ตลาดรถปิกอัพในไทยใหญ่และมียอดขายมากที่สุดในรถทุกประเภท เมื่อมีรถรุ่นใหม่เปิดตัว โหงวเฮ้งดีและเป็นยี่ห้อดัง ทั้งยังมีความใกล้เคียงรถเก๋ง ใช้แทนกันพอได้ จึงเกิดความฮือฮาไปทั่วประเทศ ประโยคซ้ำๆ TOYOTA VIGO ดีไหม น่าซื้อไหม ? หลายคนบอกว่า ทั้งสวย ใหญ่ หรู แรง แต่ไม่แพง TOYOTA VIGO เป็นรถดีเลิศขนาดนั้นเชียวเหรอ เป็นรถเทวดา ไม่มีข้อเสียเลยเหรอ ? อ่านบทวิเคราะห์และทดสอบสั้นๆ แต่ตรงประเด็น
++ทำไมถึงดีเลิศ ?++
ก่อนจะอธิบายทุกอย่างให้ทราบ จำ 2 ประโยคนี้ไว้ 1. มาทีหลังดังกว่า 2. ทีใครทีมัน
โตโยต้า ทำยอดขายรถปิกอัพในไทยแพ้อีซูซุมาตลอด 20 กว่าปี ทั้งที่ทั่วโลกไม่เคยแพ้ และในหลายประเทศโตโยต้าชนะห่าง นับเป็นหนามยอกอกของโตโยต้าในไทยมาตลอด โจทย์สำคัญเดี่ยวๆ คือ จะทำอย่างไรให้ชนะอีซูซุได้ ? แม้จะมีหลายคำตอบ คือ ไม่ใช่แค่ตัวรถ แต่ต้องรวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและโฆษณาด้วย สารพัดจะหาแนวทางที่จะเอาชนะ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยทำได้เลย บางปีถูกทิ้งห่างด้วยซ้ำ

แต่ตัวแปรสำคัญที่จะพาไปสู่ชัยชนะก็คือตัวรถ ต้องเหนือกว่าและตรงใจคนไทย เรื่องการตลาดไว้ว่ากันทีหลัง ทำรถดีออกมาให้ได้ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ใช่โตโยต้าจะไม่พยายามพัฒนารถให้ดี ทำมาตลอด แต่ไม่ตรงใจคนไทยนัก แม้แต่ช่วงที่อีซูซุรุ่นเก่า (พวกมังกรทอง) อยู่ในช่วงปลายอายุตลาดแล้ว ทำตลาดมา 10 ปี โตโยต้าทุ่มทุ่นเปิดตัวโฉมใหม่เป็นไทเกอร์ในช่วงปี 1998-1999 ก็ยังเอาไม่อยู่ อีซูซุเก่าทุกอย่างแต่ขายดีกว่า พออีซูซุถึงคราวเปลี่ยนโฉมเป็นดีแมคซ์ช่วงกลางปี 2002 ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มจุดเด่น โตโยต้า ไทเกอร์ ที่กลายเป็นมีความสดน้อยกว่า ก็ยิ่งหมดหวังจะชนะๆ เพราะตอนที่สดกว่ายังแพ้โตโยต้าเปลี่ยนเครื่องเป็นคอมมอนเรลไฮเทค ปรับโฉมเพิ่มความสวยก็แล้ว ก็เอาอีซูซุไม่อยู่ ความหวังจะโค่นแชมป์ครั้งใหม่นี้ ต้องเล่นของหนัก เพราะพลาดไปหลายครั้งแล้ว และพลาดอีกครั้งก็คงหมดแรง
โตโยต้า กำหนดอายุตลาดของรถปิกอัพแต่ละรุ่นไว้ประมาณ 8 ปี ในขณะที่อีซูซุ ไม่แน่นอน รุ่นที่แล้วขายไม่แผ่วก็ยืดอายุได้นานถึง 14 ปี แต่ก็พอเดาได้ว่าไม่น่าเร็วกว่า 7-8 ปี ในรุ่นปัจจุบัน เมื่อแพ้และไม่มีทีท่าแซง อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีถ้าเพิ่มยอดขายทั่วโลกได้ โตโยต้าจะเปลี่ยนรุ่นรถเร็วกว่าปกติสักปีสองปีก็คงไม่เสียหายอะไรนัก ไทเกอร์ที่เพิ่งตกรุ่นไป จึงทำตลาดได้แค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น
ความบังเอิญอยู่ที่ ขณะที่โครงการพัฒนา วีโก้ ใหม่ (ตอนแรกคงไม่สรุปชื่อรุ่น) ในชื่อโครงการว่า IMV = INOVATIVE INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VEHICLE เริ่มต้นในช่วงปี 2000-2001 ก็จริง แต่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง วาดแบบไปได้เยอะ กำลังจะทำรถจำลอง ก็ตรงกับที่อีซูซุเปิดตัวดีแมคซ์ออกมาในช่วงกลางปี 2002 ในขั้นตอนการพัฒนา จึงเหลือเวลาอีก 2 ปีกว่าจะถึงกำหนดเปิดตัวขายของโตโยต้ารุ่นใหม่ !

