xs
xsm
sm
md
lg

เชฟโรเลต คอร์เวตต์ (Chevrolet Corvette)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


3 พฤศจิกายน 1911 คือวันแรกที่หลุยส์ เชฟโรเลต (Louis Chevrolet) นักแข่งรถ ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกาในทศวรรษ 1910 ผู้เป็นเจ้าของชัยชนะใน สังเวียนรถแข่ง Indy Car ในยุคนั้นหลายรายการ จับมือกับ วิลเลียม ซี ดูแรนท์ (William C. Durant) ผู้ก่อตั้ง เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (General Motors Corporation – GM) บริษัทผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลก ร่วมกันให้กำเนิด เชฟโรเลต มอเตอร์ส ดิวิชัน (Chevrolet Motors Division) ด้วยจุดมุ่งหมายในการผลิตรถยนต์คุณภาพสูง เพื่อตอบสนอง ความต้องการของชาวอเมริกัน

และต่อจากนี้ เป็นเพียงบางส่วนของรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นประวัติศาสตร์สุดคลาสสิก ที่สร้าง ชื่อเสียงอย่างมากในอดีต และยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกตราบจนถึงปัจจุบัน "ผู้จัดการ  มอเตอร์ริ่ง"  จะพาท่านผู้อ่านร่วมย้อนอดีตไปกับ เชฟโรเลตที่มีชื่อเสียงแต่ละรุ่น  โดยเริ่มต้นที่  เชฟโรเลต  คอร์เวตต์

เชฟโรเลต คอร์เวตต์ (Chevrolet Corvette)

ตำนานของรถสปอร์ตอเมริกันพันธุ์แท้แบบแรกในประวัติศาสตร์รุ่นนี้ เริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 1951 เมื่อ ฮาร์ลีย์ เอิร์ล (Harley Earl) หัวหน้าฝ่ายออกแบบของจีเอ็ม ไปชมการแข่งขัน รถสปอร์ตรายการ วัตกินส์ เกลน สปอร์ตส คาร์ เรซ (Watkins Glen Sports Cars Race) และได้พบเห็นรถสปอร์ตชั้นนำจากยุโรปมากมาย จนเกิดแรง บันดาลใจที่จะสร้างรถสปอร์ต อเมริกันพันธุ์แท้แบบแรกขึ้นมาบ้าง เอิร์ล ตัดสินใจให้ โรเบิร์ต แม็กลีน (Robert McLean) วิศวกรหนุ่มไฟแรง ออกแบบรถสปอร์ตรุ่นใหม่นี้

2 มิถุนายน 1952 ฮาร์โลว์ เคอร์ติส (Harlow Curtice) ประธานจีเอ็ม และโทมัส คีตติง (Thomas Keating) ผู้จัดการทั่วไปของเชฟโรเลต อนุมัติให้เอิร์ลเดินหน้า โครงการผลิต รถสปอร์ตรุ่นนี้ต่อไปภายใต้รหัส EX-122 จากนั้นไม่นานนัก เอิร์ล และ ไมรอน สก็อตต์ (Myron Scott) จากบริษัทโฆษณาแคมป์เบลล์-อีวอลด์ (Campbell-Ewald) ที่ดูแลงาน โฆษณาของเชฟโรเลตในขณะนั้น ร่วมกันตัดสินใจ ตั้งชื่อรถสปอร์ต รุ่นใหม่นี้ว่า คอร์เวตต์ (Corvette)

เชฟโรเลตเปิดตัวคอร์เวตต์สู่สาธารณะชนครั้งแรกในงาน โมโตรามา ออโต่โชว์ (Motorama Auto Show) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 1953 จากนั้นเพียง 6 เดือน คอร์เวตต์รุ่นต้นแบบ คันแรกก็ออกจากสายการผลิตของศูนย์การผลิตในเมือง ฟลินท์ มลรัฐมิชิแกน (Flint, Michigan) สหรัฐอเมริกา เมื่อ 30 มิถุนายน 1953 โดยผลิตขึ้นเป็นพิเศษ ในจำนวน จำกัดเพียง 300 คันเท่านั้น (ไม่รวมอีก 15 คันที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์)

โดยทุกคันจะถูกพ่นด้วยสีขาว โปโล ไวต์ (Polo White) และห้องโดยสารสีแดง สปอร์ตสแมน (Sportsman Red) ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3,900 ซีซี 150 แรงม้า (HP) ที่ 4,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Power Glide 2 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง อีกทั้งยังเป็น รถสปอร์ต แบบแรกในโลกที่ใช้ตัวถังทำจากไฟเบอร์กลาสทั้งคัน

เมื่อมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้ามากขึ้น ในปี 1954 เชฟโรเลตตัดสินใจเดินหน้าโครงการ คอร์เวตต์ต่อไป แต่เปลี่ยนวิธีทำตลาดจากเดิมที่เคยสงวนไว้ให้กับบุคคลสำคัญ มาเป็น การทำตลาดให้กับประชาชนทั่วไป และเปลี่ยนมาใช้ตัวถังเหล็กกล้าธรรมดา คอร์เวตต์ รุ่นแรกสำหรับลูกค้าทั่วไป หรือ รุ่น C1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1956 นับแต่นั้นมาการพัฒนา เชฟโรเลต คอร์เวตต์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทั้งรุ่น C2 ในปี 1963 รุ่น C3 ในปี 1968 รุ่น C4 ในปี 1984 รุ่น C5 ในปี 1997 และล่าสุดกับรุ่น C6 ในปี 2004

ปัจจุบันนี้ คอร์เวตต์ ถูกผลิตขึ้นที่ศูนย์การผลิตฯของจีเอ็มในเมืองโบว์ลิง กรีน มลรัฐ เคนตักกี สหรัฐอเมริกา (Bowling Green, Kentucky) เมืองเดียวกับที่มีการจัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ คอร์เวตต์ สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ รวมทั้งจัดแสดง รถคอร์เวตต์รุ่นต่าง ๆ ที่โด่งดังในอดีตไว้ให้ผู้สนใจได้เข้าเยี่ยมชม




กำลังโหลดความคิดเห็น