โตโยต้าสร้างความตะลึง ! ส่ง"วีโก้" ใหม่ป่วนตลาดปิกอัพ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ดีโฟร์ดีคอมมอนเรลรุ่นที่ 2 มีทั้ง 2.5 และ 3.0 อินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า และประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ชูจุดขายเป็นรถตัวถังใหญ่ที่สุด พร้อมความหรูหราสไตล์เก๋ง ทางด้าน"อีซูซุ"ก็เตรียมเปิดตัวคอมมอลเรลเดือนตุลาคมพร้อมกับ "เชฟโรเลต" แน่นอน
จากกระแสที่มีออกมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือนกับรูปภาพที่มีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เนต ทำให้ทางโตโยต้าต้องทำการเปิดตัวรถปิกอัพสายพันธุ์ใหม่ " ไฮลักซ์ วีโก้" ก่อนกำหนด และจะเปิดตัวสู่สาธารณชนในต้นเดือนกันยายน ด้านเจ้าตลาดรถปิกอัพอย่าง "อีซูซุ" เตรียมเปิดตัวรถปิกอัพ "ดีแมคซ์" ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลลงสนามในเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้น ตลาดรถปิกอัพในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จึงเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
โดย "วีโก้" รับการออกแบบใหม่ให้มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ทั้งความกว้าง ความยาว และความสูง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น และมีขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน ส่วนการออกแบบภายใน เน้นห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย มีการตกแต่งภายในหรูหราในระดับรถเก๋ง ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ในรถยนต์รุ่นนี้คือ เบรกมือเปลี่ยนไปไว้ที่คอนโซลกลาง เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งทั่วไป
รุ่นมาตรฐาน ความยาว x ความกว้าง x ความสูง 5,130 x 1,760 x 1,680 มม. ความยาวช่วงล้อ 3,085 มม. ความกว้างช่วงล้อ หน้า 1,510 มม. ความกว้างช่วงล้อ หลัง1,510 มม. กระบะท้าย…พื้นที่การบรรทุกเพิ่มขึ้น 15% ความยาวภายใน 2,315 มม.ความกว้างภายใน 1,520 มม. ความสูงภายใน 450 มม. โดยในรุ่นดับเบิ้ลแค็บ และเอ็กซ์ตร้าแค็บ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ โครงสร้างตัวรถใหญ่ขึ้นทุกมิติ 14% คือ 5,130 x 1,760 x 1,680 มม. ความยาวช่วงล้อ 3,085 มม. ความกว้างช่วงล้อ หน้า 1,510 มม. ความกว้างช่วงล้อ หลัง 1,510 มม. กระบะท้าย รุ่นดับเบิ้ลแค็บ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ…พี้นที่การบรรทุกเพิ่มขึ้น 30% รุ่นเอ็กซ์ตร้าแค็บ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ…พื้นที่การบรรทุกเพิ่มขึ้น 13%
สำหรับเครื่องยนต์ที่นำมาติดตั้งในวีโก้ แม้จะเป็นบล็อกเดิม D4D คอมมอนเรล 2KD-FTV 2,500 ซีซี และ 1 KD-FTV 3,000 ซีซี แต่ได้มีการพัฒนารายละเอียดของเครื่องยนต์ใหม่ ประหยัดน้ำมันขึ้น 29% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2L แต่พลังฉุดกระชากเพิ่มขึ้น โดยรุ่น 2,500 ซีซี เพิ่มขึ้นเป็น 120 แรงม้า (เดิม 102 แรงม้า และยังขายเป็นอีกรุ่นย่อยหนึ่งของวีโก้ด้วย) ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที และรุ่น 3,000 ซีซี เพิ่มขึ้นเป็น 163 แรงม้า (เดิม 125 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที จากการติดตั้งเทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ (I/C)
สำหรับไฮลักซ์ วีโก้นี้ ประกอบด้วยรถ 5 รุ่น 3 เกรด 28 แบบ โดยรุ่นตัวถังแบ่งเป็น 1.ขับเคลื่อน 2 ล้อมาตฐาน 2.ขับเคลื่อน 2 ล้อเอ็กซ์ตร้าแค็บ 3.ขับเคลื่อน 2 ล้อดับเบิลแค็บ 4.รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเอ็กซ์ตร้าแค็บ 5.ขับเคลื่อน 4 ล้อดับเบิลแค็บ
ส่วนเกรดทั้ง 3 เกรด แบ่งเป็น 1.เกรด G รุ่นท็อปที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง อาทิ ไฟตัดหมอก เบรกเอบีเอส เครื่องเสียงซีดีพร้อมเอ็มพี 3 กุญแจรีโมต อิมโมบิไลเซอร์ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ถุงลมนิรภัย ฯลฯ 2.เกรด E เป็นรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาตรฐาน อาทิ ไฟเบรกดวงที่ 3 กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อก กันชนสีเดียวกับตัวรถ ฯลฯ 3.เกรด J แบ่งเป็น J-PS ที่มีพวงมาลัยพาวเวอร์ และ J ที่ไม่มีพวงมาลัยพาวเวอร์
ทั้งนี้ รถทุกรุ่นมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ทั้ง 3 ขนาด รวมทั้งเกรดให้เลือกทั้ง 3 เกรด แล้วแต่ ความพอใจของลูกค้า ส่วนเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยเกียร์อัตโนมัติมีให้ 2 รุ่นเท่านั้นคือ รุ่นดับเบิลแค็บ เกรด G ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ช่วงล่างของรถรุ่นนี้ เป็นช่วงล่างระบบ TOP platform (Toyota Outstanding Performance Platform) ที่มีระบบกันสะเทือนนุ่มนวลแบบคอยล์สปริง พร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยจีโอเอ ซึ่งช่วยให้การขับขี่มั่นใจในทุกเส้นทาง
ด้านเจ้าตลาดรถปิกอัพอย่างอีซูซุ เตรียมที่จะเปิดตัวรถปิกอัพดีแมคซ์รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลออกสู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าทางอีซูซุรอดูความเคลื่อนไหวและราคาจำหน่ายของโตโยต้า ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกสู่ตลาด ส่วนเชฟโรเลต "โคโลราโด" รถคู่เหมือนของ "ดีแมคซ์" เตรียมนำเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลคอมมอนเรลออกมาแนะนำในช่วงเดือนตุลาคมเช่นกัน ซึ่งทางเชฟโรเลตจะนำเครื่องยนต์นี้เข้ามาเพิ่มไลน์ในรถรุ่นท็อป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
ไฮลักซ์ วีโก้ ผลิตที่ โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง จ.สมุทรปราการ เพื่อรองรับ ความต้องการของตลาดภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU : Complete Build Up Unit) ไปจำหน่ายยังกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และใช้ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเกือบ 100% ทำให้ โตโยต้า ต้องเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในทุกด้าน พร้อมทั้งมีแผนในการขยายการผลิต ที่โรงงานประกอบรถยนต์สำโรง จากเดิม 140,000 คันต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 280,000 คัน ต่อปี และคาดว่าสิ้นปีจะมียอดจำหน่ายที่ 150,000 คัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค่ายรถเปิดศึกพลังม้า จุดขายปิกอัพรุ่นใหม่
คลิกดูรูก "โตโยต้า วีโก้" เพิ่มเติมที่นี่
รุ่น | แบบ | ราคา/บาท |
Standard Cab | 3.0J สแตนดาร์ดแค็บ สีเมทัลลิก | 488,000 |
3.0J สแตนดาร์ดแค็บ | 481,000 | |
2.5J สแตนดาร์ดแค็บ พวงมาลัยเพาเวอร์ สีเมทัลลิก | 458,000 | |
2.5J สแตนดาร์ดแค็บ พวงมาลัยเพาเวอร์ | 451,000 | |
2.5J สแตนดาร์ดแค็บ สีเมทัลลิก | 428,000 | |
2.5J สแตนดาร์ดแค็บ | 421,000 | |
2.5J-ECO สแตนดาร์ดแค็บ สีเมทัลลิก | 398,000 | |
2.5J-ECO สแตนดาร์ดแค็บ | 391,000 | |
Extracab | 3.0G เอ็กซ์ตร้าแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 731,000 |
3.0E เอ็กซ์ตร้าแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 661,000 | |
2.5E เอ็กซ์ตร้าแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 631,000 | |
3.0G เอ็กซ์ตร้าแค็บ สีเมทัลลิก | 631,000 | |
2.5G เอ็กซ์ตร้าแค็บ สีเมทัลลิก | 591,000 | |
3.0E เอ็กซ์ตร้าแค็บ สีเมทัลลิก | 581,000 | |
2.5E เอ็กซ์ตร้าแค็บ สีเมทัลลิก | 551,000 | |
2.5J เอ็กซ์ตร้าแค็บ พวงมาลัยเพาเวอร์ สีเมทัลลิก | 508,000 | |
2.5J เอ็กซ์ตร้าแค็บ พวงมาลัยเพาเวอร์ | 501,000 | |
2.5J เอ็กซ์ตร้าแค็บ สีเมทัลลิก | 478,000 | |
2.5J เอ็กซ์ตร้าแค็บ | 471,000 | |
Doublecab | 3.0G ดับเบิ้ลแค็บ เกียร์อัตโนมัติ 4WD สีเมทัลลิก | 861,000 |
3.0G ดับเบิ้ลแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 821,000 | |
3.0E ดับเบิ้ลแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 751,000 | |
2.5E ดับเบิ้ลแค็บ 4WD สีเมทัลลิก | 721,000 | |
3.0G ดับเบิ้ลแค็บ เกียร์อัตโนมัติ สีเมทัลลิก | 761,000 | |
3.0G ดับเบิ้ลแค็บ สีเมทัลลิก | 721,000 | |
2.5E ดับเบิ้ลแค็บ สีเมทัลลิก | 631,000 | |
2.5J ดับเบิ้ลแค็บ สีเมทัลลิก | 568,000 | |
2.5J ดับเบิ้ลแค็บ | 561,000 |