เมื่อเห็นคู่แข่งรายหลักเปิดตัวรุ่นใหม่คันจริง ก็มีโอกาสปรับตัวกับปรับปรุงรถได้ทัน และแน่นอนว่าต้องซื้อดีแมคซ์หลายคันเข้าโครงการวิจัยและพัฒนารถปิกอัพโตโยต้าไปหลายคัน อย่าตกใจหรือรีบสรุปว่า โตโยต้าจะซื้อไปลอกเลียนแบบ เพราะไม่ใช่แน่ๆแค่ซื้อไปเปรียบเทียบและรื้อดู บริษัทรถรายใดก็ทำเช่นนี้ อีซูซุก็ทำ ช่วงปี 2002 (2 ปีเศษที่ผ่านมา) ผู้บริหารโตโยต้าจึงมีโจทย์ให้ทีมงานพัฒนาที่ชัดเจนและง่ายๆ ชี้ไปที่รถอีซูซุ ดีแมคซ์จอดอยู่ แล้วบอกว่า รุ่นใหม่ของโตโยต้า ต้องสวยกว่า ใหญ่กว่า แรงกว่า หรูกว่า แต่ต้องไม่แพง และต้องทำให้ได้ใน 2-3 ปี ผลสำเร็จก็ออกมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2004 คล้อยหลังดีแมคซ์เกือบ 2 ปีครึ่ง เวลาเท่านี้ทำอะไรได้ตั้งเยอะในการพัฒนารถ
ลองนึกดูง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นผู้บริหารบริษัทรถที่แพ้คู่แข่งรายใดมาตลอด และมีโอกาสซื้อรถคู่แข่งมาเปรียบเทียบ คุณจะสั่งงานทีมพัฒนาแบบใด และสมมุติถ้าคุณเป็นหนึ่งในทีมนั้น มีรถคู่แข่งสารพัดยี่ห้อจอดอยู่ มีเวลา 2-3 ปี จะทำรถรุ่นใหม่ให้ออกมาเหนือกว่าได้ไหม
ไม่เฉพาะแต่โตโยต้าหรอกที่มีแนวทางแบบนี้ บริษัทรถไหนๆ ก็ทำแบบนี้ ต้องการชนะก็ต้องทำให้เหนือกว่า พอเสร็จแล้วก็เหนือกว่าจริงๆ และรายที่ถูกเกทับเอาชนะ ก็ซุ่มพัฒนารถเอามาเกทับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า วนเวียนกันแบบนี้ ตามประโยคข้างต้น คือ มาทีหลังดังกว่า หรือทีใครทีมัน เพียงแต่ระหว่างโตโยต้ากับอีซูซุในไทยนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย โตโยต้าจะมาทีหลังจะมาใหม่ยังไงก็แพ้ พอมาคราวนี้โหงวเฮ้งดี น่าจะชนะ ก็เลยเป็นเรื่องแปลก เพราะคนไทยไม่คุ้น ทั้งการที่มาทีหลังดังกว่า หรือทีใครทีมัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในวงการรถทั่วโลก

++ เปรียบเทียบกับนักมวย ++
อีกเรื่องที่จะช่วยให้หายงงว่า ทำไมวีโก้ ถึงดีสารพัดจะดี ให้นึกถึงนักมวยที่ชกกัน คุณมีนักมวยอยู่ในค่าย ฝึกซ้อมมาอย่างดี มั่นใจทุกคน แต่ที่ผ่านมา กี่คนต่อกี่คน พอออกไปชกก็แพ้กลับมาทุกที ฟิตซ้อมใหม่มั่นใจแค่ไหนก็แพ้ จะแพ้มากแพ้น้อยก็แพ้ แต่ไม่ท้อ
คราวนี้คุณจะปั้นนักมวยหน้าใหม่ หวังเป็นไม้ตายของค่าย อีกทั้งยังมีนักมวยของคู่แข่งมากักไว้ในค่าย (เปรียบเปรยว่าซื้อรถคู่แข่งมาไว้เปรียบเทียบ) ในการซ้อม คุณก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้นักมวยของคุณมีโอกาสชนะฝ่ายตรงข้าม เมื่อถึงเวลาจะขึ้นชก ถ้านักมวยคุณไม่พร้อม ผอมแห้งแรงน้อย ต่อยมั่ว ดูโหงวเฮ้งแล้วแย่กว่าฝ่ายตรงข้ามที่ยืนรออยู่อย่างเปิดเผย คุณจะส่งนักมวยคุณไปแพ้หรือไปตายไหม ?
