มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน แม้จะเคยเห็นทั้งในรูปและสัมผัสตัวจริงมาแล้ว ในงานแสดงรถยนต์ต่างประเทศ ภายใต้ชื่อรุ่น “แกรนดิส” แต่นั่นเป็นการได้รู้จักอย่างผิวเผิน จนกระทั้งเมื่อได้เจอตัวแบบเต็มๆ และเป็นตัวสำหรับทำตลาดในไทย คำแรกที่พูดออกมาพร้อมๆ กับเพื่อนสื่อมวลชน ที่จะไปทดสอบรถรุ่นนี้..... “สวยและลงตัวกว่าที่เคยรู้จักเสียอีก !!”
เพราะจากรูปลักษณ์ภายนอกของ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ได้รับการออกแบบอย่างนำสมัย มีเส้นสายโค้งมนสวยงาม และด้วยมิติตัวถังที่ยาวถึง 4,765 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,655 มิลลิเมตร แม้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเอ็มพีวีอย่าง ฮอนด้า โอดิสซีย์ หรือเกีย คาร์นิวัล แต่จากการดีไซน์ลงตัว ทำให้มีขนาดกะทัดรัด และดูคล่องตัว เหมือนอย่างมินิเอ็มพีวี โตโยต้า วิช หรือฮอนด้า สตรีม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่คิดหรือรู้สึกไปเอง พิสูจน์ได้จากไม่ว่าจะจอดรถที่ไหน เป็นต้องมีคนเข้ามาถามเหมือนกันหมดว่า ขนาดเดียวกับวิช และสตรีมหรือเปล่า?
รูปทรงด้านหน้าของมิตซูบิชิ สเปซ แวกอน คล้ายลิ่ม ซึ่งเป็นรูปแบบของรถยนต์นั่งทุกรุ่นของมิตซูบิชิทั่วโลก ด้วยฝากระโปรงหน้าเทลาดจนพบกระจังหน้า พร้อมโลโก้ทรีไดมอนด์แปะติดอยู่ตรงกลางกระจังหน้าชัดเจน ดูแล้วให้ความหรูหรา ทันสมัย และเป็นที่จดจำได้ง่าย
เมื่อมองจากเส้นบนของไฟหน้า ซึ่งลากยาวโค้งไปจรดด้านท้าย ทำให้ตัวรถมีความเรียวและลู่ลมพอตัว ขณะที่ด้านหลังไฟท้ายขนาดยาวในแนวตั้งตามเสาหลัง แพรวพรวกับดวงไฟ LED ถึง 66 ดวง ทำให้รถคันหลังมองเห็นชัดเจน เสียดายที่กันชนท้ายห้อยไปนิด แต่โดยรวมแล้วสอบผ่านเรื่องความสวยงาม
เมื่อเข้าไปสัมผัสภายในห้องโดยสาร ยิ่งทำให้ชอบรถรุ่นนี้เข้าไปอีก เพราะการออกแบบมีความทันสมัยนิยม ด้วยห้องโดยสารสีทูโทน แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ฟรีฟอร์มสีทูโทน โค้งมน และดูมีความเป็นสปอร์ตกับมาตรวัดเรืองแสง 3 ระดับ หลังพวงมาลัยแบบ 4 ก้าน ที่มีโลโก้ทรีไดมอนด์แปะอยู่ตรงกลางมองเห็นชัดเจน
แม้จะดูภายนอกเพรียวและกะทัดรัด แต่เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร กลับมีความกว้างขวางสะดวกสบายเหมือนรถเอ็มพีวีคู่แข่งระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งด้านหน้า หรือหลัง ที่สำคัญเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถปรับ หรือพับ ได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้มีความอเนกประสงค์ในการใช้งาน และบรรจุสัมภาระได้มากทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้น มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ยังติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะความบันเทิงภายในรถ ที่มิตซูบิชิจำลองโฮมเธียเตอร์เข้ามาไว้ในห้องโดยสาร กับเครื่องเล่น DVD/MP3 ในแผงคอนโซลหน้าพร้อมจอมิเตอร์แบบ Touch Screen และอีกจอขนาด 6.5 นิ้ว ติดตั้งบนเพดานห้องโดยสารตรงกลาง พร้อมไฟอ่านหนังสือ 6 ตำแหน่ง และมีแผงควบคุมระบบปรับอากาศ พร้อมปุ่มปรับทิศทางแยกสวิตซ์ควบคุมช่องแอร์ สำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 เพื่อความเป็นส่วนตัวสะดวกสบาย เรียกว่าครบเครื่องทั้งความบันเทิงและความสบาย
สิ่งที่ต้องพิสูจน์ต่อไปย่อมเป็นสมรรถนะพลังขับเคลื่อนของสเปซ แวกอน ซึ่งในการทดสอบวิ่งกรุงเทพฯ-หัวหิน เครื่องยนต์ MIVEC 4G69 ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ ฉุดรถคันนี้วิ่งฉิวทุกครั้งที่กระแทกคันเร่ง แม้ว่าจะอยู่ในรอบเครื่องต่ำ สามารถเร่งแซงรถคันอื่นได้สบายๆ โดยไม่ต้องเชนเกียร์ลงให้เสียเวลา
ทั้งนี้ยกความดีให้กับระบบทำงานของ MIVEC ซึ่งเป็นระบบการเปิดองศาของท่อไอดี และท่อไอเสียให้ทำงานอย่างเหมาะสม ในรอบที่ทำงานแตกต่างกันทั้งรอบเครื่องยนต์ต่ำ และสูง จุดดีของระบบนี้ทำให้ในยามที่คุณขับปกติ หรือในเมือง จะช่วยประหยัดน้ำมัน และเมื่อต้องการพลังฉุดกระชาก ก็สามารถเรียกมาได้ทันที ยิ่งเมื่อผสมกับระบบขับเคลื่อนของเกียร์อัตโนมัติ INVECS-II 4 สปีด ที่ขึ้นชื่อของมิตซูบิชิแล้ว ทำให้การขับขี่ของคุณมีความง่ายดายและสนุกขึ้นไปอีก
สำหรับช่วงล่างอิสระทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง ด้านหลังแบบอิสระเซมิเทรลลิ่งอาร์ม ให้ความรู้สึกที่มั่นใจในการขับขี่อย่างมาก และเมื่อลองเฆี่ยนด้วยความเร็วสูงๆ พร้อมกับเร่งแซงซ้ายขวาอย่างรวดเร็วระยะหนึ่ง รู้สึกโคลงและมีอาการหลุดนิดๆ แต่อย่างว่ารถที่มีมิติตัวถังใหญ่เช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสู้รถเก๋งไม่ได้ เพราะวัตถุประสงค์การใช้งานย่อมมีความแตกต่างกันแน่นอน และที่สำคัญไม่แนะนำให้ทำแบบนี้ด้วย ดังนั้นหากวัดกันที่มาตรฐานของการใช้งานของมันแล้วสอบผ่านได้ ไม่ว่าจะเป็นการทรงตัวและความนุ่มนวล
เมื่อได้รับทราบถึงสมรรถนะ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ให้มาแล้ว ที่เหลือก็เพียงราคาเท่านั้นว่า จะเหมาะสมหรือไม่? แต่ภายหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เคาะราคาพิเศษช่วงแนะนำจนถึงกลางเดือนธันวาคม 1.49 ล้านบาท จากนั้นจะปรับเป็น 1.55 ล้านบาท.......
บอกได้เลยว่ามีความเหมาะสมและลงตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ สมรรถนะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ตลอดจนอุปกรณ์ปลอดภัยต่างๆ เหลือล้นกว่าราคาที่เคาะออกมา ทั้งช่วงแนะนำพิเศษและหลังปรับขึ้น ยิ่งเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาแตะหลักสองล้านบาทขึ้นไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มีแรงดึงดูดมหาศาลกว่าเยอะ!!