก็ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์กระจกนิรภัยชนิดหนาเป็นหุนแล้วยังมีตัวถังที่หนาเป็นเกราะแต่ดีไซน์รูปร่างเหมือนเดิม พร้อมกับแผ่นเกราะใต้ท้องรถ เพื่อป้องกันการระเบิดที่วางใต้ท้องรถ และท่อออกซิเจนป้องกันการโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา เป็นต้น
สนนราคาบีเอ็มฯคันนี้จึงเริ่มต้นที่ 57 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับความปลอดภัยในชีวิต
ซีรี่ส์ 6 คูเป้ คันใหม่ในคอเลกชั่น
มาต่อกันที่ซีรี่ส์ 645 Ci คันสีเทาเข้ม ที่เห็นนี้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เพราะทางบีเอ็มดับเบิลยูไม่ได้ทำการผลิตมาเกือบ 20 ปีมาแล้ว แต่เมื่อรถสปอร์ตคูเป้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง ทางโรงงานจึงได้เริ่มหันมาผลิต ซีรี่ส์ 6 ออกสู่ตลาด โดยในครั้งนี้ได้มีการออกแบบให้ออกมาคล้ายกับของเดิมมากที่สุด แต่ก็ก็ใส่ความหูรหราแบบซีรี่ส์ 7 ลงไปด้วย ซึ่งได้เริ่มผลิตรุ่นพวงมาลัยซ้ายไปเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนพวงมาลัยขวานั้นได้ผลิตในไทยเป็นที่แรกในโลก และได้เปิดตัวไปเมื่องานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
สำหรับซีรี่ส์ 6 คันนี้เป็นรถสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่นั่ง เครื่องยนต์ วี8 333 แรงม้า มีระบบวาว์ลโทรนิค ช่วยควบคุมระบบจ่ายน้ำมันให้ประหยัดถึง 13 % และยังมีความพิเศษตรงที่ ซีรี่ส์ 6 คันนี้ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผสมผสานการใช้วัสดุต่างๆในการประกอบตัวถัง อาทิเช่น อลูมิเนียม, เหล็ก ,เทอร์โมพลาสติก และ วัสดุพิเศษที่เรียกว่า Sheet Molded Compound (SMC) เอสเอ็มซี การผสมผสานอย่างลงตัวนี้มีผลทำให้น้ำหนักตัวของรถ คันนี้อยู่ที่ 1,620 กิโลกรัม ซึ่งจัดได้ว่าน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาดเดียวกัน เกียร์ Sequential Manual Gearbox หรือ SMG 6 สปีด
ทำให้ซี่รีส์ 6 คันนี้สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 ในเวลาเพียง 5.6 วินาที ด้วยสมรรถนะแบบนี้จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจท่านนายกเป็นอย่างมากจนยอมควักกระเป๋าจ่ายไป 12 ล้านบาทเพื่อมาขับเล่นๆอีกคัน
บริการพิเศษสำหรับท่านนายก?
ถึงแม้ว่าทางบีเอ็มดับเบิลยูออกมาปฏิเสธว่าการบริการหลังการขายของทางบริษัทนั้นบริการให้กับลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซ่อมรถหรือบริการอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้ทางบีเอ็มดับเบิลยูได้ทีการเปิดศูนย์บริการยูโรป้า ธนบุรีไปเมื่อไม่นานมานี้ที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ซึ่งใกล้กับบ้านพักของท่านนายกซึ่งอยู่ที่ซอย 69 งานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายแบบพิเศษหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆถ้าท่านนายกก็มีรถหรูยี่ห้อนี้ถึง 4 คัน จะแปลกอะไรถ้าทางบีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีกสักแห่ง เพื่อลูกค้าคนพิเศษเช่นนี้
เห็นความพิเศษของรถแต่ละคันแล้วอาจจะหาคำตอบได้ว่าเหตุใดท่านนายกทักษิณจึงเป็นเจ้าของรถหรูยี่ห้อนี้ถึง 4 คัน เพระรวมมูลค่ารถทั้งหมดนี้ก็ร่วม 100 ล้านแล้ว!!