ใครๆ ก็อยากชนะ ยิ่งเมื่อแพ้มาตลอด ไม่มีใครกำหนดเวลาว่าห้ามขึ้นชกครั้งใหม่ช้า คุณกำหนดเอง ถ้าพร้อมเมื่อไรก็ส่งนักมวยใหม่ขึ้นชก นักมวยของคุณก็ต้องแจ๋วทุกด้าน แม้ไม่มีใครรับรองว่าจะชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็หวังเกินครึ่งแน่ๆ ที่จะชนะ
ทั้งหมดเป็นทีมาของ วีโก้ ที่ออกมาแล้วดูเหมือนเป็นรถเทวดา ดีไปหมด เพราะประโยคที่ว่า มาทีหลังดังกว่า, ที่ใครทีมัน และเรื่องของค่ายมวยกับนักมวย ไม่แปลกที่ค่ายซึ่งเป็นค่ายใหญ่ แต่แพ้มาตลอด เมื่อหวังชนะ ก็ต้องส่งมวยมือดีขึ้นชก ขืนส่งมวยห่วยขึ้นชก ก็แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งและโดนด่าว่า มวยห่วยแบบนี้จะเอามาชกทำไม ไม่มีใครบังคับให้รีบชก พร้อมเมื่อไหรค่อยชก วีโก้ จึงเป็นมวยมือดีสุดๆ เท่าที่โตโยต้าเคยปั้นมา
คิดง่ายๆ ว่า วีโก้ ออกหลังดีแมคซ์ตั้ง 2 ปีกว่า เวลาเท่านั้นโตโยต้าทำอะไรได้ตั้งเยอะ ทิ้งช่วงห่างกันขนาดนี้ ถ้าตอนนี้เอามวยห่วยขึ้นชก ก็คงทั้งแพ้ทั้งโดนเย้ยว่า จะเอามวยห่วยมาชกให้ตายเปล่าทำไม
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโตโยต้าจะกระชากแชมป์ไปได้หรือไม่ แต่ย่อมทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้มาก อีซูซุย่อมไม่อยู่นิ่ง ต้องปรับตัวในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ฟิตตัวนักมวย เพียงแต่คราวนี้อีซูซุลำบากเล็กน้อยที่ต้องใช้นักมวยเดิมมาปรับปรุง ไม่ว่าจะทำยังไงก็ต้องเป็นตัวถังหลักดีแมคซ์ เพราะเพิ่งเปิดตัวมาได้แค่ 2 ปีกว่า จะไม่มีการเปลี่ยนโฉมแบบโมเดลเชนจ์ ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
ถ้าสื่อฯ ใดเดาว่าอีซุซุจะเปลี่ยนโฉมมาสู้ ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะเพิ่งเปิดตัวมาแค่ 2 ปีเศษ จึงจะทำได้แค่ปรับปรุง ส่วนโฉมอย่างมากก็ได้แค่ปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์เท่านั้น และในช่วงนี้ก็ไม่ใช่บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ด้วย ก็แค่แต่งหน้าทาปากเปลี่ยนกันชน-กระจัง แม้แต่ไฟก็ยังน่าจะเป็นทรงเดิมแต่เปลี่ยนลวดลายเท่านั้น ภายในห้องโดยสาร น่าจะเปลี่ยนเบาะ และรายละเอียดของมาตรต่างๆ ไม่ถึงกับเปลี่ยนยกแผงคอนโซล นั่นต้องรอให้ทำตลาดครบแถวๆ 4 ปี (หรืออีก 2 ปีนับจากนี้) แต่ก็ไม่แน่ถ้า วีโก้แรงไม่หยุด อีซูซุก็ต้องเร่งบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ส่วนจะโมเดลเชนจ์ก่อนปี 2008 ลืมไปได้เลย

++ทดสอบ++
