ต่อจากการเจาะตลาดด้วยรุ่นเอช 2 ทั้งตัวถังแวกอน และปิกอัพ ถึงตอนนี้ฮัมเมอร์ แบรนด์ออฟโรดดังในเครือจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส ขยับแนวรุกลงล่างกับเอสยูวีรุ่นใหม่ในชื่อเอช3 ที่พลิกโฉมด้วยภาพลักษณ์ใหม่ในสไตล์ตัวลุยแบบย่อส่วน และหวังแชร์ส่วนแบ่งในตลาดจากออฟโรดต่างแดนอย่างโตโยต้า โฟร์รันเนอร์ และฮอนด้า ไพล็อต ที่เข้ามากอบโกยยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น จากขนาดตัวถังที่เล็กลง ทำให้ฮัมเมอร์หวังขยายแนวรุกโดยส่งออกไปเปิดตลาดภูมิภาคอื่นทั่วโลกอีกด้วย
เอช3 เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยขนาดตัวถังแบบ 5 ประตูที่มีความยาวใกล้เคียงกับรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่างฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยความยาว 4,742 มิลลิเมตร กว้าง 2,170 มิลลิเมตร สูง 1,893 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,842 มิลลิเมตร

จากจุดเด่นตรงนี้ ทำให้ฮัมเมอร์สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังมีการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่เน้นผู้ชายเป็นหลัก มาให้ความสำคัญกับลูกค้าผู้หญิงมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนถึง 40% เลยทีเดียว อีกทั้งยังทุ่มงบถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 200 ล้านบาทสำหรับทำการตลาด ซึ่งทางฮัมเมอร์คาดหวังว่า เอช3 จะมียอดจำหน่ายในช่วงปี 2005 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทำตลาดถึง 50,000 คัน
รูปลักษณ์ภายนอกยังเน้นความบึกบึนในสไตล์ตัวถังทรงเหลี่ยมเหมือนกล่องตามแบบฉบับของฮัมเมอร์เหมือนเดิม ส่วนเครื่องยนต์เป็นบล็อก 5 สูบเรียง 3,500 ซีซี 220 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนระบบเกียร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ออฟโรดจากค่ายจีเอ็มมีให้ลูกค้าเลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะซึ่งปกติแล้วจะมีแต่เกียร์อัตโนมัติเท่านั้น โดยทางฮัมเมอร์คาดหวังว่าเกียร์ธรรมดาจะสามารถขายได้ในสัดส่วน 10-20% ของยอดทั้งหมด
ฮัมเมอร์จะขึ้นสายการผลิตเอช3 ที่โรงงานในเชรฟพอร์ต เมืองลาฟาเยตต์ โดยคาดว่าจะมีราคาในเมืองลุงแซมประมาณ 30,000-35,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.2-1.4 ล้านบาท จะเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปีหน้า ส่วนตลาดต่างแดนมีขายแน่นอน แต่ยังไม่เปิดเผยช่วงเวลาในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เอช3 เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยขนาดตัวถังแบบ 5 ประตูที่มีความยาวใกล้เคียงกับรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่างฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยความยาว 4,742 มิลลิเมตร กว้าง 2,170 มิลลิเมตร สูง 1,893 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,842 มิลลิเมตร
จากจุดเด่นตรงนี้ ทำให้ฮัมเมอร์สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังมีการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่เน้นผู้ชายเป็นหลัก มาให้ความสำคัญกับลูกค้าผู้หญิงมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนถึง 40% เลยทีเดียว อีกทั้งยังทุ่มงบถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 200 ล้านบาทสำหรับทำการตลาด ซึ่งทางฮัมเมอร์คาดหวังว่า เอช3 จะมียอดจำหน่ายในช่วงปี 2005 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทำตลาดถึง 50,000 คัน
รูปลักษณ์ภายนอกยังเน้นความบึกบึนในสไตล์ตัวถังทรงเหลี่ยมเหมือนกล่องตามแบบฉบับของฮัมเมอร์เหมือนเดิม ส่วนเครื่องยนต์เป็นบล็อก 5 สูบเรียง 3,500 ซีซี 220 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนระบบเกียร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ออฟโรดจากค่ายจีเอ็มมีให้ลูกค้าเลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะซึ่งปกติแล้วจะมีแต่เกียร์อัตโนมัติเท่านั้น โดยทางฮัมเมอร์คาดหวังว่าเกียร์ธรรมดาจะสามารถขายได้ในสัดส่วน 10-20% ของยอดทั้งหมด
ฮัมเมอร์จะขึ้นสายการผลิตเอช3 ที่โรงงานในเชรฟพอร์ต เมืองลาฟาเยตต์ โดยคาดว่าจะมีราคาในเมืองลุงแซมประมาณ 30,000-35,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.2-1.4 ล้านบาท จะเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปีหน้า ส่วนตลาดต่างแดนมีขายแน่นอน แต่ยังไม่เปิดเผยช่วงเวลาในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