กลายเป็นเรื่องสุดเชยไปแล้วสำหรับยุคปัจจุบัน ถ้าแบรนด์รถยนต์ไหนก็ตามคิดจะผลิตรถสปอร์ตคูเป้ขึ้นมาสักรุ่น แต่ดันเป็นหลังคาแข็งยึดติดตายกับตัวถัง ไม่สามารถพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อแปลงร่างเป็นสปอร์ตเปิดประทุน
หลายค่ายเดินตามรอยความสำเร็จประเภทนี้นับตั้งแต่เมอร์เซเดส-เบนซ์เริ่มนำมาใช้กับรุ่น เอสแอลเคในปี 1996 เพราะไม่ว่าจะเป็นเปอโยต์ 206ซีซี/307ซีซี, เรโนลต์ เมกาน ซีซี และโอเปิล ไทกรา โดยมีฟอร์ดเป็นรายล่าสุด กับรุ่นโฟกัส วิกเนล ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแค่คันต้นแบบสำหรับจัดแสดง แต่ก็มีข่าวแย้มออกมาเล็กน้อยว่า จะขึ้นสายการผลิตจริงแน่นอนในอนาคต เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับสายพันธุ์โฟกัส รถยนต์ยอดนิยมของฟอร์ด
สำหรับชื่อรุ่นเป็นการให้เกียรติกับนักออกแบบชื่อดังผู้ล่วงลับ คือ อัลเฟรโด วิกเนล (1913-1969) ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์งานออกแบบให้กับรถยนต์ของฟอร์ดที่จำหน่ายในตลาดยุโรป และบริษัทรับออกแบบ คือ คาร์รอซเซอเรีย วิกเนล ของอัลเฟรโด ก็ได้สร้างสรรค์ยานยนต์รุ่นใหม่ทั้งรถสปอร์ต และรถยนต์นั่งออกสู่ตลาดช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960
คริส เบิร์ด หัวหน้าศูนย์ออกแบบของฟอร์ด ยุโรปให้ความเห็นถึงต้นกำเนิดของโครงการนี้ว่า "ลองจินตนาการดูว่า หลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของช่วงฤดูร้อน การขับรถตามบนเส้นทาง บนภูเขาอันคดเคี้ยวด้วยรถสปอร์ตคูเป้สักคันถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก จากนั้นเมื่อถึงชายทะเล แน่นอนว่า สิ่งที่คุณต้องการคือการขับรถสปอร์ตเปิดประทุนกินลม พร้อมกับมองผู้คนไปมา นั่นแหล่ะคือ สิ่งที่เราสร้างสรรค์รถสปอร์ตรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อรองรับกับความต้องการอันหลากหลายของผู้คนในยุคปัจจุบัน"
โฟกัส ซิกเนล ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับโฟกัส รุ่นใหม่ตัวถังแฮทช์แบ็ก ซึ่งพื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นนี้ได้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์รุ่นต่างๆในเครือฟอร์ด เช่น มาสด้า 3 และวอลโว่ เอส40/วี50 มาก่อนแล้ว
งานออกแบบทั้งหมดเป็นฝีมือของทีมงานจากศูนย์ออกแบบของฟอร์ดในยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองดันตัน ประเทศอังกฤษ และสร้างสรรค์สปอร์ตคูเป้หลังคาแข็งพับได้ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 4 ที่นั่ง พร้อมรูปลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงความปราดเปรียวและหรูหราในทุกรายละเอียด โดยงานออกแบบในบางจุด ได้รับอิทธิพลงานออกแบบในช่วงทศวรรษที่ 1960 ของอัลเฟรโด วิกเนล ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
จุดเด่นอยู่ที่ชุดหลังคาแข็งซึ่งสามารถพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า โดยควบคุมการทำงาน ผ่านทางปุ่มจากภายในห้องโดยสาร และใช้เวลาไม่นานในการพับหลังคาแข็งลงไปเก็บที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย ซึ่งแม้ว่าจะไม่เปิดเผยว่าใช้เมื่อเท่าไร แต่จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในปัจจุบัน การทำงานในแต่ละครั้งไม่ว่าจะพับเก็บหรือกางออกก็ไม่น่าจะเกิน 20 วินาที และเสริมความโฉบเฉี่ยวอย่างเหนือระดับด้วยล้อแม็กวงโตที่มีขนาดถึง 20 นิ้ว
รายละเอียดการตกแต่งภายในถือเป็นอีกจุดเด่นสำหรับสปอร์ตต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่งนาเรนดา นาราเดีย หัวหน้าทีมออกแบบภายในกล่าวว่า การเลือกโทนสีและการใช้วัสดุชั้นดีเช่นหนังแท้มาใช้ในการออกแบบและตกแต่ง ถือเป็นจุดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้เพิ่มความหรูหราได้เป็นอย่างดี
ทีมออกแบบของฟอร์ดเลือกใช้โทนสีออกอย่างอมัลฟี่ ไลต์ (Amalfi Light) เพื่อดึงความหรูหรา และช่วยให้ตัวรถดูโอ่โถงขึ้นมา ขณะที่ทุกรายละเอียดถูกตกแต่งอย่างเหมาะสมในระดับที่รถสปอร์ตระดับนี้จะสามารถมอบให้กับลูกค้าได้ และมีรูปแบบที่พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ล้ำสมัยเหมือนกับรถยนต์ต้นแบบบางรุ่น
น่าเสียดายที่ฟอร์ดเปิดเผยข้อมูลของโฟกัส วิกเนลออกมาไม่มากนัก แต่สำหรับใครที่สนใจ เตรียมเก็บเงินกันไว้ให้ดี เพราะมีการเปิดเผยว่าฟอร์ดพร้อมส่งทำตลาดอย่างแน่นอน และคาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2005 เพื่อตัดหน้าโฟล์คสวาเกน ที่จะเปิดตัวรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาแข็งพับได้ ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรุ่นกอล์ฟออกมาทำตลาดด้วยเช่นกัน แต่ของโฟล์คสวาเกนเป็นปี 2006