คนส่วนใหญ่มักตั้งคำถามสั้นๆ เช่น วีโก้ดีไหม น่าซื้อไหม ขับดีไหม ? ผมได้ไปทดสอบเป็นระยะทางพอสมควรที่จังหวัดกระบี่ ทั้งด้านสมรรถนะและแข่งประหยัดน้ำมัน จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ก็หาคำตอบได้เองว่าดีหลายอย่าง เพราะครั้งนี้โตโยต้าหวังล้มแชมป์จึงส่งมวยมือดีขึ้นชก คำตอบจาก วรพล สิงห์เขียวพงษ์
สวยไหม ? สวย ดูทันสมัย บางคนบอกว่าแค่พอใช้ได้ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ไม่ว่าใครจะมองว่ายี่ห้อใดสวยกว่า แต่ไม่แพ้ลุ่ยเหมือนตอนเป็นโฉมไทเกอร์ วีโก้นับเป็นการปฏิวัติการออกแบบรถปิกอัพยุคใหม่ เหมือนกับพวกรถเก๋งในช่วงปี 2000 คือ เปลี่ยนเป็นทรงรถยุคใหม่กระจกลาดเทมาก ทรงอ้วนป่อง และมนไปหมดทั้งคัน
ใหญ่ไหม กว้างไหม ? ก็เห็นๆ อยู่แล้ว คันโตเท่าบ้าน จนบางครั้งคิดว่าอะไรจะต้องทำให้ใหญ่ขนาดนี้
แรงไหม ? รุ่นเดิม 3.0 มี 125 แรงม้า ก็แรงอยู่แล้ว ดูสเปคก็เห็น รุ่นใหม่ 3.0 เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 163 แรงม้า แรงทั้งต้นทั้งปลายแหงๆ ส่วนรุ่น 2.5 เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 120 แรงม้า ก็มองข้ามไม่ได้ เพราะวิ่งดีใช้ได้ จะหาว่าผมเชียร์ก็ไม่ได้ เห็นสเปคใครๆ ก็เดาออกว่าแรงจริงๆ อยากทราบความเร็วปลาย ทางโล่งๆ ไหลได้เกิน 170-180 กม/ชม. แหงๆ แต่จะขับเร็วขนาดนั้นไปทำไมกับรถปิกอัพ !
หรูไหม ? ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าใช่ และโตโยต้าก็เน้นให้เป็นแบบนั้น แต่วัสดุบางอย่างก็ยังเป็นตามราคารถ ไม่ถึงกับหรูแบบเนียนสุดๆ
เกาะไหม? รุ่นเก่าแข็ง ใครก็บอก วิศวกรโตโยต้าจะไม่ทราบเหรอ รุ่นใหม่จึงนุ่มและเกาะขึ้น แต่จะให้นิ่มแบบคัมรีและเกาะแบบเซลิกาคงไม่ใช่
กินน้ำมันไหม ? ม้าฝูงโต จะให้กินหญ้ากำเดียวแล้วควบได้ 10 รอบสนามคงไม่ได้ ขับความเร็วคงที่แถวๆ 65 กม./ชม. ทำได้แถวๆ 20 กม./ล. ดังนั้นถ้าขับปกติก็น่าจะใช้น้ำมันคุ้มค่ากับความแรงที่มีอยู่
อย่าตื่นเต้น วีโก้ ไม่ใช่รถเทวดา เพียงแต่ดูดีไปหมด เพราะเป็นมวยหน้าใหม่ที่หวังล้มแชมป์ ย่อมต้องส่งมวยสุดเจ๋งขึ้นชก ถ้าชกดีจริง อีกไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพลิกหากลยุทธ์ใหม่ให้นักมวยหน้าเดิมที่ชกดีอยู่แล้ว (ช่วงนี้เปลี่ยนตัวไม่ได้) มาอัดกันให้หนักกว่าเก่า เพียงแต่คราวนี้คนไทยตื่นเต้น เพราะโตโยต้าไม่เคยมีมวยโหงวเฮ้งดีจนน่าจะชนะมาตลอด 20 กว่าปี
ทีใครทีมัน มาทีหลังดังกว่า พลิกไปพลิกมาเป็นเรื่องปกติ
++ทำไมถึงดีเลิศ ?++
ก่อนจะอธิบายทุกอย่างให้ทราบ จำ 2 ประโยคนี้ไว้ 1. มาทีหลังดังกว่า 2. ทีใครทีมัน
