ยกระดับการสร้างความกินดีมีสุขไปอีกขั้น "อายิโนะโมะโต๊ะ" กางแผนการดำเนินงานปี 68 กระตุ้นเศรษฐกิจไทย เสิร์ฟ 3 กลยุทธ์พิชิตใจคนรุ่นใหม่ 1) ขยายตลาดและสร้างการเติบโต 2) หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย 3) ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1. ขยายตลาดและสร้างการเติบโต อายิโนะโมะโต๊ะพัฒนาผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “กินดี มีสุข” มุ่งเสริมแกร่งกลุ่มเครื่องปรุงรสผ่านการปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เป็นมิตรเข้าถึงง่าย โดยใช้ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะสร้างประสบการณ์ความสนุกและความอร่อยในการทำอาหาร พร้อมการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่นักชิม ปรับการสื่อสารกาแฟเบอร์ดี้ให้ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
ทั้งยังเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์หมวดอาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบบ Ready-to-eat เจาะกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชีวิตรีบเร่งแต่ยังใส่ใจสุขภาพ นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโน ที่ใช้นวัตกรรมจาก “AminoScience” เพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของคนในทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ กลุ่มคนที่รักการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ใส่ใจด้านสุขภาพและความงาม ด้านเซอร์วิส “แอปพลิเคชัน i-LiveWell – แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน” บริษัทฯ วางแผนผนึกพันธมิตรธนาคาร ประกันสุขภาพ โค้ชสุขภาพ และ telemedicine เป็นต้น
2. หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย มุ่งสานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดูแลโภชนาการกีฬาและจุดแข็งด้าน “AminoScience” จากญี่ปุ่นสู่ไทย มาประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนมื้ออาหารแห่งชัยชนะ (Winning Meals® Kachimeshi) ซึ่งเป็นแผนโภชนาการกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เจลพลังงานอะมิโนไวทัลที่อุดมด้วยกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ซึ่งเป็นการปรับลุคใหม่ให้กับห้องอาหารของนักกีฬา นำเสนอโภชนาการที่ดี และพื้นที่กิจกรรมสำหรับพัฒนาศักยภาพและปลดล็อกพลังแห่งชัยชนะของทัพนักกีฬาไทย
3. ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับ (traceability) จากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
“จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าอายิโนะโมะโต๊ะจะบรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนความ “กินดี มีสุข” แก่สังคมไทยผ่านโภชนาการที่ดี ด้วยนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินงานที่ดีและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน”
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวว่า “จากความท้าทายของธุรกิจอาหารในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความใส่ใจเรื่อง ESG เราได้ปรับตัวรับทุกความท้าทายและพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อพิชิตใจคนยุคใหม่ ด้วยการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพที่ดีผ่าน “AminoScience” อันเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเรา เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการธุรกิจอาหาร โดยในปีที่ผ่านมา อายิโนะโมะโต๊ะ สร้างผลประกอบการด้วยมูลค่ากว่า 32,663 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์ 6 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหารในประเทศไทย ประจำปี 2567”
โดยในปีที่ผ่านมาได้เสิร์
ความสำเร็จในปี 2567 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เป็นการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้
ส่วน "รสดี" มีการพัฒนาสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกสุ
กลุ่มธุรกิจใหม่โดดเด่นด้วยการใช้ AminoScience จัดกิจกรรมเสริมสุขภาพตอบโจทย์
กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและร้านค้า มุ่งขับเคลื่อนวงการสตรีทฟู้
กลุ่มสุดท้ายคือ New Business Creation ด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหาร-
ทั้งนี้ สรุป 3 หัวข้อหลักของภาพรวมธุรกิจอาหารในปี 2567 ได้ดังนี้คือ 1) ปัญหาเงินเฟ้อ ที่ส่งผลราคาของวัตถุดิบ ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิ