หลังจากนิสสัน มอเตอร์ เข้ามาซื้อกิจการของนิสสัน ในประเทศไทยที่เป็นของตระกูล"พรประภา" ก็ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกเพื่อรุกตลาดรถเมืองไทยคือ นิสสัน เทียน่า และเมื่อเร็ว ๆนี้ทางนิสสัน ภายใต้การบริหารของญี่ปุ่นก็ได้ให้สื่อมวลชนทดสอบในเส้นทางกรุงเทพฯ-อุทัยธานี
ครั้งแรกที่ได้เห็นรูปโฉมภายนอกของ นิสสัน เทียน่า ก็ต้องขอบอกว่า ดูแล้วสะดุดตา ดูรถใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น เมื่อเดินดูรอบๆคัน รู้สึกว่าการออกแบบจะเน้นความโค้งมน ด้านหลังจะยกสูงในสไตล์รถยุโรป เส้นสายด้านข้างดูเป็นเส้นตรง และมีรูปทรงเป็นเหลี่ยมในสไตล์รถญี่ปุ่น ซึ่งผู้บริหารญี่ปุ่นบอกว่าการออกแบบรูปทรงแบบนี้เรียกว่า New Balanced Proportion
การออกแบบดังกล่าวข้างต้น จะเน้นที่การขยายความยาวระหว่างล้อหน้า-หลัง ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารยาวขึ้น ทรงตัวดีขึ้น ผนวกกับการมีระยะยื่นหน้าและหลังสั้น ส่งผลให้มีความคล่องตัวในการขับขี่ รวมถึงการกะระยะจอด จะทำได้ง่าย
เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสาร ต้องตะลึงกับการดีไซน์ เพราะมันคลาสสิกมาก ไม่หวือหวา แต่เป็นแบบเรียบง่าย ดูดี โดยเฉพาะการเลือกโทนสีเนื้อและลายไม้แบบด้านออกแบบมาได้อย่างลงตัว แผงคอนโซลหน้าถูกออกแบบให้มีความทันสมัย ดูแปลกตาดี แผงควบคุมระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงได้รับการออกแบบรวมกัน ให้ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ ที่แสดงถึงการทำงานของแต่ละฟังก์ชั่น ทั้งระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง และแสดงค่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มากครับในการเดินทางต่างจังหวัด
ซึ่งแผงควบคุมต่าง ๆ ที่ออกแบบมาให้ใช้ง่าย จึงทำให้นิสสัน ออกแบบพวงมาลัยให้ใช้งานแค่บังคับทิศทางอย่างเดียว โดยไม่ได้เป็นแบบมัลติฟังก์ชัน และโดยส่วนตัวผู้เขียนก็ไม่เห็นจำเป็น เพราะหากจะเปลี่ยนสถานีวิทยุหรือจะปรับความดังของวิทยุก็สามารถละมือจากพวงมาลัยไปจัดการได้
สำหรับที่นั่งด้านหลัง นั่งสบาย เบาะนั่งมีขนาดใหญ่ แถมมีแอร์ที่ด้านหลังคอนโซลกลางสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้รู้สึกหนาวได้เหมือนกัน ที่สำคัญยังมีม่านบังแดดที่กระจกหลังควบคุมขึ้นลงด้วยระบบไฟฟ้า ระบบไฟส่องสว่างและไฟอ่านหนังสือดูหรูมีระดับ
สรุปได้ว่าภายในผ่านเลยครับ หรูหราชนิดรถยุโรปมีสิทธิ์หนาวได้เหมือนกัน
แต่สิ่งที่ผู้เขียนชอบเห็นจะเป็นกุญแจรถ เพราะเจ้าของรถสามารถเปิดประตูรถโดยไม่ต้องไขกุญแจหรือกดรีโมตและปุ่มเปิด/ปิดล็อกประตู แต่ต้องพกเจ้าแผ่นกุญแจไว้กับตัวถึงจะเปิดได้ ไม่ต้องกดรีโมทให้เสียเวลา แถมเมื่อเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับก็สามารถสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจรถอีก ถือว่าคล่องตัวมากครับ
ทั้งหมดนี้ เกิดจากระบบกุญแจอัจฉริยะที่เรียกว่า Intelligent Key ทำหน้าที่รับ-ส่งสัญญาณกับตัวรถ โดย Intelligent Key จะถูกฝังไว้ที่เปิดประตูด้านหน้า
หันมาดูเครื่องยนต์กันบ้าง เทียน่าใช้เครื่องยนต์รหัส VQ 23 DE ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2349 ซีซี แบบ V6 DOHC 24 Valve ให้แรงม้าสูงสุด 173 แรงม้า ที 6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที และเมื่อเข้าประจำที่หลังพวงมาลัย ขอบอกว่าอัตราเร่งของเทียน่าค่อนข้างอืดไปเล็กน้อยไม่ว่าจะเป็นช่วงออกตัวหรือช่วงที่ต้องใช้ความเร็ว เนื่องจากต้องรอรอบพอสมควร จึงไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าที่ควร งานนี้อาจจะทำให้ขาซิ่งผิดหวังเล็กน้อย แต่หากขับแบบเรื่อย ๆ ไม่รีบ ก็ถือว่าใช้ได้ ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ทำได้ดี
สำหรับการเข้าโค้งถือว่าเกาะถนน ขับแล้วมั่นใจ พวงมาลัยแม่นยำ ขณะที่การทรงตัวถือว่าดีมาก ไม่มีอาการร่อนให้เห็นเมื่อใช้ความเร็ว 150-170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งตรงจุดนี้ต้องยกให้ช่วงล่างอิสระ Multi Link ใหม่ ประกอบด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท โดยพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งแต่ทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้น แถมนั่งแล้วสบายนุ่มนิ่ม
นิสสัน เทียน่า มีทั้งหมด 2 รุ่น คือ 230 JK ราคา 1,385,000 บาท และรุ่น 230 JM ราคา 1,465,000 บาท ซึ่งราคาสูสีกับคู่แข่งสัญชาติเดียวกัน แต่หากเทียบกับรถยุโรปรุ่นเล็กอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส ,บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ที่มีราคาค่าตัว 2-3 ล้านบาท เทียน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งความใหม่ สด หรูหรา แถมประหยัดเงินได้อีกโข ถ้าหากงานนี้คุณไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์