โตโยต้า ทำยอดขายรถปิกอัพในไทยแพ้อีซูซุมาตลอด 20 กว่าปี ทั้งที่ทั่วโลกไม่เคยแพ้ และในหลายประเทศโตโยต้าชนะห่าง นับเป็นหนามยอกอกของโตโยต้าในไทยมาตลอด โจทย์สำคัญเดี่ยวๆ คือ จะทำอย่างไรให้ชนะอีซูซุได้ ? แม้จะมีหลายคำตอบ คือ ไม่ใช่แค่ตัวรถ แต่ต้องรวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและโฆษณาด้วย สารพัดจะหาแนวทางที่จะเอาชนะ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยทำได้เลย บางปีถูกทิ้งห่างด้วยซ้ำ
แต่ตัวแปรสำคัญที่จะพาไปสู่ชัยชนะก็คือตัวรถ ต้องเหนือกว่าและตรงใจคนไทย เรื่องการตลาดไว้ว่ากันทีหลัง ทำรถดีออกมาให้ได้ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ใช่โตโยต้าจะไม่พยายามพัฒนารถให้ดี ทำมาตลอด แต่ไม่ตรงใจคนไทยนัก แม้แต่ช่วงที่อีซูซุรุ่นเก่า (พวกมังกรทอง) อยู่ในช่วงปลายอายุตลาดแล้ว ทำตลาดมา 10 ปี โตโยต้าทุ่มทุ่นเปิดตัวโฉมใหม่เป็นไทเกอร์ในช่วงปี 1998-1999 ก็ยังเอาไม่อยู่ อีซูซุเก่าทุกอย่างแต่ขายดีกว่า พออีซูซุถึงคราวเปลี่ยนโฉมเป็นดีแมคซ์ช่วงกลางปี 2002 ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มจุดเด่น โตโยต้า ไทเกอร์ ที่กลายเป็นมีความสดน้อยกว่า ก็ยิ่งหมดหวังจะชนะๆ เพราะตอนที่สดกว่ายังแพ้โตโยต้าเปลี่ยนเครื่องเป็นคอมมอนเรลไฮเทค ปรับโฉมเพิ่มความสวยก็แล้ว ก็เอาอีซูซุไม่อยู่ ความหวังจะโค่นแชมป์ครั้งใหม่นี้ ต้องเล่นของหนัก เพราะพลาดไปหลายครั้งแล้ว และพลาดอีกครั้งก็คงหมดแรง
โตโยต้า กำหนดอายุตลาดของรถปิกอัพแต่ละรุ่นไว้ประมาณ 8 ปี ในขณะที่อีซูซุ ไม่แน่นอน รุ่นที่แล้วขายไม่แผ่วก็ยืดอายุได้นานถึง 14 ปี แต่ก็พอเดาได้ว่าไม่น่าเร็วกว่า 7-8 ปี ในรุ่นปัจจุบัน เมื่อแพ้และไม่มีทีท่าแซง อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีถ้าเพิ่มยอดขายทั่วโลกได้ โตโยต้าจะเปลี่ยนรุ่นรถเร็วกว่าปกติสักปีสองปีก็คงไม่เสียหายอะไรนัก ไทเกอร์ที่เพิ่งตกรุ่นไป จึงทำตลาดได้แค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น
ความบังเอิญอยู่ที่ ขณะที่โครงการพัฒนา วีโก้ ใหม่ (ตอนแรกคงไม่สรุปชื่อรุ่น) ในชื่อโครงการว่า IMV = INOVATIVE INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VEHICLE เริ่มต้นในช่วงปี 2000-2001 ก็จริง แต่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง วาดแบบไปได้เยอะ กำลังจะทำรถจำลอง ก็ตรงกับที่อีซูซุเปิดตัวดีแมคซ์ออกมาในช่วงกลางปี 2002 ในขั้นตอนการพัฒนา จึงเหลือเวลาอีก 2 ปีกว่าจะถึงกำหนดเปิดตัวขายของโตโยต้ารุ่นใหม่ !
