อาจเป็นเพราะความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่อยากได้รถยนต์แบบทูนหรือทรีอินวัน เรียกว่า ใช้งานได้หลากรูปแบบภายในคันเดียว เลยทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับตัวและพลิกแนวคิดในการพัฒนารถยนต์เพื่อให้สอดรับกับความต้องการเหล่านี้
สาเหตุนี้เองสายพันธุ์โทเลโดก็ต้องตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้เช่นกัน ซึ่งทางเซียทจัดการปรับภาพลักษณ์ของ รุ่นใหม่ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ 3 ของรถยนต์รุ่นนี้จากเดิมที่อิงพื้นฐานอยู่บนตัวถังซีดาน 4 ประตูให้กลายเป็น แฮทช์แบ็ก 5 ประตูท้ายตัด และได้นำคันจริงของโทเลโดใหม่ออกอวดโฉมอย่างเป็นทางการในปารีส มอเตอร์โชว์ 2004 ซึ่งเริ่มไปเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา
ชื่อของโทเลโดเป็นที่รู้จักในตลาดมาตั้งแต่ปี 1991 ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นที่ 2 ในปี 1998 ซึ่งในรุ่นนี้ เมืองไทยมีเข้ามาทำตลาดด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 2 รุ่นพัฒนาบนตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู ก่อนที่เซียทจะปฏิวัติแนวคิดในรุ่นใหม่ล่าสุด และนำออกมาหยั่งเชิงตลาดและแฟนๆ ดั้งเดิมกันก่อนกับรุ่นต้นแบบที่ชื่อว่า โทเลโด ปอร์โตติโป (TOLEDO PORTOTIPO) ที่เปิดตัวในงานแมดริด มอเตอร์โชว์ ประเทศสเปน ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจากนั้นเพียง 2 เดือนก็ไฟเขียวเปิดตัวรุ่นจำหน่ายจริงออกมาให้เห็น ก่อนที่จะเริ่มขายจริงกันในปลายปีนี้
ส่วนรุ่นลีออน (LEON) ซึ่งเป็นเวอร์ชันแฮทช์แบ็ก 5 ประตูและใช้พื้นฐานรวมถึงโครงสร้างตัวถังร่วมกับโทเลโดรุ่นที่แล้ว ทางเซียทยังไม่เปิดเผยว่าจะทำตลาดต่อไปหรือไม่ แต่ก็มีแนวโน้มว่าชื่อนี้จะสิ้นสุดแค่นี้ เพราะจากการที่เซียทพลิกตลาดให้กับโทเลโดหากยังผลิตลีออนใหม่ออกมา โอกาสที่จะทับตลาดกันก็มีสูงมากรูปลักษณ์ของโทเลโดใหม่ถูกถอดแบบมาจากรุ่นต้นแบบ เป็นทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตูคันใหญ่ ซึ่งมีความยาว 4,500 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 60 มิลลิเมตร) กว้าง 1,770 มิลลิเมตร (+30 มิลลิเมตร) และสูง 1,570 มิลลิเมตร
ส่วนรายละเอียดทางด้านพื้นฐานทางวิศวกรรมนั้น มีการเปิดเผยว่า ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังร่วมกับกอล์ฟใหม่ เหมือนกับรถยนต์ร่วมค่ายโฟล์คสวาเกนยี่ห้ออื่นๆ เช่น ออดี้ เอ3 และสโกดา ออกตาเวีย
เครื่องยนต์ที่จะถูกส่งทำตลาดในช่วงแรกมีให้เลือกหลากหลายพอสมควร ซึ่งคุ้นเคยกันดีสำหรับสาวกของโฟล์คสวาเกน เริ่มต้นกับรุ่นเบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี 102 แรงม้า และเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน 2,000 ซีซี หรือเอฟเอสไอ 150 แรงม้า
ส่วนเทอร์โบดีเซลให้เลือก 2 รุ่นบนพื้นฐานของบล็อก 4 สูบ คือ 1,900 ซีซี 77 แรงม้า และ 2,000 ซีซี 140 แรงม้า ขณะที่ระบบเกียร์ทางเซียทจะติดตั้งแบบธรรมดา 6 จังหวะเป็นอุปกรณ ์มาตรฐานจากโรงงาน
ถ้าอยากจะเลือกแบบสบายก็ต้องจ่ายเพิ่ม และมีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมโหมดทิปทรอนิก หรือเกียร์ธรรมดาพร้อมระบบคลัตช์ไฟฟ้า ดีเอสจี 6 จังหวะ ที่มีการ ทำงานคล้ายกับระบบเซเลสปีดของอัลฟา
เซียทจะเริ่มทำตลาดยุโรปในช่วงปลายปี ส่วนเมืองไทย งานนี้คงต้องวัดใจว่าทางผู้จำหน่ายอย่างยนตรกิจจะเอาเช่นไร หลังจากปล่อยให้เซียทไร้ความเคลื่อนไหวมานานเกือบ จะเป็นปีแล้ว
อ่านรายละเอียดรถที่มาโชว์เพิ่มเติมที่นี่
เปิดฉากปารีส มอเตอร์โชว์
MAZDA 5 : เปิดมิติใหม่สปอร์ตมินิแวน
RENAULT WIND : โรดสเตอร์ตัวจริง
FERRARI F430 : เปลี่ยนชื่อรุ่นเพิ่มความจุเครื่อง
FORD FOCUS : ใหม่ สด ตลอดคัน
MERCEDES-BENZ VISION R&B : 2 ความอเนกประสงค์ต่างระดับ