เมื่อเห็นคู่แข่งรายหลักเปิดตัวรุ่นใหม่คันจริง ก็มีโอกาสปรับตัวกับปรับปรุงรถได้ทัน และแน่นอนว่าต้องซื้อดีแมคซ์หลายคันเข้าโครงการวิจัยและพัฒนารถปิกอัพโตโยต้าไปหลายคัน อย่าตกใจหรือรีบสรุปว่า โตโยต้าจะซื้อไปลอกเลียนแบบ เพราะไม่ใช่แน่ๆแค่ซื้อไปเปรียบเทียบและรื้อดู บริษัทรถรายใดก็ทำเช่นนี้ อีซูซุก็ทำ ช่วงปี 2002 (2 ปีเศษที่ผ่านมา) ผู้บริหารโตโยต้าจึงมีโจทย์ให้ทีมงานพัฒนาที่ชัดเจนและง่ายๆ ชี้ไปที่รถอีซูซุ ดีแมคซ์จอดอยู่ แล้วบอกว่า รุ่นใหม่ของโตโยต้า ต้องสวยกว่า ใหญ่กว่า แรงกว่า หรูกว่า แต่ต้องไม่แพง และต้องทำให้ได้ใน 2-3 ปี ผลสำเร็จก็ออกมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2004 คล้อยหลังดีแมคซ์เกือบ 2 ปีครึ่ง เวลาเท่านี้ทำอะไรได้ตั้งเยอะในการพัฒนารถ
ลองนึกดูง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นผู้บริหารบริษัทรถที่แพ้คู่แข่งรายใดมาตลอด และมีโอกาสซื้อรถคู่แข่งมาเปรียบเทียบ คุณจะสั่งงานทีมพัฒนาแบบใด และสมมุติถ้าคุณเป็นหนึ่งในทีมนั้น มีรถคู่แข่งสารพัดยี่ห้อจอดอยู่ มีเวลา 2-3 ปี จะทำรถรุ่นใหม่ให้ออกมาเหนือกว่าได้ไหม
ไม่เฉพาะแต่โตโยต้าหรอกที่มีแนวทางแบบนี้ บริษัทรถไหนๆ ก็ทำแบบนี้ ต้องการชนะก็ต้องทำให้เหนือกว่า พอเสร็จแล้วก็เหนือกว่าจริงๆ และรายที่ถูกเกทับเอาชนะ ก็ซุ่มพัฒนารถเอามาเกทับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า วนเวียนกันแบบนี้ ตามประโยคข้างต้น คือ มาทีหลังดังกว่า หรือทีใครทีมัน เพียงแต่ระหว่างโตโยต้ากับอีซูซุในไทยนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย โตโยต้าจะมาทีหลังจะมาใหม่ยังไงก็แพ้ พอมาคราวนี้โหงวเฮ้งดี น่าจะชนะ ก็เลยเป็นเรื่องแปลก เพราะคนไทยไม่คุ้น ทั้งการที่มาทีหลังดังกว่า หรือทีใครทีมัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในวงการรถทั่วโลก
++ เปรียบเทียบกับนักมวย ++
อีกเรื่องที่จะช่วยให้หายงงว่า ทำไมวีโก้ ถึงดีสารพัดจะดี ให้นึกถึงนักมวยที่ชกกัน คุณมีนักมวยอยู่ในค่าย ฝึกซ้อมมาอย่างดี มั่นใจทุกคน แต่ที่ผ่านมา กี่คนต่อกี่คน พอออกไปชกก็แพ้กลับมาทุกที ฟิตซ้อมใหม่มั่นใจแค่ไหนก็แพ้ จะแพ้มากแพ้น้อยก็แพ้ แต่ไม่ท้อ
คราวนี้คุณจะปั้นนักมวยหน้าใหม่ หวังเป็นไม้ตายของค่าย อีกทั้งยังมีนักมวยของคู่แข่งมากักไว้ในค่าย (เปรียบเปรยว่าซื้อรถคู่แข่งมาไว้เปรียบเทียบ) ในการซ้อม คุณก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้นักมวยของคุณมีโอกาสชนะฝ่ายตรงข้าม เมื่อถึงเวลาจะขึ้นชก ถ้านักมวยคุณไม่พร้อม ผอมแห้งแรงน้อย ต่อยมั่ว ดูโหงวเฮ้งแล้วแย่กว่าฝ่ายตรงข้ามที่ยืนรออยู่อย่างเปิดเผย คุณจะส่งนักมวยคุณไปแพ้หรือไปตายไหม ?
ใครๆ ก็อยากชนะ ยิ่งเมื่อแพ้มาตลอด ไม่มีใครกำหนดเวลาว่าห้ามขึ้นชกครั้งใหม่ช้า คุณกำหนดเอง ถ้าพร้อมเมื่อไรก็ส่งนักมวยใหม่ขึ้นชก นักมวยของคุณก็ต้องแจ๋วทุกด้าน แม้ไม่มีใครรับรองว่าจะชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็หวังเกินครึ่งแน่ๆ ที่จะชนะ
ทั้งหมดเป็นทีมาของ วีโก้ ที่ออกมาแล้วดูเหมือนเป็นรถเทวดา ดีไปหมด เพราะประโยคที่ว่า มาทีหลังดังกว่า, ที่ใครทีมัน และเรื่องของค่ายมวยกับนักมวย ไม่แปลกที่ค่ายซึ่งเป็นค่ายใหญ่ แต่แพ้มาตลอด เมื่อหวังชนะ ก็ต้องส่งมวยมือดีขึ้นชก ขืนส่งมวยห่วยขึ้นชก ก็แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งและโดนด่าว่า มวยห่วยแบบนี้จะเอามาชกทำไม ไม่มีใครบังคับให้รีบชก พร้อมเมื่อไหรค่อยชก วีโก้ จึงเป็นมวยมือดีสุดๆ เท่าที่โตโยต้าเคยปั้นมา
คิดง่ายๆ ว่า วีโก้ ออกหลังดีแมคซ์ตั้ง 2 ปีกว่า เวลาเท่านั้นโตโยต้าทำอะไรได้ตั้งเยอะ ทิ้งช่วงห่างกันขนาดนี้ ถ้าตอนนี้เอามวยห่วยขึ้นชก ก็คงทั้งแพ้ทั้งโดนเย้ยว่า จะเอามวยห่วยมาชกให้ตายเปล่าทำไม
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโตโยต้าจะกระชากแชมป์ไปได้หรือไม่ แต่ย่อมทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้มาก อีซูซุย่อมไม่อยู่นิ่ง ต้องปรับตัวในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ฟิตตัวนักมวย เพียงแต่คราวนี้อีซูซุลำบากเล็กน้อยที่ต้องใช้นักมวยเดิมมาปรับปรุง ไม่ว่าจะทำยังไงก็ต้องเป็นตัวถังหลักดีแมคซ์ เพราะเพิ่งเปิดตัวมาได้แค่ 2 ปีกว่า จะไม่มีการเปลี่ยนโฉมแบบโมเดลเชนจ์ ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
ถ้าสื่อฯ ใดเดาว่าอีซุซุจะเปลี่ยนโฉมมาสู้ ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะเพิ่งเปิดตัวมาแค่ 2 ปีเศษ จึงจะทำได้แค่ปรับปรุง ส่วนโฉมอย่างมากก็ได้แค่ปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์เท่านั้น และในช่วงนี้ก็ไม่ใช่บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ด้วย ก็แค่แต่งหน้าทาปากเปลี่ยนกันชน-กระจัง แม้แต่ไฟก็ยังน่าจะเป็นทรงเดิมแต่เปลี่ยนลวดลายเท่านั้น ภายในห้องโดยสาร น่าจะเปลี่ยนเบาะ และรายละเอียดของมาตรต่างๆ ไม่ถึงกับเปลี่ยนยกแผงคอนโซล นั่นต้องรอให้ทำตลาดครบแถวๆ 4 ปี (หรืออีก 2 ปีนับจากนี้) แต่ก็ไม่แน่ถ้า วีโก้แรงไม่หยุด อีซูซุก็ต้องเร่งบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ส่วนจะโมเดลเชนจ์ก่อนปี 2008 ลืมไปได้เลย
++ทดสอบ++
คนส่วนใหญ่มักตั้งคำถามสั้นๆ เช่น วีโก้ดีไหม น่าซื้อไหม ขับดีไหม ? ผมได้ไปทดสอบเป็นระยะทางพอสมควรที่จังหวัดกระบี่ ทั้งด้านสมรรถนะและแข่งประหยัดน้ำมัน จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ก็หาคำตอบได้เองว่าดีหลายอย่าง เพราะครั้งนี้โตโยต้าหวังล้มแชมป์จึงส่งมวยมือดีขึ้นชก คำตอบจาก วรพล สิงห์เขียวพงษ์
สวยไหม ? สวย ดูทันสมัย บางคนบอกว่าแค่พอใช้ได้ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ไม่ว่าใครจะมองว่ายี่ห้อใดสวยกว่า แต่ไม่แพ้ลุ่ยเหมือนตอนเป็นโฉมไทเกอร์ วีโก้นับเป็นการปฏิวัติการออกแบบรถปิกอัพยุคใหม่ เหมือนกับพวกรถเก๋งในช่วงปี 2000 คือ เปลี่ยนเป็นทรงรถยุคใหม่กระจกลาดเทมาก ทรงอ้วนป่อง และมนไปหมดทั้งคัน
ใหญ่ไหม กว้างไหม ? ก็เห็นๆ อยู่แล้ว คันโตเท่าบ้าน จนบางครั้งคิดว่าอะไรจะต้องทำให้ใหญ่ขนาดนี้
แรงไหม ? รุ่นเดิม 3.0 มี 125 แรงม้า ก็แรงอยู่แล้ว ดูสเปคก็เห็น รุ่นใหม่ 3.0 เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 163 แรงม้า แรงทั้งต้นทั้งปลายแหงๆ ส่วนรุ่น 2.5 เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 120 แรงม้า ก็มองข้ามไม่ได้ เพราะวิ่งดีใช้ได้ จะหาว่าผมเชียร์ก็ไม่ได้ เห็นสเปคใครๆ ก็เดาออกว่าแรงจริงๆ อยากทราบความเร็วปลาย ทางโล่งๆ ไหลได้เกิน 170-180 กม/ชม. แหงๆ แต่จะขับเร็วขนาดนั้นไปทำไมกับรถปิกอัพ !
หรูไหม ? ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าใช่ และโตโยต้าก็เน้นให้เป็นแบบนั้น แต่วัสดุบางอย่างก็ยังเป็นตามราคารถ ไม่ถึงกับหรูแบบเนียนสุดๆ
เกาะไหม? รุ่นเก่าแข็ง ใครก็บอก วิศวกรโตโยต้าจะไม่ทราบเหรอ รุ่นใหม่จึงนุ่มและเกาะขึ้น แต่จะให้นิ่มแบบคัมรีและเกาะแบบเซลิกาคงไม่ใช่
กินน้ำมันไหม ? ม้าฝูงโต จะให้กินหญ้ากำเดียวแล้วควบได้ 10 รอบสนามคงไม่ได้ ขับความเร็วคงที่แถวๆ 65 กม./ชม. ทำได้แถวๆ 20 กม./ล. ดังนั้นถ้าขับปกติก็น่าจะใช้น้ำมันคุ้มค่ากับความแรงที่มีอยู่
อย่าตื่นเต้น วีโก้ ไม่ใช่รถเทวดา เพียงแต่ดูดีไปหมด เพราะเป็นมวยหน้าใหม่ที่หวังล้มแชมป์ ย่อมต้องส่งมวยสุดเจ๋งขึ้นชก ถ้าชกดีจริง อีกไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพลิกหากลยุทธ์ใหม่ให้นักมวยหน้าเดิมที่ชกดีอยู่แล้ว (ช่วงนี้เปลี่ยนตัวไม่ได้) มาอัดกันให้หนักกว่าเก่า เพียงแต่คราวนี้คนไทยตื่นเต้น เพราะโตโยต้าไม่เคยมีมวยโหงวเฮ้งดีจนน่าจะชนะมาตลอด 20 กว่าปี
ทีใครทีมัน มาทีหลังดังกว่า พลิกไปพลิกมาเป็นเรื่องปกติ